“เป็นอะไรไป?” ฉู่อวิ๋นกุยเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์จ้องมองเขาอยู่ชั่วครู่แล้วก็พลันก้มหน้า อารมณ์ดูจะหม่นหมองลงไม่น้อยก็อดจะสงสัยไม่ได้
กู้ฮวนเอ๋อร์สูดหายใจเข้าลึก จากนั้นก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา ดวงตารูปเมล็ดซิ่งที่สดใสชุ่มชื้นจับจ้องฉู่อวิ๋นกุยพลางถาม
“ท่านอ๋อง ก่อนหน้านี้หม่อมฉันตามรบเร้าพัวพันท่านถึงปานนั้น ท่านรู้สึกยุ่งยากใจมากเลยใช่ไหมเพคะ?”
คำถามที่มาถึงอย่างกะทันหันทำให้ฉู่อวิ๋นกุยอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนหน้านี้เขาหลีกเลี่ยงกู้ฮวนเอ๋อร์แทบไม่ทันจริงๆ ทว่าไม่ใช่เพราะรังเกียจนาง แต่เป็นเพราะรู้สึกขายหน้ามากต่างหาก
ชั่วชีวิตนี้เขาไม่เคยต้องขายหน้าปานนั้นมาก่อน แต่หลังจากได้พบกู้ฮวนเอ๋อร์กลับเป็นเช่นนี้ติดต่อกันหลายครั้ง
แต่ช่วงนี้เขาดูเหมือนจะชินชาเสียแล้ว เมื่อไปร่วมงานเลี้ยงในโอกาสต่างๆ ก็มักมองว่าแม่นางผู้นี้กำลังทำอันใดโดยไม่รู้ตัว
แน่นอน ทุกครั้งที่เขากวาดสายตามองไปล้วนพบว่าแม่นางผู้นี้กำลังมองเขาอยู่
กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นฉู่อวิ๋นกุยมีท่าทางลังเลก็คิดว่าเขากลัวจะทำร้ายจิตใจตนเองจึงยิ่งรู้สึกว่าเขาเป็นคนดี ฐานะเขาสูงศักดิ์ปานนั้นแท้ๆ แต่ก็ยังกังวลว่าจะทำร้ายจิตใจคนอื่น
แม้คนที่ชอบจะไม่ใช่ตนเอง แต่นางก็ไม่นึกเสียใจเลยที่ชอบอวิ๋นอ๋อง
“ต่อไปหม่อมฉันจะไม่ทำให้ท่านอ๋องลำบากใจอีกแล้วเพคะ”
กู้ฮวนเอ๋อร์กล่าวอย่างจริงจัง มุมปากพยายามคลี่ยิ้มออกมาอย่างเต็มที่ ดวงตากลับแดงเรื่ออย่างไม่เอาไหน น้ำตาก็เอ่อคลออย่างอดไม่ไหว
ฉู่อวิ๋นกุยยังไม่ทันเข้าใจว่าเหตุใดกู้ฮวนเอ๋อร์จึงกล่าวคำพูดทำนองนี้ออกมาปุบปับก็เห็นว่านางร้องไห้ จึงอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า
“ร้องไห้ทำไม? ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
น้ำเสียงเขาอ่อนโยนยิ่ง ดวงตาคู่นั้นฉายแววเป็นห่วง ทั้งยังสะท้อนความไม่เข้าใจอยู่หลายส่วน
“เปล่า เปล่าเพคะ” กู้ฮวนเอ๋อร์รีบส่ายหน้าพลางเช็ดน้ำตาตรงหางตา “หม่อมฉันแค่...แค่ไม่อยากให้ท่านรังเกียจหม่อมฉัน”
“ข้าไม่ลำบากใจแล้วก็ไม่รำคาญเจ้าด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องรังเกียจเจ้า”
ฉู่อวิ๋นกุยนึกทบทวนการกระทำของตนเองในช่วงที่ผ่านมา แน่ใจว่าไม่เคยกล่าววาจาเกินไปเช่นนั้น แม้ใจอยากอธิบาย แต่เห็นท่าทางร้องไห้ของกู้ฮวนเอ๋อร์แล้วก็กล่าวว่า

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...