ฉู่จวินถิงเห็นสายตาเสด็จแม่ของตนเองก็เข้าใจความคิดของอีกฝ่าย
รอยยิ้มวาบผ่านดวงตาเขา เข้าใจยิ่งว่าด้วยนิสัยของเสด็จแม่แล้ว วันนี้สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ก็แสนจะไม่ง่ายแล้ว นางกำลังเป็นฝ่ายริเริ่มไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ก่อน
เขายังเข้าใจว่าในเมื่อเสด็จแม่กล่าววาจาเช่นนี้ออกมาแล้ว วันหน้ายิ่งไม่มีทางจงใจสร้างความลำบากให้รั่วเจิน
“เสด็จแม่ ท่านเข้าใจแล้วช่างดียิ่งนัก ข้ากลัวจริงๆ ว่าพี่สะใภ้จะถูกคนอื่นชิงตัวไป ท่านไม่รู้หรอกว่าตอนข้าไปร่วมงานเลี้ยงก่อนหน้านี้มีคนมากมายเท่าไรที่อิจฉาเสด็จพี่”
สีหน้าฉู่มู่เหยาเต็มไปด้วยความยินดี ก่อนหน้านี้นางเคยพูดกับเสด็จแม่แล้ว แต่เสด็จแม่กลับไม่เชื่อ
แต่นางเข้าใจยิ่งนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าชาติตระกูลของพี่สะใภ้ดียิ่งนัก คนยังมีหน้าตางดงาม เรียกได้ว่าเป็นโฉมงามที่ยากจะพบพานในเมืองหลวง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความมั่งคั่งของสกุลซ่ง
ภรรยาที่เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมงดงามและความสามารถ ทั้งยังมีเงินเช่นนี้ เรียกได้ว่าหาตัวจับยากโดยแท้!
หากไม่ติดที่สถานะของเสด็จพี่ ผู้ชายมากมายก็คงอยากลองแย่งชิงดูสักครั้งกระมัง?
ฮองเฮาเห็นว่าลูกสาวของตนเองคำก็พี่สะใภ้สองคำก็พี่สะใภ้ ท่าทางยินดีเช่นนั้นเรียกได้ว่าแทบอยากให้จวินถิงแต่งงานกับคนเขาเสียเดี๋ยวนี้ รอยยิ้มอ่อนใจก็วาบผ่านดวงตา
“เจ้าอย่าด่วนดีใจไปนักเลย ยังต้องดูว่าแม่นางซ่งยินดีแต่งงานกับเสด็จพี่ของเจ้าหรือเปล่าด้วยนะ!”
ฉู่มู่เหยาอึ้งไปเล็กน้อย มองไปทางซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงโดยจิตใต้สำนึก ใช้สายตาเป็นเชิงสอบถามว่า หมายความว่าอะไรกัน?
ฮูหยินผู้เฒ่าลู่กลับยินดียิ่ง “สายตามู่เหยาดีจริงๆ ก่อนหน้านี้เรื่องสำคัญขนาดนี้ก็ไม่รู้จักเขียนจดหมายมาเล่าให้ยายฟังบ้าง ถ้ายายอยู่ด้วย ไม่แน่ว่าป่านนี้คงมีลูกไปแล้ว!”
“ท่านยาย ความเร็วในการคิดของท่านจะเร็วเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”
ฉู่มู่เหยาต้องตกตะลึงในความรวดเร็วของผู้เป็นยาย แม้นางอยากให้ทั้งสองแต่งงานกันโดยเร็ว แต่ท่านยายกลับคิดไปถึงหลานตัวน้อยเสียแล้ว?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...