“พี่สะใภ้ ขออภัยจริงๆ ก่อนหน้านี้ข้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะเลียนแบบร้านปิ้งย่างที่ท่านเปิด หากว่ารู้ ข้าไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาทำเช่นนี้เป็นอันขาด”
ฉู่มู่เหยาเผยสีหน้ารู้สึกผิด ก่อนหน้านี้นางก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เหตุใดตอนนางถามเสิ่นหวยอันว่าเตรียมจะเปิดร้านอะไร เขาถึงหลีกเลี่ยงไม่ยอมตอบมาโดยตลอด พูดเพียงว่าต้องการสร้างความประหลาดใจระคนดีใจให้นางอย่างหนึ่ง
จนกระทั่งมาวันนี้ หลังได้เห็นป้ายร้านเองกับตา อารมณ์ของนางก็แย่ลง
ทั้งๆ ที่เสิ่นหวยอันรู้ความสัมพันธ์ระหว่างนางและพี่สะใภ้ ร้านนี้ยังเอามาจากมือของพี่สะใภ้อีกด้วย ปรากฏว่าเขาทำเรื่องพรรค์นี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่คำนึงถึงนางเลยสักนิด
“ท่านไม่รู้เรื่องนี้เสียหน่อย ไฉนเลยจะโทษท่านได้?”
ซ่งรั่วเจินจูงมือของฉู่มู่เหยา “อย่าอารมณ์ไม่ดีเพราะคนพรรค์นี้เลย ใครบ้างเล่าอายุยังน้อยไม่เคยตาบอดมองคนพลาดมาก่อน? ขอเพียงตอนนี้มองออกอย่างชัดเจนก็พอ!”
“แต่พวกเขาเปิดร้านนี้จะส่งผลกระทบต่อพวกท่านหรือไม่?” ฉู่มู่เหยายังรู้สึกผิดอยู่มาก บัดนี้รู้สึกเพียงว่าเสด็จแม่และพี่ห้าด่าว่าไม่ผิดไปเลยสักนิด
“แค่ร้านของพวกเขานี้ ยังส่งผลต่อการค้าของพวกเราอีกหรือ?”
ซ่งจิ่งเซินส่ายหน้าอย่างหมิ่นแคลน หันหลังตะโกนใส่ลูกค้าที่กำลังโวยวายเสียงดัง “ร้านปิ้งย่างสกุลซ่งของพวกเราอยู่ด้านข้างนี้ พรุ่งนี้จะเปิดกิจการ ยินดีต้อนรับทุกท่าน!”
อันที่จริงพวกเขาตกแต่งร้านไว้ดีแล้ว แต่อิงตามคำพูดของน้องหญิงห้า รอองค์หญิงมองเสิ่นหวยอันออกแล้ว พวกเขาค่อยเปิดร้าน
อย่างไรเสีย ความสัมพันธ์ระหว่างนางและองค์หญิงได้รับผลกระทบจากคนพรรค์นี้ก็ไม่คุ้มค่าจริงๆ
สิ้นเสียงของซ่งจิ่งเซิน ทุกคนภายในร้านต่างดีใจขึ้นมา หนำซ้ำยังรู้สึกเสียดายที่วันนี้เข้ามาในร้านปิ้งย่างสกุลเสิ่น จ่ายเงินไปเสียเปล่าโดยแท้!
“ดีเหลือเกิน ที่แท้ร้านปิ้งย่างสกุลซ่งก็อยู่ทางด้านข้าง ภายภาคหน้าข้าจะไม่มาร้านนี้แล้ว!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...