“คุณชาย บ่าวสำนึกผิดแล้ว ภายภาคหน้าไม่กล้าแล้ว” บ่าวร้องไห้อย่างน่าสงสาร
ซ่งเยี่ยนโจวมองเขาแวบหนึ่ง พูดว่า “เขาปรนนิบัติข้ามาหลายปี ตกอยู่ในมือสกุลฝานย่อมไม่มีจุดจบที่ดี มิสู้ไถ่ตัวพ่อแม่เขามาจากสกุลฝาน ไล่ไปอยู่ที่ไร่นาทำงานเถอะ”
“พี่ใหญ่ ยกเรื่องนี้ให้ข้า สกุลฝานไร้ยางอายพรรค์นั้น ให้ข้าจัดการเอง” ซ่งจิ่งเซินพูดยิ้มๆ
ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ลำบากเจ้าแล้ว”
จนกระทั่งทุกคนแยกย้ายจากไป ภายในห้องก็กลับมาเงียบสงบดังเดิม
ลั่วชิงอินนั่งบนตั่งเตียง ก่อนหน้านี้ผ้าคลุมหน้าสีแดงก็ถูกเปิดออกแล้ว สุรามงคลยังไม่ได้ดื่ม บัดนี้หลังได้รู้ข่าวว่าไม่สามารถคลอดลูกได้ อารมณ์นางก็ซับซ้อนมาก
“พี่ใหญ่ซ่ง ท่านไม่สมควรปิดบังข้า”
ลั่วชิงอินเห็นว่าส่งคนอื่นจากไปแล้ว ซ่งเยี่ยนโจวปิดประตูห้องเดินเข้ามา เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้
ซ่งเยี่ยนโจวเดินเข้ามาหยุดข้างกายนางแล้วนั่งลง สายตาลุ่มลึกทอดมองนาง ใบหน้าหล่อเหลาดุจหยกไม่มีความเสียใจเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความสุข
“ชิงอิน เจ้าไม่รู้ข้าสามารถแต่งงานกับเจ้าได้ ข้าดีใจมากเพียงใด”
เขาจับมือลั่วชิงอิน “เมื่อแรกเจ้าเกือบแต่งงานกับสกุลเหยา ข้ากังวลยิ่งนัก กลัวชาตินี้จะไม่มีโอกาสอยู่ร่วมกับเจ้าอีก
ต่อมาหมอพูดว่าร่างกายเจ้าอ่อนแอ อีกทั้งยังป่วย กังวลภายภาคหน้าจะไม่สามารถคลอดลูกได้ เหยาจิ่นเฉิงเปลี่ยนความคิด ข้ากลับรู้สึกเพียงอยากทะนุถนอมเจ้ามากยิ่งขึ้น
ยังดี ได้รับโชคดีหลังผ่านเคราะห์ร้าย นี่ถึงมีโอกาสขอความเมตตาจากพ่อภรรยาแม่ภรรยาให้เจ้าแต่งงานกับข้า”
“ข้าไม่ใส่ใจเรื่องทายาทเลยแม้แต่น้อย ขอเพียงมีเจ้าอยู่ข้างกายข้า ทั้งหมดก็คุ้มค่าแล้ว”
ลั่วชิงอินฟังฝ่ายชายอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นที่นางไม่รู้เหล่านั้นเงียบๆ ยามเขาพูดว่าสามารถแต่งงานกับนางได้ ภายในสายตาล้วนเปล่งประกาย
นางปวดแสบจมูกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ น้ำตาหยดลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง