ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 100

เพิ่งจะกินข้างเที่ยวเสร็จ กำลังอยากจะพักผ่อน เหลิ่งชิงเหยาก็มา

นางพิงอยู่ที่ประตูแล้วพัดพัดลายดอกไม้ไปมา ทำท่าทางของตัวหลักของซ่องโรงหญิงโสเภนีแล้วมองเหลิ่งชิงฮวนอย่างเยือกเย็น จากนั้นก็ยิ้มเยาะเย้ย

"ข้าคิดว่าเจ้าจะอยู่จวนท่านอ๋องได้ไม่เกินเจ็ดวัน คิดไม่ถึงเลยว่าเหลิ่งชิงหลางสู้เจ้าไม่ได้จนต้องมาขอกำลังเสริมที่จวนมหาเสนาบดีนี่"

เหลิ่งชิงฮวนนั่งอยู่ที่ใต้ต้นไม้ในลาน นางเปิดผ้าที่ปิดหน้าอยู่แล้วมองน้องสามที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบอย่างตะลึงแล้วพูดว่า "กำลังเสริมอะไรกัน"

เหลิ่งชิงเหยายิ้มเหอะๆ "แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องหรือ เหลิ่งชิงหลางส่งสารให้จินอี๋เหนียงโดยเฉพาะ ให้รับเจ้าจากจวนท่านอ๋องมาอยู่ที่นี่สักพัก ไม่ใช่ว่าไม่รู้จะทำยังไงกับเจ้าหรอกหรือ"

เหลิ่งชิงฮวนเข้าใจทันที มิน่าท่านพ่อถึงได้ "คิดถึง" ตนเอง ที่แท้ก็กำลังสร้างโอกาสให้น้องสองของตนนั้นได้ไปยั่วยุมู่หรงฉีหรือ

นางเอาผ้ามาปิดหน้าอีกครั้ง แล้วพูดอย่างไม่สนใจว่า "ดวงตาคู่นี้ของเจ้าก็เก่งนะ"

เหลิ่งชิงเหยานั้นพูดเย้ยหยัน " บนโลกนี้จะมีกี่คนที่โง่เหมือนเจ้า ได้ใฝ่สูงแต่งงานเจ้าจวนท่านอ๋องแล้วยังจะฆ่าตัวตายเพื่อทำลายอนาคตของตนเอง แถมยังให้นังเหลิ่งชิงหลางมันได้ใจ"

เหลิ่งชิงหลางนั้นไม่ลงรอยกันมาโดยตลอด เข้ากันไม่ได้ราวกับน้ำกับไฟ

"เพราะฉะนั้นครั้งก่อนที่น้องสามกล้าทำแบบนั้น ก็อยากจะมาแทนที่หรือ"

"ถ้าใช่แล้วจะยังไง ข้ากล้าทำก็กล้ายอมรับ อย่างเหลิ่งชิงหลางนั้นเปลื้องผ้าเพื่ออนาคตได้ ข้าก็ไม่ได้แย่ไปกว่านางสักเท่าไหร่"

"แย่ขนาดเลือกคู่ครองไม่ดี ข้ากับเหลิ่งชิงหลางล้วนแต่งเข้าจวนท่านอ๋อง ท่านพ่อจะยอมเสียลูกสาวไปอีกคนได้ยังไง ท่านจะละทิ้งศักดิ์ศรีหรือไง หากข้าเดาไม่ผิด ครั้งก่อนที่พวกข้าไปแล้ว เจ้าคงจะโดนกักบริเวณไปอย่างน้อยเจ็ดวันสินะ"

เหลิ่งชิงเหยาสบถเสียงเบา แสดงว่าที่เหลิ่งชิงฮวนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง

"พาข้าไปจวนท่านอ๋อง ข้าจะช่วยเจ้าจัดการเหลิ่งชิงหลางเอง เจ้าคิดว่ายังไง"

เหลิ่งชิงฮวนนั้นทำท่าหาวนอน "เพื่อที่จะไล่หมาป่า แต่ปล่อยให้เสือเข้ามาแทน คิดว่าข้าโง่หรือ"

"ข้าดูออกตั้งนานแล้วว่าเจ้าไม่ได้คิดสนใจอะไรท่านอ๋อง ทำไมถึงไม่ถือโอกาสแสดงน้ำใจ"

คนอย่างเหลิ่งชิงเหยานี่สมองผิดปกติหรือเปล่า ฉลาดบ้างโง่บ้าง

เหลิ่งชิงฮวนถูกนางกวนใจจนนอนหลับไม่ได้ นางจึงลุกขึ้นมาแล้วมองเหลิ่งชิงเหยาอย่างจริงจัง "ผู้ชายดีๆ บนโลกใบนี้มันตายกันหมดแล้วหรือ ทำไมเจ้าถึงได้จ้องจะเอาเขาเพียงคนเดียว"

"ก็เพราะว่าจินซื่อนั้นจะไม่หางานแต่งที่ดีๆ ให้กับข้าหน่ะสิ ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ทำไมข้าถึงไม่สู้เพื่อตนเองกัน พระชายารองข้าก็ยอม แค่ไม่ด้อยไปกว่าเหลิ่งชิงหลางก็พอ ไม่อย่างนั้นข้าไม่ยอม"

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเบาๆ "งั้นเจ้าควรจะเข้าวังไปเป็นพระสนม เป็นภรรยาให้เสด็จพ่อของมู่หรงฉีสิ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว เจ้าก็จะสูงส่งกว่าข้าและเหลิ่งชิงหลางอีกนะ"

เหลิ่งชิงเหยานั้นคิดๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่าความคิดของเหลิ่งชิงฮวนนั้นก็เข้าท่าดี แต่ก็ส่ายหัวอย่างน่าเสียดาย

"ข้าเป็นแค่ลูกสาวของอนุภรรยา ข้ารู้ตนเองดี การถูกแต่งตั้งให้เป็นสนมคงเป็นไปไม่ได้ ไม่แน่อาจจะอยู่ต่ำกว่าเหลิ่งชิงหลางเสียอีก"

เวรกรรม เคยมีความคิดแบบนี้จริงๆ ด้วยหรือเนี่ย สมองของนางคนนี้มันไม่ได้ผิดปกติธรรมดานะเนี่ย เพื่อจะสู้กับเหลิ่งชิงฮวน นางถึงกับจะแต่งงานกับคนแก่ๆ คนหนึ่งเลยหรือ หากนางเข้าไปในวังที่มันกินเนื้อคนแบบไม่คายกระดูกนั่น คงไม่รู้ว่าจะตายยังไง

เหลิ่งชิงฮวนชูนิ้วโป้งให้กับนาง นับถือจริงๆ

"ตกลงได้หรือไม่ได้เจ้าให้คำขาดมาสิ!" เหลิ่งชิงฮวนเร่งถามอย่างหงุดหงิด

"ตกลงอะไรกัน" มีเสียงดุด่าดังขึ้นมาจากลานข้างนอก "พ่อเจ้าเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่ามารบกวนการพักผ่อนของพี่เจ้า"

เหลิ่งชิงฮวนนั้นฟังเสียงออกว่าเป็นเสียงของแม่เหลิ่งชิงเหยา เซวียซื่อที่ถูกพี่ชายขายเพื่อความรุ่งโรจน์นั่นเอง

เมื่อเซวียซื่อได้รับการแจ้งของสาวรับใช้ว่าลูกสาวของตนนั้นมาหาเรื่องเหลิ่งชิงฮวนอีก ก็รู้สึกตกใจอย่างมาก ในเมื่อเหลิ่งชิงฮวนนั้นไม่เหมือนกันเมื่อก่อนแล้ว ลูกสาวของนางคนนี้ไม่อยากได้ดีแล้วหรือ

"หากทำเพื่อนางจริงๆ ที่จริงน้องสามนั้นเป็นคนที่ตรงไปตรงมา แต่นิสัยที่ชอบเอาชนะนั้นไม่เหมาะกับการแก่งแย่งชิงดีกันหรอกนะ"

"นั่นสิ" เซวียซื่อถอนหายใจเบาๆ "เสียดายที่นางไม่ฟังคำโน้มน้าวของข้า ทางพ่อของท่านนั้นข้าก็พูดอะไรไม่ได้ ในอนาคตนั้นจะหาครอบครัวคู่ครองยังไงก็เป็นท่านเสนาบดีกับจินซื่อตัดสินใจ"

เหลิ่งชิงฮวนนั้นลูบคลำที่เท้าแขนเก้าอี้อย่างนิ่งๆ "ถ้าหากว่าท่านเป็นใหญ่ที่จวนเสนาบดีนี่ได้ล่ะ"

เซวียซื่อนั้นอึ่งไป จากนั้นก็ยิ้มแห้งแล้วส่ายหัว "คุณหนูใหญ่พูดตลกแล้ว แม้แต่คิดข้ายังไม่กล้าเลย"

เหลิ่งชิงฮวนเลิกคิ้ว "จริงหรือ"

เซวียซื่อนั้นรู้สึกว่า น้ำเสียงของนางนั้นเรียบนิ่ง แต่กลับมีความแหลมคมแฝงอยู่ ทำให้ความทะเยอทะยานอันน้อยนิดของนางถูกเปิดเผย

"ข้านั้นมีแค่ลูกสาวอย่างชิงเหยาแค่คนเดียว ไม่มีวาสนาอะไร ความตั้งใจเดียวคืออยากจะให้นางได้แต่งกับคนนางถูกใจ ยามแก่เฒ่าให้ข้ามีที่พึ่งพาก็พอแล้ว"

"จินซื่อไม่มีวันที่จะถูกแต่งตั้งเป็นหลักได้ นี่เป็นความตั้งใจของไทเฮา ตอนนี้พี่ชายของท่านก็ทำงานที่ศาลต้าหลี่ได้อย่างราบรื่น มีที่พึ่งพิงอยู่ข้างหลังก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หากจะพูดถึงลูก พี่ชายข้าต่างหากที่เป็นลูกชายคนโตของภรรยาเอก"

ในใจของเซวียซื่อนั้นตื่นเต้นอย่างมาก แต่กลับทำสีหน้าเรียบเฉยอย่างมาก ใครไม่มีความทะเยอทะยานกัน ในเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตนเองนั้นถูกจินซื่อกดขี่จนเหลือทนแล้ว เหลิ่งชิงเหยาอยากจะอยู่เหนือกว่าเหลิ่งชิงหลางโดยไว นางเองก็อยากจะคลุมจินซื่อให้อยู่เหมือนกัน

คำพูดของเหลิ่งชิงฮวนนั้นราวกับกำลังวาดฟันอันยิ่งใหญ่ แค่คิดก็ทำให้นางรู้สึกกระหายขึ้นมา

"ไม่พูดอ้อมค้อมหน้าต่อผู้มีปัญญา คุณหนูใหญ่เป็นคนที่ฉลาด ข้าก็พูดคำในใจกับท่านหน่อย ข้านั้นไม่พอใจกับท่าทางที่ร้ายกาจของจินซื่อมานานแล้ว แม้แต่อี๋เหนียงสี่เองที่เป็นแค่สาวใช้แต่งเข้าพร้อมนาง ก็ไม่รู้แอบด่านางลับหลังยังไงบ้าง น่าเสียดายที่ข้าเองก็รู้ตนเองดี จินซื่อนั้นเป็นใหญ่เป็นโตที่จวนเสนาบดีนี้มานาน อาศัยอิทธิพลใช้เล่ห์เหลี่ยมปิดบังอำพราง ไม่มีใครมาแทนที่ได้"

คำพูดหลังนี้ก็เพื่อหยั่งเชิงเหลิ่งชิงฮวน นางไม่มีทางพูดเรื่องนี้กับตนเองอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ ในมือของนางจะต้องมีไม้เด็ดอะไรแน่นอน

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเบาๆ "ถ้าหากว่าข้าทำให้จินซื่อนั้นกลับตัวไม่ได้อีกเลยล่ะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา