ดูท่าแล้ว ท่านพ่อสังเกตเห็นความอันตราย มิหนำซ้ำยังพบสถานที่ปลอดภัย
“บางที...พวกเราไม่จำเป็นต้องไปหาท่านพ่อ ท่านพ่อก็จะมาหาพวกเราเอง”
ถ้อยคำนี้พูดออกมาแล้ว พวกซ่งจืออวี้ทั้งสองคนเผยสีหน้าตกตะลึง “นี่หมายความว่าอะไร? หรือท่านพ่อสามารถรู้ได้ว่าพวกเรามากระนั้น?”
“ท่านพ่อย่อมไม่รู้ หากข้าเดาไม่ผิด เป็นไปได้มากว่าท่านพ่อกำลังสืบเรื่องอุทกภัยจึงเข้ามาใกล้”
ซ่งรั่วเจินใคร่ครวญพลางเอ่ยปาก “บัดนี้ตำแหน่งของท่านพ่อไม่ใช่ชายแดน ยิ่งไปกว่านั้นยังใกล้กับที่พวกเราอยู่ ข้าคิดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
“พูดเช่นนี้แล้ว อาการบาดเจ็บของท่านพ่อหายดีแล้วกระนั้น?” ซ่งจืออวี้แปลกใจ หากเป็นเช่นนี้จริง นั่นก็คือข่าวดี
ซ่งจิ่งเซินกลับไม่ดีใจมากนัก “ใช่หรือไม่ว่าถูกไล่ต้อนให้จากไป? ครั้งนี้ท่านพ่อเกือบต้องทิ้งชีวิตในสนามรบ ข้าคิดว่าจะต้องถูกคนทำร้ายแน่!”
“คนที่ทำร้ายเขารู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ จึงตามหาเขาทั่วสารทิศ”
ซ่งรั่วเจินเองก็คิดว่าข้อสันนิษฐานนี้เป็นไปได้มากทีเดียว นึกอยากตามหาคน ทันใดนั้นความคิดหนึ่งแล่นผ่านสมองนางอย่างกะทันหัน จะใช่คุณชายใหญ่สกุลหลิงหรือไม่?
นับตั้งแต่คำรบแรกที่นางได้พบหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ ก็รู้สึกว่าหญิงคนนี้มีปัญหา แต่นางไม่เคยพบคนอื่นในสกุลหลิงมาก่อน จึงไม่อาจตัดสินได้
หลายปีมานี้ สกุลหลิงอยู่ที่เมืองผิงหยางมาโดยตลอด จนกระทั่งในช่วงเวลาอันใกล้นี้ถึงกลับเมืองหลวง นางได้รู้ผ่านปากฉู่จวินถิงว่าสกุลหลิงทำให้เมืองผิงหยางกลายเป็นเขตปกครองของตนไปแล้ว
เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป บังเอิญเกิดอุทกภัยขึ้นที่เมืองผิงหยาง นี่ช่างบังเอิญโดยแท้
ไม่เพียงแค่นี้ คุณชายใหญ่สกุลหลิงยังไม่ยอมกลับเมืองหลวง สกุลหลิงกังวลจะเกิดเรื่องใดขึ้นจึงส่งหลิงเชี่ยนเอ๋อร์มาตามหากลับไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง