จางเหวินมีแววตาซับซ้อน เอ่ยออกมาอย่างสงบ ทว่าแฝงไปด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง
หากนางมีญาติฝ่ายมารดาคอยสนับสนุน การขอหย่าก็คงไม่ใช่เรื่องยาก ทว่าบัดนี้นางมีตัวคนเดียว ญาติฝ่ายมารดาและอวิ๋นหงหล่างต่างก็คัดค้านเรื่องนี้ หากอวิ๋นหงหล่างไม่ยอมตกลง ก็ยากมากที่จะประสบความสำเร็จ
“ท่านป้าจาง หากท่านตั้งใจจริง เช่นนั้นวันนี้ย่อมเป็นโอกาสที่ดี”
ซ่งรั่วเจินมองด้วยแววตาจริงจัง “ในเมื่อใต้เท้าอวิ๋นต้องการช่วยอนุอวิ๋น ไม่ต่างอะไรกับการที่เรากำจุดอ่อนของเขาไว้ในมือ มีเพียงเขาตกลงหย่าเท่านั้น ข้าถึงจะยื่นมือเข้าไปช่วย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จางเหวินก็ตระหนักได้ในทันที ใจมั่นใจว่าอวิ๋นหงหล่างที่กัดไม่ปล่อยตลอดหลายวันมานี้ ทว่าหากเงื่อนไขคืออนุอวิ๋น เขาย่อมตอบตกลงเป็นแน่
คิดไม่ถึงเลยว่า... เมื่อถึงเวลาที่ต้องหย่าร้าง ยังต้องอาศัยความช่วยเหลือจากอนุอวิ๋นถึงจะสำเร็จ ช่างน่าขันนัก!
“แค่หย่ายังไม่พอ รวมถึงเนี่ยนชูและอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ในอนาคตพวกเขาจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีก ยังมีทรัพย์สินที่พึงได้จากการหย่า ท่านควรต้องพิจารณาให้ดี”
“นอกจากเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อ ข้าไม่ต้องการสิ่งอื่นใด” จางเหวินเอ่ยเสียงแข็ง เมื่อนึกถึงตระกูลอวิ๋นก็รู้สึกขยะแขยงอย่างยิ่ง จนไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ อีก
อย่างไรก็ตาม ซ่งรั่วเจินกลับแนะนำว่า “ท่านอุทิศตนให้ตระกูลอวิ๋นมานานหลายปี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ท่านควรได้รับ”
“หากท่านเก็บไว้ ไม่ว่าจะเพื่อตัวเองหรือเพื่อพวกเนี่ยนชู มันล้วนเป็นกำลังสำคัญ หากปล่อยให้อนุอวิ๋นได้ประโยชน์ไปง่ายๆ เช่นนี้ ไม่น่าเสียดายเกินไปหน่อยหรือ?”
จากไปโดยไร้สิ่งใดติดตัวอาจดูเป็นการรักษาศักดิ์ศรี แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นการปล่อยให้อีกฝ่ายได้ประโยชน์ไปโดยง่าย
ในสายตาของนาง นั่นไม่ใช่ข้อตกลงที่คุ้มค่าเลย!
ในเมื่อจะจากไป ก็ควรนำทุกสิ่งที่เป็นของตนทั้งหมดไปด้วย ปล่อยให้พวกเขาเจ็บปวดเสียใจ แม้กระทั่งทะเลาะกันเพราะเหตุนี้ นี่จึงจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง