วันต่อมา ซ่งรั่วเจินก็ได้รู้ข่าวว่าหลินจือเยว่และฉินซวงซวงถูกตัดสินเนรเทศ
“เนรเทศ? ผลการตัดสินออกเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”
เฉินเซียงหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “คุณหนู เรื่องนี้เป็นฉู่อ๋องจัดการ จะไม่เร็วได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ?”
ซ่งรั่วเจินมองนางแวบหนึ่ง “ตอนนี้เจ้ากล้าขึ้นไม่น้อยเลยนะ ถึงขั้นกล้ามาหยอกล้อข้าเช่นนี้”
“นั่นยังไม่ใช่เพราะรู้ว่าคุณหนูใจดีกับข้าอีกหรือ?” เฉินเซียงกลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย นางรู้ว่าคุณหนูดีต่อคนของตน
“ฉินซวงซวงก็คล้ายอสรพิษ คิดอยากกัดคุณหนูอยู่ทุกขณะจิต หลังนางถูกเนรเทศไปแล้วก็จะไม่มาขัดตาคุณหนูในเมืองหลวงอีก นี่ยังไม่ใช่เรื่องดีอีกหรือ?”
“การจัดการนี้ของฉู่อ๋องยอดเยี่ยมยิ่งนัก เมื่อครู่บ่าวได้ยินคุณชายรองชื่นชมด้วยเจ้าค่ะ” เฉินเซียงพูดอย่างมีความสุข ภาคภูมิใจอย่างแท้จริง
“เช่นนั้นเถียนเจียวเจียวและถังเสวี่ยหนิงจะถูกจัดการเช่นไร?” ซ่งรั่วเจินถามต่อ
“ทั้งสองคนถูกสั่งโบยที่ศาลาว่าการ เช้าวันนี้ถูกโบยต่อหน้าราษฎร์ โหย่วฝูตั้งใจไปดูมาเป็นพิเศษ พูดว่าการโบยนั้นแรงมากจริงๆ ชุดกระโปรงล้วนเปื้อนเลือด”
ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้ว “อัครเสนาบดีถังมิได้ไปหรือ?”
“ไปเจ้าค่ะ ไม่เพียงแค่อัครเสนาบดีถัง ถังฮูหยินเองก็ไปด้วย”
“เล่าว่ายามได้ยินว่าถูกสั่งโบย ถังฮูหยินก็อยากจะขัดขวาง แต่ฉู่อ๋องไม่สนใจ อัครเสนาบดีถังยังพูดว่าทำความผิดก็สมควรถูกลงโทษ จึงห้ามถังฮูหยินไว้”
“คนของสกุลเถียนก็มาแล้ว แต่พอเห็นว่าสกุลถังไม่ห้าม จึงไม่ได้พูดอะไร รอจนโบยเสร็จแล้วจึงพาขึ้นรถม้ากลับไป”
เฉินเซียงพูดด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่านางได้เห็นเองกับตา แต่ซ่งรั่วเจินใคร่ครวญอย่างละเอียดแล้ว น่ากลัวว่าเป็นโหย่วฝูกลับมาแล้วก็เล่าให้นางฟังเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง