“นี่เกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังดีๆ อยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ๆ ก็หมดสติไปแล้วเล่า?” หลิ่วหรูเยียนเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้
แม่นมทางด้านข้างรีบตอบสีหน้าว้าวุ่น “บ่าวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น เมื่อครู่หยินผู้เฒ่ายังดีๆ จู่ๆ ก็หมดสติไม่ฟื้นเจ้าค่ะ”
“ฮูหยินผู้เฒ่ามีโรคอะไรหรือไม่?”
ซ่งรั่วเจินทางหนึ่งถามทางหนึ่งจับชีพจรฮูหยินผู้เฒ่า พบว่าอายุมากแล้ว ป่วยเป็นโรคหัวใจ ชีพจรอ่อนแอมาก ยิ่งไปกว่านั้นจากชีพจรยังพบความผิดปกติอยู่รางๆ
“ฮูหยินผู้เฒ่าของพวกเรา หลายปีมานี้กินยาอยู่ตลอด ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาฮูหยินผู้เฒ่ามีสติแจ่มชัด กินยาตามเวลาทุกวัน”
“วันนี้หลังกินยาก็ขึ้นเขามา อิงตามหลักการแล้วไม่สมควรเกิดเรื่องอะไร!”
ซ่งรั่วเจินหยิบยาลูกกลอนออกมาหนึ่งเม็ด “ยานี้ของข้าสามารถทำให้อาการของฮูหยินผู้เฒ่ามั่นคงได้ ทำให้นางฟื้นขึ้นมา”
แม่นมชะงักไปเบาๆ นางรู้ฐานะของซ่งรั่วเจินสองคนแล้ว รู้สึกลังเลอยู่บ้าง สองคนนี้น่าจะไม่คิดทำร้ายฮูหยินผู้เฒ่าหลังรู้ฐานะของนางหรอกกระมัง?
“ลูกสาวข้ารู้วิชาแพทย์ นางพูดว่ามีประโยชน์ก็ย่อมมีประโยชน์” หลิ่วหรูเยียนคิดว่าแม่นมไม่เชื่อวิชาแพทย์ของซ่งรั่วเจิน อธิบายหนึ่งประโยค
“กินไม่ได้เป็นอันขาด!”
ตอนนี้เอง เงาคนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏออกมา ก็คือสองแม่ลูกฝานซืออิ๋งที่ไม่ได้พบมานาน
“ซ่งรั่วเจินและฉินซวงซวงเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ยังเป็นแม่ของฉินฮูหยินอีกด้วย ซ่งรั่วเจินจะต้องหาโอกาสแก้แค้นแน่!”
“หากกินยานี้ลงไป ฮูหยินผู้เฒ่าก็อาจถึงแก่ความตายได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง