“ข้าอยากเตือนเจ้าว่าหวังเสวี่ยอาจไม่ใช่สหายที่ควรค่าแก่การคบหา รู้ทั้งรู้ว่าเจ้าไม่ยินดีไปเจอสวี่หยวนชิง นางก็ยังพาคนมาหาครั้งแล้วครั้งเล่า”
“หากไม่ใช่เพราะนางโง่เขลา ไม่เข้าใจเรื่องระหว่างผู้คน เข้าใจไปเองว่าหวังดีต่อเจ้า ทั้งยังคิดว่าเจ้าไม่รับน้ำใจ”
“ไม่อย่างนั้นก็เป็นเพราะว่ามีจุดประสงค์แอบแฝงมาแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนล้วนแต่ไม่เป็นผลดีต่อเจ้าทั้งนั้น”
น้ำเสียงฉู่อวิ๋นกุยแฝงไว้ซึ่งความอ่อนใจ แม่นางผู้นี้เข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับสายตาของเขาหรือเปล่า?
ตอนเห็นหวังเสวี่ยครั้งแรกที่ร้านอาหาร เขาก็รู้สึกว่าแม่นางผู้นี้เสแสร้ง เผยความไม่ชอบมาพากลออกมาหลายส่วน วันนี้ได้เจอกันอีกครั้ง ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งชัดเจนกว่าเดิม
เขาเคยพบผู้คนมากมายในวัง มีคนแบบไหนไม่เคยเห็นมาก่อนบ้าง? แม่นางผู้นี้คิดอันใดอยู่ เดาได้ไม่ยากเลยสักนิด
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้...”
กู้ฮวนเอ๋อร์ค่อยเข้าใจในที่สุด อันที่จริงตั้งแต่คราวก่อนที่หวังเสวี่ยโกหกให้นางไปหา นางก็ไม่พอใจแล้ว ยังเคยเตือนหวังเสวี่ยว่าคราวหน้าห้ามทำเรื่องแบบนี้อีกเด็ดขาด
แม้พวกนางจะเป็นสหาย แต่นางไม่ชอบให้คนอื่นมาตัดสินใจแทนนาง แต่วันนี้หวังเสวี่ยก็ยังพาหยวนชิงมาอยู่ดี
คราวก่อนนางบอกทุกอย่างกับหยวนชิงไปชัดเจนแล้วแท้ๆ หลายวันนี้ก็ไม่ได้เจอเขาอีก แต่ท่าทีในวันนี้ของหยวนชิงกลับพลันเปลี่ยนแปลง นางรู้สึกว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับหวังเสวี่ยเป็นแน่
ฉู่อวิ๋นกุยเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์จมอยู่ในความเงียบก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย “ไม่เชื่อคำพูดของข้างั้นรึ?”
“หม่อมฉันเชื่อเพคะ!” กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าโดยไม่ลังเล “เรื่องแบบนี้ ท่านอ๋องไม่มีความจำเป็นต้องโกหกหม่อมฉัน”
คราวนี้คนที่เป็นฝ่ายอึ้งกลับกลายเป็นฉู่อวิ๋นกุยเสียแล้ว เชื่อถือขนาดนี้เชียว?
“หม่อมฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ท่านอ๋องวางใจได้เพคะ” กู้ฮวนเอ๋อร์ยิ้มกล่าว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...