วังหลัง
วันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮา
ยังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน
“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”
ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ
“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”
เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?
สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผล
บัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว
“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!” ตวนเฟยพูดอย่างสลดใจ
จงเฟยเผชิญหน้ากับคำพูดของทุกคน คลี่ยิ้มอ่อนโยน “ไม่ใช่ข้าไม่ยอมบอกพวกเจ้า แต่เซียนโบตั๋นนี้มีเพียงสององค์ เป็นข้าตั้งใจเชิญกลับมา”
“ตอนนี้พระผู้ทรงศีลไม่อยู่ในเมืองหลวงแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเซียนโบตั๋นก็ไม่มีแล้ว ต่อให้ข้าบอกทุกคนไปก็ไร้ความหมาย”
ฮองเฮาเหลือบมองจงเฟยแวบหนึ่ง ไม่พูดไม่ได้ วันนี้ใบหน้าของนางแดงเรื่อจนแทบจะบีบน้ำออกมาได้ อ่อนเยาว์ลงมาก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...