ป้ายทองละเว้นโทษตายนี้เป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในจวน ทั้งยังเป็นเกียรติยศของทั้งตระกูลกู้
ที่ผ่านมา บิดาดูแลอย่างเข้มงวดกวดขัน ตอนนี้กลับถูกขโมยไปเนี่ยนะ?
“ท่านพ่อ นี่ไม่ถูกต้องนะขอรับ หากเป็นเมื่อก่อนที่หลิ่วอวิ๋นเวยยังอยู่ที่บ้านก็แล้วไปเถอะ ตอนนี้นางออกเรือนไปหลายปีแล้ว ในจวนยังเคยมีการปรับปรุงมาก่อน”
“พวกเราไม่เคยเปิดโอกาสให้นางได้ไปเรือนพักของพวกท่าน แล้วจะแอบขโมยป้ายทองละเว้นโทษตายไปได้อย่างไร?”
กู้ชิงเหยี่ยนสงบสติเยือกเย็นลง เรื่องนี้เพียงใคร่ครวญโดยละเอียดก็สามารถค้นพบว่าปัญหาอยู่ตรงไหน
“เรื่องนี้เกรงว่าคงมีคนลอบช่วยเหลือ มิฉะนั้นลำพังนางคนเดียว จะเข้ามาในจวนก็ยังยาก”
กู้ชิงซิวมีสีหน้าดำคล้ำ ชั่วขณะนี้ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววรังเกียจเดียดฉันท์ แม้จะไม่ได้กลับไป แต่แค่ฟังก็เดาได้ไม่ยากว่าเป็นใคร
ทั่วทั้งตระกูลกู้ มีเพียงกู้ชิงเจ๋อเท่านั้น
ครั้นวาจานั้นดังขึ้น คนทั้งหลายบนรถม้าต่างก็เงียบไปพร้อมกับโทสะจากความผิดหวังในตัวกู้ชิงเจ๋อ
หลายวันนี้ขับไล่กู้ชิงเจ๋อออกไป เดิมคิดว่าเขาจะสามารถทบทวนตัวเอง ใครเลยจะคาดคิดว่าเขาจะทำเรื่องโง่บัดซบเช่นนี้ลงไปได้?
ฉินเซี่ยงเหิงได้ยินบทสนทนาของคนทั้งหลายก็ไม่ได้สนใจ เขายังคงจมจ่อมอยู่ในแผนการอันสมบูรณ์แบบของตัวเอง
ความจริงหลังจากเขาล่วงรู้แผนการของมารดา ในใจก็ใคร่ครวญไว้แล้ว ทราบว่าหากตระกูลกู้ค้นพบเรื่องนี้จะต้องเดือดดาลมากเป็นแน่
แต่เขาไม่อยากถูกตระกูลกู้โกรธเคืองไปด้วย ตรงกันข้าม เขาหวังว่าตระกูลกู้จะยอมรับเขา
ซวงซวงก็ต้องช่วย ความประทับใจก็อยากสร้าง ด้วยเหตุนี้เขาจึงคำนวณเวลาดิบดี แน่ใจว่ามารดาสามารถนำป้ายทองละเว้นโทษตายไปได้เสียก่อน ถึงยามนี้ค่อยมาแจ้งข่าว กล่าวได้ว่ายิงทีเดียวได้นกสองตัว
เมื่อทุกคนกลับไปถึงจวนตระกูลกู้ ข้างในยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อยดังเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง