มู่หรงฉีไม่มองเขา “พระชายาของข้าพักอยู่ในจวนนี้มาสองวันแล้วใช่หรือไม่”
หากคำนวณตามจริงก็แค่วันครึ่งเท่านั้น เสนาบดีเหลิ่งอยากจะเอ่ยขัดแต่ไม่กล้าจึงได้แต่พยักหน้า “ใช่ขอรับ”
“เช่นนั้นเสนาบดีเหลิ่งคิดจะให้นางพักอาศัยไปอีกนานเท่าไร”
เสนาบดีเหลิ่งไม่กล้าผลีผลามตอบ ควรให้เวลานานหรือสั้นกว่านี้ดี?
“นังหนูนางอาจจะอยากอยู่อีกสักสองวัน”
สีหน้าของมู่หรงฉีขรึมลง “ดูท่านจวนมหาเสนาบดีคงสบายกว่าจวนอ๋องของข้า”
“มิอาจๆ” เสนาบดีเหลิ่งปฏิเสธ “ข้าน้อยมิได้หย่อนยานเรื่องการสั่งสอนลูกสาว คอยดูแลสั่งสอนนางมาตลอด"
มู่หรงฉีกัดฟันอย่างไม่เข้าใจ “เช่นนั้นข้าจะมารับนางกลับจวนได้เมื่อไร”
เสนาบดีเหลิ่งเงยหน้าขึ้นทันที ทำอ้อมค้อมมาตั้งนาน เขารู้สึกได้ว่าท่านอ๋องผู้นี้คิดถึงภรรยาและต้องการพานางกลับบ้านจริงๆ
เขาเช็ดเหงื่อเย็นๆ บนศีรษะ รู้สึกว่าท่านอ๋องผู้นี้รับใช้ยากกว่าฮ่องเต้ อย่างน้อยเขาก็เป็นขุนนางในราชสำนักมาเป็นเวลานานและยังสามารถเข้าใจพระประสงค์ของฮ่องเต้ได้เพียงแวบเดียว แต่กับท่านอ๋องที่คาดเดาไม่ได้และอารมณ์แปรปรวนผู้นี้ โดยเฉพาะใบหน้าที่ไม่ยินดียินร้ายและสายตาที่ไม่มีใครกล้ามองนั้นยากที่จะรับมือ
หรือว่าที่เหลิ่งชิงฮวนบอกว่าที่ท่านอ๋องเอาใจนางจะเป็นเรื่องจริง?
เท้าหน้าเพิ่งออกมาไม่นานเท้าหลังก็ตามมาติดๆ นี่ไม่ใช่ลักษณะของท่านอ๋องฉีเลยจริงๆ
“ตอนไหนก็ได้ขอรับ เมื่อครู่ข้าน้อยก็คิดจะสั่งให้รถม้าไปส่งพระชายากลับจวน”
“นางไม่ยอมกลับหรือ?” มู่หรงฉีเลิกคิ้ว
จินซื่อรับช่วงต่อ “ใช่เพคะ พระชายาไม่ยอมกลับจวน”
มู่หรงฉีหรี่ตาลงประกายความโกรธฉายขึ้นมาก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ช่างเถอะ ข้าจะมาเชิญนางกลับเอง”
คำพูดเหล่านี้ทำให้เปลือกตาของเสนาบดีเหลิ่งสั่นไหว รู้สึกว่าความเอาใจใส่ของท่านอ๋องฉีค่อนข้างน่ากลัว ทำไมถึงได้รู้สึกว่าจะมีการฆ่าแกงกันเกิดขึ้นล่ะ?
เขาไม่กล้าขัดขวาง ก่อนจะรีบสั่งให้คนพามู่หรงฉีไปที่เรือนของเหลิ่งชิงฮวน
ช่วงเวลาเหล่านี้ของเหลิ่งชิงฮวนช่างสวยงามจริงๆ
คนรับใช้รายล้อม? ดาวล้อมเดือน? ที่รักที่เอ็นดู? ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ
ตอนเช้าเธอให้คำปรึกษาฟรีๆ กับเหล่าคุณป้าในจวน และคุณป้าเหล่านั้นก็นำทักษะของเธอไปถ่ายทอดสู่กันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ช่วยบ่ายลานเล็กๆ แห่งนี้ก็มักจะครึกครื้น
คนเรากินธัญพืชหลายชนิดมีใครบ้างล่ะที่จะไม่ปวดหัวตัวร้อน โดยเฉพาะคนแก่ๆ เจ็บป่วยไม่มีเงินรักษาก็อาศัยไม้แข็งเข้าสู้ พอทนไปนานๆ โรครักษายากก็เพิ่มมาก พวกนางได้ยินว่าพระชายามีฝีมือทางการรักษา ไม่ถือตัว ทั้งยังจ่ายยาให้ฟรีๆ ดังนั้นพวกนางจึงคิดหาทางเข้ามาที่นี่
บางคนถือดอกไม้ บางคนถือชา และบางคนก็มาริเริ่มหางานทำ สุดท้ายก็เพื่อให้เหลิ่งชิงฮวนรักษาอาการป่วยให้
เมื่อมู่หรงฉีกลับมา บังเอิญว่าคนรับใช้คนหนึ่งมีไข้และไออยู่หลายวัน ดูท่าจะเป็นโรคปอดบวม จึงถูกหญิงรับใช้ไล่ให้ไปหาหมอ
เหลิ่งชิงฮวนวางหูฟังทางการแพทย์ไว้ที่หน้าอก เอียงศีรษะฟังอย่างตั้งใจ
มู่หรงฉีรู้สึกว่าท่าทางนั้นเหมือนกับการโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขน หากเอนตัวไปด้านหน้าอีกนิดเดียวก็จะตกเข้าสู่อ้อมกอดของอีกฝ่ายได้
เขากระแอมเบาๆ ด้วยความไม่พอใจ แม้ว่าเสียงจะไม่ดังแต่ก็ค่อนข้างทรงพลัง ทุกคนคุกเข่าพร้อมเพรียงกัน ตัวสั่นงกๆ กลัวที่จะเงยหน้าขึ้นมอง
พระชายาไม่ถือตัวก็ไม่ได้หมายความว่าเทพสงครามผู้นี้จะเข้าถึงง่าย กลิ่นอายของผู้ที่ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาทำให้ผู้คนต่างปาดเหงื่อ รู้สึกว่าตนเองไม่ต้องกินยา ไม่เจ็บป่วยอีกแล้ว
เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกประหลาดใจมากที่เห็นมู่หรงฉี เธอรู้สึกว่าช่วงนี้ท่านอ๋องฉีดูว่างมากถึงได้มาที่จวนมหาเสนาบดี หรือว่าเมื่อคิดเรื่องเธอเสร็จท่านพ่อก็คิดเรื่องลูกเขยต่อ?
มู่หรงฉีชำเลืองมองทุกคนอย่างช้าๆ “ไม่แปลกใจเลยที่พระชายาของข้าจะสนุกจนลืมกลับบ้าน ที่แท้ก็ยุ่งมากนี่เอง”
ต่อหน้าผู้คนมากมาย น้ำเสียงของอ๋องฉีก็ยังเต็มไปด้วยการเสียดสีและไม่คิดจะไว้หน้าเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...