ซ่งรั่วเจินมองโคมใจเดียวตรงหน้าก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดจึงพูดกันว่านี่คือโคมลอยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปี
“แม่นางซ่ง ท่านสามารถเขียนคำอธิษฐานแล้วแขวนไว้กับโคมใจเดียวเพื่อขอพรจากสวรรค์” แม่นางที่อยู่ข้างๆ กล่าวอย่างยิ้มแย้ม
มองดูกระดาษสีแดงตรงหน้า แต่ไหนแต่ไรมาซ่งรั่วเจินไม่เคยอธิษฐาน แต่เห็นทุกคนกำลังเขียนคำอธิษฐานในใจตัวเองอย่างจริงจัง นางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ มองไปทางชายหนุ่มข้างกายแล้วหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนอย่างช้าๆ...
ขอให้บุคคลอันเป็นที่รักแคล้วคลาดปลอดภัย
ฉู่จวินถิงสบตากับซ่งรั่วเจิน ทันใดนั้นก็เข้าใจแล้วว่าการยลโฉมงามใต้แสงโคมหมายความว่าอย่างไร เทียบกับเวลากลางวัน สีสันยามค่ำคืนนั้นละมุนละไมกว่า
มองจากมุมมองของเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าแม่นางตรงหน้างดงามจนชวนให้จิตใจสั่นไหว
เขาได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ได้มาอยู่ด้วยกันกับนาง ก็สามารถเติมเต็มความเสียดายทั้งมวลของชีวิตอันเดียวดายในชาติก่อนของเขาได้แล้ว
เขาหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนลงไปอย่างแช่มช้าเช่นกัน...ขอให้คนที่ข้ารักสมปรารถนาทุกประการ
ได้อยู่ร่วมกันกับนางคือความปรารถนาชั่วชีวิตนี้ของเขา ขณะที่ตอนนี้ ความปรารถนาของเขาเป็นจริงแล้วจึงไม่ปรารถนาสิ่งใดอีก
คนทั้งสองจับสองมุมของโคมใจเดียว เห็นว่าอากาศร้อนจากการเผาไหม้ค่อยๆ ทำให้โคมใจเดียวมีแรงลอยตัวขึ้นข้างบนอย่างช้าๆ คนทั้งสองค่อยๆ ปล่อยมือท่ามกลางคำอธิษฐานอันงดงาม
เห็นโคมใจเดียวลอยขึ้นฟ้าไปอย่างช้าๆ ซ่งรั่วเจินแหงนหน้ามองท้องฟ้า ใบหน้าเผยรอยยิ้มปีติยินดี
เมื่อนางลดศีรษะลงมาก็สบตากับฉู่จวินถิงเข้าพอดี
แววตาของชายหนุ่มแสนอ่อนโยน มีเพียงนางเท่านั้น
ครู่ถัดมาก็มีเสียงดังขึ้นจากรอบด้าน...
ซ่งรั่วเจินหันไปมองโดยสัญชาตญาณก็พบว่าดอกไม้ไฟกำลังเบ่งบานบนท้องฟ้าจากรอบทิศทาง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...