“เรื่องนี้ข้าพยายามไปสืบรู้มาจนได้ ไม่ผิดพลาดแน่นอน!”
เฉียนชิวเซียงยืนกรานหนักแน่น “พวกเขาปิดบังเรื่องนี้อย่างมิดชิด เข้าใจว่าคงไม่มีใครรู้ แต่ในโลกนี้มีความลับที่ไหนกัน!”
ฝานซืออิ๋งลอบปีติยินดี เดิมนึกว่าลั่วชิงอินเพียงแต่โศกเศร้าเสียใจเกินไป ทุกข์ใจจนล้มป่วย คิดไม่ถึงว่านางจะไม่ได้เรื่องปานนี้ แม้แต่ลูกก็ยังมีไม่ได้!
“ซ่งเยี่ยนโจวเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลซ่ง หลิ่วหรูเยียนไม่รู้ว่าอยากอุ้มหลานชายมากแค่ไหน ถ้าพวกเขารู้ว่าลั่วชิงอินมีลูกไม่ได้ ยังจะไม่ล้มงานแต่งอีกงั้นรึ?”
“ใช่แล้ว นี่คือโอกาสอันดีของเจ้า! ดีที่สุดคือใช้โอกาสนี้ตั้งครรภ์ทายาทของตระกูลซ่ง ยังต้องกลัวว่าพวกเขาจะไม่รับเจ้ากลับเข้าไปอีกหรือ?”
ดวงตาเฉียนชิวเซียงเต็มไปด้วยประกายเจ้าเล่ห์เพทุบาย นางหวังให้ฝานซืออิ๋งได้กลับเข้าไปในตระกูลซ่งยิ่งกว่าใครทั้งนั้น
ไม่มีการสนับสนุนจากตระกูลซ่ง ชีวิตของพวกนางยากลำบากเกินไปแล้ว!
ซ่งรั่วเจินเห็นว่าพี่ชายพี่สะใภ้เข้าบ้านไปแล้ว สายตากวาดผ่านฝูงชนก็สังเกตเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยสายหนึ่ง ครั้นพิศดูอีกครั้ง คนกลับไม่อยู่แล้ว
“มองอะไรอยู่หรือ?”
ฉู่จวินถิงทราบว่าวันนี้ตระกูลซ่งจัดงานมงคลจึงนำของขวัญมาแสดงความยินดีตั้งแต่เช้า
ท่ามกลางฝูงชน ซ่งรั่วเจินสวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ทั้งตัวคนแลดูงดงามอ่อนโยนเป็นพิเศษ ดุจดั่งสายน้ำในฤดูสารทไหลเอื่อยผ่านเข้าไปในหัวใจเขา
หลังจากแน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง เขาก็ยิ่งชอบซ่งรั่วเจินมากขึ้นทุกที รู้สึกเพียงว่าสตรีผู้นี้เข้ามาอยู่ในหัวใจของเขาเสียแล้ว
ทุกครั้งที่พบหน้าล้วนต้องหวั่นไหวเพราะความงามอย่างไม่อาจเลี่ยง
ซ่งรั่วเจินหันกลับมาก็หวุดหวิดชนเข้ากับแผงอกของชายหนุ่มจึงรีบถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าแดงเรื่อ เอ่ยอย่างโมโหว่า “ไยท่านมาอยู่ใกล้หม่อมฉันเช่นนี้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง