ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?
“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”
“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”
เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”
ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”
ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”
ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”
“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”
ฉู่มู่เหยา “???”
“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอะ!”
ฉู่มู่เหยาถอยหลังสองก้าว คล้องแขนซ่งรั่วเจินแล้วเริ่มฟ้อง
ซ่งรั่วเจินเองก็ขำขันเพราะคำพูดของพี่สี่บ้านตน เอ่ยปากอย่างทนไม่ไหว “มู่เหยา ท่านยังไม่เคยเห็นด้านปากร้ายที่แท้จริงของพี่สี่หม่อมฉัน วันนี้นับว่าเกรงใจแล้ว”
ฉู่มู่เหยา “...”
ฉู่จวินถิงเดินมาหยุดข้างกายซ่งรั่วเจิน อ้อมผู้คนมากมาย สายตาของเขาตกลงบนแม่นางในดวงใจ
ขณะเดียวกันได้เห็นน้องสาวแย่งคนของตน สีหน้าเอือมระอา
“หลีกไปหน่อย ทุกคนรีบหลีกไป!”
จู่ๆ พ่อค้าแผงลอยคนหนึ่งก็เข็นรถเข้ามา ส่งสัญญาณให้คนรอบกายหลบหลีก ซ่งรั่วเจินเองก็ถูกดันไปที่ฝั่งหนึ่ง ฝีเท้ายืนได้ไม่มั่นคง
ครู่ต่อมาฝ่ายชายคว้าแขนของนางไว้ สายตาเปี่ยมความกังวล “ไม่เป็นไรกระมัง?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...