“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ มิน่าเล่า” ฉู่เทียนเช่อเข้าใจแล้ว “หากแม่นางซ่งสามารถทำนายได้ก็คงจะพบว่าความจริงเจ้ากับฉู่อ๋องไม่เหมาะสมกัน”
ซ่งรั่วเจิน “...” คนผู้นี้ช่างไม่รู้ขอบเขตเอาเสียเลย!
ฉู่เทียนเช่อสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของซ่งรั่วเจินจึงอธิบายว่า “เจ้าอย่าเพิ่งโกรธ ที่ข้าพูดเช่นนี้ไม่ได้มีเจตนาจะยุแยง แต่เพราะความจริงก็ชัดเจนอยู่แล้ว”
“ตอนที่อยู่ในพิธีล่าสัตว์คราวนั้น เจ้าก็คงจะเห็นท่าทีของฮองเฮาแล้ว ตราบใดที่เจ้ามีจุดด่างพร้อยเรื่องถอนหมั้นอยู่ นางก็ไม่มีทางยอมให้เจ้าแต่งงานกับฉู่อ๋อง”
“ข้ารู้สึกว่าเจ้าดีไปทุกอย่างแท้ๆ แต่กลับต้องได้รับความอยุติธรรมไปเสียทุกเรื่องเพื่อจะแต่งงานกับฉู่อ๋อง นี่มิน่าเสียดายแย่หรือ?”
“ถ้าได้เป็นชายาของฉู่อ๋องก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้เป็น ต้องปล่อยให้ช่วงวัยที่งดงามที่สุดผ่านไปอย่างสูญเปล่า กลับเป็นการได้ไม่คุ้มเสียเลยจริงๆ...”
ซ่งจิ่งเซินที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเห็นฉู่เทียนเช่อตามตอแยซ่งรั่วเจิน ก็รีบกล่าวกับซ่งเยี่ยนโจวว่า “ท่านมีคำถามอยากขอคำชี้แนะจากเช่ออ๋องหรือไม่?”
ซ่งเยี่ยนโจว “?”
ซ่งอี้อันก็สังเกตเห็นแล้วเช่นกันจึงดึงซ่งเยี่ยนโจวก้าวออกมาข้างหน้าทันที “แยกเช่ออ๋องออกไปก่อนค่อยว่ากันอีกที”
ซ่งเยี่ยนโจวเข้าใจโดยพลัน “เช่ออ๋อง กระหม่อมได้ยินมาว่าท่านโปรดปรานแท่นฝนหมึก กระหม่อมเพิ่งได้แท่นฝนหมึกชั้นดีมาอันหนึ่ง ท่านอยากไปชมดูหรือไม่?”
เดิมฉู่เทียนเช่ออยากคุยกับซ่งรั่วเจินมากกว่านี้ เขาเชื่อว่าซ่งรั่วเจินเป็นคนฉลาด
ตำแหน่งพระชายาของฉู่อ๋องสูงส่งยากเอื้อมถึงเกินไป แต่การแต่งงานมาเป็นชายารองของเขากลับง่ายกว่ามาก
แทนที่จะวางเดิมพันทั้งหมดไว้กับตำแหน่งที่คว้ามาไม่ได้ มิสู้เลือกแต่งงานกับเขา เขาไม่มีทางดูดายตระกูลซ่ง ยิ่งไม่มีทางปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรม
ไม่คิดเลยว่ายังไม่ทันได้พูดออกมาก็ถูกซ่งเยี่ยนโจวกับซ่งอี้อันเรียกตัวไปแล้ว ยามกะทันหันยังปฏิเสธไม่ได้ง่ายๆ อีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง