“เจ้าไปนั่งเป็นเพื่อนมู่เหยาที่ตำหนักของนางก่อนนะ” ฉู่จวินถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับซ่งรั่วเจิน
ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ได้”
ฉู่มู่เหยาเดิมทีก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่ต่ออยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าซ่งรั่วเจินออกไปด้วย ก็ยิ่งดีใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าทั้งสองออกไปแล้ว ใบหน้าของฮองเฮาก็ขรึมลงและกล่าวว่า “จวินถิง เรื่องนี้ไม่ว่าจะยังไงข้าก็มิยอมตกลงเป็นอันขาด เสิ่นหวยอันผู้นั้นกับมู่เหยาไม่เหมาะสมกันแม้แต่น้อย เจ้าจะทำร้ายน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเองไม่ได้นะ!”
“เสด็จแม่วางใจเถิด ก่อนหน้านี้รั่วเจินบังเอิญเจอพวกเขาที่ริมถนนพอดี จึงเตือนให้ข้าไปสืบเรื่องเสิ่นหวยอัน” ฉู่จวินถิงกล่าว
ฮองเฮาแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าค่อย ๆ ผ่อนคลายลง “ผลการสืบสวนเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เสิ่นหวยอันไม่ใช่คนที่สามารถฝากชีวิตได้อย่างแน่นอน”
เมื่อคำพูดนี้เปล่งออกมา ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าลู่ก็เริ่มขรึมลง “บุรุษผู้นี้ต้องชอบในฐานะของมู่เหยาเป็นแน่ ไม่แน่ว่าเรื่องที่เกือบจะเกิดอันตรายขึ้นก่อนหน้านี้ก็เกี่ยวข้องกับเขาด้วย”
“ข้ามิเข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเหตุใดมู่เหยาตาบอดถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้ ตอนที่พี่สะใภ้เตือนให้พวกเราสืบเรื่องนี้ ข้ายังคิดว่าพี่สะใภ้กังวลเกินไป”
“ไม่คิดเลยว่ามู่เหยาจะสามารถชอบบุรุษผู้นั้นได้จริง ๆ เมื่อครู่ยังจ้องข้าเพราะบุรุษผู้นั้นด้วย!”
ฉู่หยุนกุ่ยยิ่งคิดยิ่งโมโห ในทุกวันเขาดีกับมู่เหยาถึงเพียงนั้น สุดท้ายตอนนี้กลับมาจ้องเขาเพราะบุรุษที่น่าเกลียดผู้นั้น ทำเอาเขาโกรธเป็นอย่างมาก!
“ครั้งหน้าข้าก็จะไปพบเสิ่นหวยอันบ้าง จะดูว่าเขามีความสามารถอะไรถึงสามารถทำให้มู่เหยาหลงจนกลายเป็นเช่นนี้!”
ฮองเฮาเมื่อเห็นบุตรชายทั้งสองล้วนเป็นห่วงสถานการณ์ของมู่เหยา อารมณ์ของนางจึงดีขึ้นเล็กน้อย
“คำพูดของข้า นางมิฟัง พี่ชายอย่างพวกเจ้าก็เป็นห่วงนางให้มากหน่อยเถิด เรื่องนี้ต้องมอบหมายให้พวกเจ้าแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...