ดวงตางามของกู้หรูเยียนฉายแววอ่อนใจ นี่คือเรื่องที่นางกังวลใจที่สุด เรื่องมงคลดีๆ เรื่องหนึ่งหากเกิดเปลี่ยนใจในภายหลังกะทันหัน มิกลายเป็นโศกนาฏกรรมหรอกหรือ?
“ข้าเห็นว่าจิ่งเซินก็ไม่ได้โง่ ไม่จำเป็นต้องกังวลใจจนเกินไป ก่อนนี้เข้าใจว่าเคอหยวนจื่อเพียงแต่ลองใจเขา ตอนนี้นางถึงขั้นหมั้นหมายกับคนอื่นลับหลังจิ่งเซินแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เอาเขามาใส่ใจเลยสักนิด”
“ถึงในอดีตจิ่งเซินจะชอบแค่ไหน ตอนนี้ก็ควรเข้าใจได้แล้ว มิสู้รอถามให้รู้เรื่องตอนกลับมาอีกทีดีกว่า”
“นอกจากนี้ ด้วยนิสัยของแม่ทัพซ่ง ต่อให้จิ่งเซินหน้ามืดตามัวอยากแต่งงานกับเคอหยวนจื่อ เกรงว่าเขาก็คงไม่เห็นด้วยกระมัง?” เยี่ยนชิงอวี้เอ่ยพร้อมยิ้มบาง
กู้หรูเยียนนึกถึงนิสัยของซ่งหลิน ถึงเขาจะนิสัยดี แต่ก็มีหลักการอย่างยิ่ง เรื่องที่ไม่เห็นด้วยไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางตอบตกลง
สองปีมานี้ก็เป็นเพราะเขาไม่ได้กลับมาจึงไม่รู้เรื่องที่จิ่งเซินทำลงไปพวกนั้น หากรู้แล้ว เกรงว่ากลับมาแล้วจิ่งเซินคงจะถูกอบรมสั่งสอนอย่างไม่อาจเลี่ยง
……
สถานการณ์เมืองผิงหยางดีขึ้นทุกวัน เสบียงชุดใหญ่ถูกลำเลียงขนส่งมา
หลังจากเรือจากเมืองอื่นมาถึงแล้วทราบว่าซ่งจิ่งเซินค้าขายกับราชสำนัก แต่ละคนก็กุลีกุจอมาค้าขายด้วยทันที
ช่วงเริ่มแรกพวกซ่งรั่วเจินยังคงทำเหมือนว่ารับซื้อข้าวสารในราคาสูง ทำให้คนเหล่านี้เข้าใจว่าสามารถทำเงินได้ก้อนโต หลังจากระบายสินค้าลงมาแล้วก็กลับไปกระจายข่าว
รอจนเสบียงชุดที่สองที่มีปริมาณมากกว่าเดิมมาถึงแล้วค่อยกดราคาลงจนต่ำที่สุด
ทุกคนจึงรู้ว่าหลงกลเสียแล้ว หากน่าเสียดายที่ถึงจะรู้ไปก็สายเกินการ
“ตอนนี้จัดการเรื่องขุนนางเรียบร้อย เสบียงของชาวบ้านก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เงินบรรเทาภัยพิบัติหาคืนมาได้แล้ว รอจนสร้างบ้านเรือนเสร็จ ในไม่ช้าก็จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ”
ฉู่จวินถิงสีหน้าปลอดโปร่ง น้ำเสียงแฝงความผ่อนคลาย หลังจากลงใต้เป็นต้นมา ตอนนี้นับว่าวางใจได้เสียที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง