“อยู่ต่อหน้าพวกเราเจ้ายังจะเสแสร้งอันใดอีก? คิดว่าพวกเราโง่เขลาเบาปัญญาเหมือนชิงเจ๋อกระนั้น?”
“แหกคุก วางเพลิง ฆ่าคน เรื่องสำคัญเหล่านี้เจ้าไม่พูดออกมาแม้ประโยคเดียว พูดเพียงความสัมพันธ์ชายหญิง พวกเราสนใจกระนั้นหรือ?”
“ด้วยฐานะของเจ้าในตอนนี้ ยังสามารถแจ้งทางการจับชิงเจ๋อได้? ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราสืบมาก่อนแล้ว หลายปีมานี้เจ้ายังมีชู้รักอยู่ภายนอก ความบริสุทธิ์ผุดผ่องอะไรนั่นมีค่าไม่ถึงหนึ่งอีแปะ!”
“คิดพึ่งพาอาศัยชิงเจ๋อ ภายภาคหน้าจะได้เป็นวัวเป็นม้าให้เจ้า ก็ไม่ดูบ้างว่าเจ้าคู่ควรหรือไม่?”
กู้ชิงซิวเปล่งวาจาคมคาย ไม่เกรงใจเลยสักเศษเสี้ยว
หลิ่วอวิ๋นเวยชอบเสแสร้ง เช่นนั้นก็นำเรื่องน่าอายทั้งหมดเหล่านั้นมาฉีกหน้านาง!
ถ้อยคำนี้พูดออกมาแล้ว สีหน้าหลิ่วอวิ๋นเวยเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มาก ยังปากแข็ง “ท่านพูดเหลวไหลอะไร? ต่อให้ต้องการปกป้องพี่สาม ก็ไม่สามารถปรักปรำข้าได้!”
“ยังต้องปรักปรำเจ้าอีกหรือ?” กู้ชิงซิวหัวเราะ “พูดเหลวไหลปรักปรำผู้อื่นเป็นการกระทำของเจ้า ไม่ใช่อุปนิสัยของพวกเรา!”
พูดไป เขาโยนหลักฐานลงต่อหน้ากู้ชิงเจ๋อ “ลืมตาของเจ้าดูให้ดีๆ!”
“ตกลงหลิ่วอวิ๋นเวยเป็นคนเช่นไร เพื่อหญิงเช่นนี้ ตัดขาดความสัมพันธ์กับครอบครัว ตกต่ำลงถึงขั้นนี้ เจ้าดีใจแล้วกระมัง!”
กู้ชิงเจ๋อสวมเพียงชุดซับใน อยู่ท่ามกลางอากาศเช่นนี้ทำให้หนาวจนตัวสั่น ทว่าบัดนี้เขาไม่กล้าไปสวมเสื้อผ้า
หลักฐานถูกโยนลงต่อหน้าเขา เขาหยิบขึ้นมาอ่านดูอย่างละเอียด พบว่าเป็นคำสารภาพหนึ่งฉบับ พูดว่ามีความสัมพันธ์มิอาจเปิดเผยกับหลิ่วอวิ๋นเวยตลอดหลายปีมานี้
“เป็น เป็นไปได้เยี่ยงไร? นี่เป็นไปไม่ได้!”
กู้ชิงเจ๋อรู้สึกเหลือจะเชื่อ เขารู้ดีว่าแม้พวกกู้ชิงเหยี่ยนไม่ชอบหลิ่วอวิ๋นเวย แต่ไม่มีวันสร้างหลักฐานเท็จ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง