“คารวะเซียวอ๋อง” ซ่งรั่วเจินทำความเคารพ
ฉู่อี้ชวนพยักหน้า แม้รู้สึกตกตะลึงภายในใจ กลับไม่เผยอารมณ์ใดผ่านทางสีหน้าเลยสักเศษเสี้ยว
“เสด็จพี่ ท่านเขาไปนั่งด้านในก่อนสักครู่ น้องห้าอยู่ด้านใน” ฉู่จวินถิงเอ่ยปากเสียงเรียบ ท่าทีมีเหตุผล
ฉู่อี้ชวนชะงักเล็กน้อย สายตาของเขากวาดมองทั้งสองคน หยั่งเดาภายในใจว่าดึกถึงเพียงนี้แล้วคงมิใช่ว่าทั้งสองคนยังมีเรื่องอะไรให้ทำหรอกกระมัง?
“ได้”
ซ่งรั่วเจินเองก็คิดไม่ถึงว่าที่ฉู่จวินถิงพูดเมื่อครู่ล้วนเป็นความจริง เซียวอ๋องตั้งใจเดินทางมายามวิกาล เขาให้คนไปรอภายในจวน ยึดมั่นจะไปส่งนางกลับก่อน
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันนั่งรถม้ากลับไปก็พอ ท่านกลับเข้าไปก่อนเถอะ ประเดี๋ยวเซียวอ๋องจะคอยนาน” ซ่งรั่วเจินพูด
สีหน้าฉู่จวินถิงไม่เปลี่ยนไป “เขารอสักครู่ได้ไม่เป็นไร ในเมื่อข้ารับเจ้ามา ย่อมต้องพาเจ้าไปส่งอย่างปลอดภัย”
“หม่อมฉันรู้ท่านกังวลความปลอดภัยของหม่อมฉัน ถ้าอย่างนั้นก็สามารถให้อวิ๋นหยางส่งหม่อมฉันกลับไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นบัดนี้คนที่หม่อมฉันล่วงเกินล้วนถูกจับไปแล้ว ไม่มีวันมีคนลงมือกับหม่อมฉันอีก”
ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ บัดนี้พวกฉินซวงซวงถูกขังอยู่ภายในคุก ไม่มีโอกาสออกมาได้
ส่วนเถียนเจียวเจียวและถังเสวี่ยหนิง แม้ว่าผลกระทบไม่ร้ายแรง แต่ถูกพากลับไปแล้วก็จะต้องถูกควบคุมและสั่งสอนอย่างเข้มงวด ยังไม่สามารถทำอันใดนางได้ในระยะเวลาอันสั้น
“เข้าใจคนถึงเพียงนี้เชียว?” ฉู่จวินถิงหัวเราะเบาๆ พลางพูดเย้าหนึ่งประโยค “เจ้าคิดเพื่อข้าถึงเพียงนี้ จะทำให้ข้าเข้าใจผิดได้”
ซ่งรั่วเจินกลอกตา “เข้าใจผิด?”
“คิดว่าเจ้าคล้ายเป็นชายาฉู่อ๋องอย่างไรเล่า นี่ถึงคิดเพื่อข้าไปทุกจุด”
ซ่งรั่วเจิน “...ถือเสียว่าหม่อมฉันไม่ได้พูด”
ชายคนนี้อย่าอ้าปากเลยจะดีกว่า!
ฉู่จวินถิงหัวเราะเบาๆ ดวงตาลุ่มลึกดุจมหาสมุทรเจือแววขำขันหลายส่วน กระนั้นยังเอ็นดูและจริงจังอีกด้วย “ไม่มีเหตุผลอื่น ก็แค่ข้าอยากอยู่กับเจ้านานขึ้นอีกนิด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง