โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว งานมงคลของซ่งเยี่ยนโจวกับลั่วชิงอินก็ใกล้เข้ามาแล้ว กู้อวิ๋นเวยเห็นว่าตัวเองน่าอนาถปานนี้ ตระกูลซ่งกลับจัดงานมงคลอย่างเอิกเกริก ความคับแค้นใจยิ่งหนักหนากว่าเดิมจึงตรงไปหาหลิ่วเฟยเยี่ยน
หลิ่วเฟยเยี่ยนได้ยินแต่แรกแล้วว่ากู้อวิ๋นเวยเกิดเรื่อง ชีวิตช่วงนี้ของนางเดิมก็ไม่ง่าย ทราบว่าบัดนี้กู้อวิ๋นเวยช่วยเหลืออันใดไม่ได้ทั้งยังอาจทำให้นางเดือดร้อนจึงจงใจหลบหน้าไม่ยอมออกมาปรากฏตัว
คิดไม่ถึงว่ากู้อวิ๋นเวยจะมาดักรอนางอยู่ละแวกบ้าน นางตกใจยกใหญ่ ด้วยความอับจนปัญญา นางได้แต่บอกว่าตอนนี้ตนเองไม่มีเงินแล้ว ช่วยเหลืออันใดไม่ได้
แต่กู้อวิ๋นเวยไม่ได้คิดจะมาเรียกร้องเงินจากนาง แต่กลับเสนอแผนจัดการตระกูลซ่ง ดวงตาของหลิ่วเฟยเยี่ยนจึงค่อยๆ เป็นประกายขึ้นมา
“ความคิดนี้ดีนัก เอาตามนี้ก็แล้วกัน! หลิ่วหรูเยียนคิดจะสลัดพวกเราไปให้พ้น หาได้ง่ายดายปานนั้นหรอกนะ!”
……
วันนี้ ทั่วทั้งจวนตระกูลซ่งแขวนโคมประดับแถบผ้าแดง แขกเหรื่อหลั่งไหลมาเยือน เสียงพูดคุยหัวเราะเซ็งแซ่ บรรยากาศชื่นมื่นรื่นเริง
หลิ่วหรูเยียนพาคนไปต้อนรับแขกเหรื่อแต่เช้าตรู่ ส่วนซ่งเยี่ยนโจวสวมชุดเจ้าบ่าวขี่ม้านำขบวนรับเจ้าสาวตรงไปยังตระกูลลั่ว
ในฐานะที่ซ่งรั่วเจินเป็นน้องสาวก็ติดตามพี่ใหญ่ของตนไปรับเจ้าสาวเช่นกัน ครั้นไปถึงตระกูลลั่ว เสียงปะทัดก็ดังขึ้นมา บรรยากาศคึกคักอย่างยิ่ง
“มารับเจ้าสาวแล้ว!”
ลั่วชิงอินสวมผ้าคลุมหน้าสีแดงก้าวขึ้นไปบนเกี้ยวเจ้าสาวท่ามกลางเสียงอวยพรยินดี
ลั่วกั๋วกงกำชับกับซ่งเยี่ยนโจวอย่างอดไม่ได้ “หลายปีมานี้ชิงอินลำบากมามาก หวังว่าเจ้าจะดีกับนาง ถ้าวันหน้ามีปัญหากันก็อย่าได้ทำร้ายนาง ส่งนางกลับมาก็พอแล้ว”
คำพูดนี้เป็นการหนุนหลังลั่วชิงอินอย่างไม่ต้องสงสัย คำพูดไม่น่าฟังยังคงกล่าวไว้ก่อน เขาไม่ยินดีให้บุตรสาวต้องทนทุกข์ ถ้าใช้ชีวิตร่วมกันไม่ได้จริงๆ ก็ให้ชิงอินกลับมา พวกเขาจะเลี้ยงดูเอง
“พ่อตาวางใจได้ขอรับ ข้าจะต้องดีต่อชิงอิน ไม่ทำให้นางผิดหวังแน่นอน!” ซ่งเยี่ยนโจวสัญญาหนักแน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง