“วันนี้พ่อของหม่อมฉันเข้าวังไปแล้ว ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายที่เมืองผิงหยาง วันนี้กลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถาม
“วางใจเถอะ เดิมทีท่านลุงก็เป็นขุนนางจงรัก คราวนี้สาเหตุที่อยู่ที่เมืองผิงหยางนานขนาดนี้ก็เป็นเพราะถูกบังคับ”
“วันนี้รองแม่ทัพคนอื่นๆ ก็เข้าวังไปด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อก็ทรงนึกเสียดายที่ท่านลุงพลีชีพไปในสมรภูมิ ตอนนี้เห็นเขากลับมาแล้วก็ดีพระทัยมาก”
ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยวางใจ “เช่นนั้นก็ดีเพคะ”
“ข้ารู้ว่าหลังจากท่านลุงกลับมาจะต้องไม่ยอมปล่อยเรื่องที่เกิดขึ้นในสมรภูมิไปง่ายๆ เป็นแน่ แต่เรื่องก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็คงใช้วิธีการตุกติกไปแล้ว ดังนั้นคิดจะพลิกคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้งคงไม่ง่ายดายปานนั้น”
“รอจนเจ้ากลับไปแล้วก็ลองเกลี้ยกล่อมท่านลุงดู อย่าได้ร้อนใจเกินไป ความจริงจะต้องถูกตรวจสอบออกมาได้ไม่ช้าก็เร็ว”
“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ”
ซ่งรั่วเจินมองฉู่จวินถิงอย่างลึกซึ้ง เขาคาดเดาความคิดในใจของท่านพ่อได้จริงๆ ด้วย แต่คิดจะทำเรื่องนี้หาได้ง่ายดายไม่ แต่ดำย่อมไม่อาจกลายเป็นขาว ความจริงจะต้องปรากฏออกมาในสักวัน
ณ ตระกูลจ้าว
“ซวี่ไป๋ แม่ขอร้องเจ้าแล้ว เจ้ากินหน่อยเถอะ ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ร่างกายเจ้าจะรับไม่ไหวเอานะ!”
นายหญิงจ้าวมีสีหน้าปวดใจ มองดูลูกชายคนดีของตนเองผ่ายผอมลงทุกวัน ไม่กินไม่ดื่ม ทุกวันเอาแต่ขังตัวเองไว้ในห้อง กระทั่งว่าออกมาข้างนอกก็ยังไม่ยอม นางรู้สึกทุกข์ใจยิ่งนัก
“ท่านแม่ ข้าไม่อยากกินจริงๆ ขอรับ”
จ้าวซวี่ไป๋สีหน้าซีดเผือด ใบหน้ากลับเผยรอยยิ้มออกมา
“ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงข้า แต่ข้าไม่เป็นไรจริงๆ แค่อยากนอนสักหน่อยเท่านั้น”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...