ตอนที่ 108 ชาติก่อนเขาเป็นอาจารย์สอนหนังสือ – ตอนที่ต้องอ่านของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
ตอนนี้ของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย โรแมนติคทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 108 ชาติก่อนเขาเป็นอาจารย์สอนหนังสือ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เรื่องที่หมิงเย่ว์ถูกไล่กลับจวนนั้นเหลิ่งชิงฮวนย่อมรับรู้อยู่แล้ว มีสายอย่างเซวียอี๋เหนียงไม่ว่าเรื่องอะไรในจวนมหาเสนาบดีก็ไม่มีทางเล็ดลอดไปได้
เธอค้นพบว่าพี่ชายไม่ได้อ่อนแออย่างที่เธอคิด แต่กลับฉลาดหลักแหลม
เธอก็แค่ส่งข่าวว่าท่านพ่อกับจินอี๋เหนียงจะไปเยี่ยมให้เขา เพื่อจะได้ไม่เผยพิรุธ ไม่คิดว่าพี่ชายซ้อนกลตลบหลังจินอี๋เหนียง
เช่นนี้ข้างกายเขาก็จะเหลือเพียงชิงเฟิง ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนหมิงเย่ว์เพื่อไปเข้าร่วมการสอบจอหงวน
ขอเพียงแค่ร่างกายของพี่ชายดีขึ้น เธอมั่นใจว่าด้วยมันสมองของเขาจะต้องบรรลุผลสำเร็จแน่นอน
การพลิกหน้าประวัติศาสตร์เช่นนี้จะไม่ให้เธอเข้าร่วมได้อย่างไรกัน? หากท่านพี่สามารถสอบได้ตำแหน่งสูงๆ เขาจะต้องเอาชนะจินซื่อได้อย่างแน่นอน แค่คิดเธอก็มีความสุขแล้ว
โตวโตวเองก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง ทั้งสองเริ่มทาสีกระดองเต่าตัวน้อยทันทีด้วยหมึกจากนั้นก็ถูลงบนกระดาษ ในตอนแรกไม่ค่อยคุ้นมือ แต่พอเริ่มทำไปเรื่อยๆ ก็คล่องมือจนสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ
โตวโตวสงสัย “ทำไมท่านอ๋องถึงให้คุณหนูฝึกวาดรูปเต่าหรือเจ้าคะ? เสียกระดาษเปล่าๆ”
เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจเบาๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่คาดเดา “พูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจหรอก นี่ไม่ใช่การวาดเต่าแต่นี่น่ะยืนเต่าหัวมังกร ยืนเต่าหัวมังกรก็คือการอวยพรให้ท่านพี่สอบได้อันดับหนึ่งไงล่ะ เจ้าเข้าใจไหม”
โตวโตวถูกเรื่องไร้สาระของเธอล้างสมองจนเบลอ นางพยักหน้าอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ รู้สึกว่ามันลึกซึ้งมาก มีเพียงคุณหนูของนางเท่านั้นที่คู่ควรกับท่านอ๋อง และชื่นชมความตั้งใจของนาง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อธิษฐานอะไรก็จะได้เช่นนั้น คุณหนูจะรับมืออย่างไรเจ้าคะ”
“เจ้าก็พูดแล้วไงว่านี่คือเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่เอามาจากบ่ออธิษฐานและมันมีจิตวิญญาณ” เหลิ่งชิงฮวนเบิกตากว้าง “ในเมื่อมู่หรงฉีไม่ได้อยู่ในจวนข้าก็จะวาดภาพหนึ่งพันภาพให้เขาในคราวเดียว”
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา แม่นมเตียวที่อยู่ด้านนอกทำความเคารพ มู่หรงฉีดันมาตรวจสอบซะงั้น
เด็กดี ป่านนี้แล้วทำไมยังไม่ออกเดินทางอีก?
เหลิ่งชิงฮวนรีบเก็บภาพร่างและเร่งโตวโตว “รีบเก็บเต่าเร็วเข้า”
เต่าตัวนั้นเปื้อนหมึก โตวโตวมองไปรอบๆ ไม่รู้จะนำไปซ่อนตรงไหน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามาถึงหน้าประตูจึงโยนมันลงในอุปกรณ์ล้างพู่กันบนโต๊ะ หยิบหนังสือขึ้นมาปิดไว้
มู่หรงฉีผลักประตูเข้ามาเห็นเหลิ่งชิงฮวนแสร้งทำเป็นเขียนหนังสือก็รู้สึกผิดปกติ
เหลิ่งชิงฮวนรีบลุกขึ้นมาทันที ก่อนจะฉีกยิ้มให้มู่หรงฉี “อรุณสวัสดิ์เพคะท่านอ๋อง”
ในมือของมู่หรงฉีถือกล่องโสมเก่าอยู่ เขาวางมันลงบนโต๊ะและหยิบภาพร่างที่เปื้อนหมึกของเหลิ่งชิงฮวนขึ้นมามองอย่างตั้งใจ และอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง “นี่เจ้าเป็นคนวาดหรือ?”
เหลิ่งชิงฮวนแกว่งพู่กันในมือไปมา “การฝึกฝนทำให้ฝีมือพัฒนาจริงไหมเพคะ”
มู่หรงฉีชำเลืองมองเต่าบนกระดาษวาดรูป จากนั้นก็มองเธออย่างสงสัยและพูดว่า "อืม" อย่างไม่ตั้งใจ
“ดูท่าคงจะใช้ใจในการวาด”
เหลิ่งชิงฮวนยิ้มประจบ “เรื่องที่ท่านอ๋องสั่งก็ย่อมต้องใช้ใจทำสิเพคะ”
“เหรอ?”
มู่หรงฉีชำเลืองมองเธออย่างเมินเฉย หยิบกระดาษสองแผ่นที่พับอย่างประณีตออกมาจากแขนเสื้อของเขา และโยนมันลงข้างหน้าเธอ “หนังสือสำนึกผิดที่ข้าสั่งให้เจ้าเขียนทำไมถึงได้เหลวไหลเช่นนี้?”
“เปล่านะเพคะ หม่อมฉันนับดูแล้วเกินมาสิบหกตัวอักษรนะ อีกทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์นะเพคะ”
เหลิ่งชิงฮวนเก็บกระดาษสองแผ่นนั้นขึ้นมาก่อนจะเปิดดูแล้วทำหน้าขมขื่นทันที
มู่หรงฉีเก็บกล่องของขวัญบนโต๊ะก่อนจะออกไป
เหลิ่งชิงฮวนดีใจลิงโลด “โตวโตว รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว จะได้ออกไปสูดอากาศข้างนอกแล้ว”
โตวโตวมีสีหน้าทุกข์ใจ “คุณหนู เต่าหายไปแล้วเจ้าค่ะ”
เหลิ่งชิงฮวนไม่สนใจ “หายก็หายไปสิ อย่างไรเสียมันก็ขายาวไม่อดตายหรอก”
โตวโตวยิ่งรู้สึกหดหู่ “ที่สำคัญคือบ่าวดูใต้โต๊ะแล้วก็ยังไม่เห็นมันตกลงมา ขอแค่อย่าให้ท่านอ๋องเอาไปก็พอนะเจ้าคะ”
เหลิ่งชิงฮวนไม่มีอารมณ์มาสนว่าเต่าจะหายไปไหน เธออาบน้ำแต่งตัวและออกจากตำหนักฉาวเทียนอย่างรวดเร็ว
ที่หน้าประตูมู่หรงฉีที่อยู่บนหลังม้ากำลังคุยกับเสิ่นหลินเฟิง
เหลิ่งชิงหลางสวมชุดผ้าปักประดับด้วยไข่มุกและมรกตทั่วศีรษะ แต่งกายดูหรูหราภายใต้การจัดการของแม่จ้าวก่อนจะขึ้นไปบนรถม้าแล้วชะโงกหน้าออกมามองเหลิ่งชิงฮวน
“การแต่งกายของท่านพี่ในวันนี้ได้ปรึกษารัชทายาทเสิ่นมาก่อนหรือเพคะ”
เหลิ่งชิงฮวนสวมชุดกระโปรงรัดอดสีม่วงควันบุหรี่ เข้าคู่กับเสื้อสีขาวสะอาดตา มวยผมขึ้นไปอย่างสง่างามปักปิ่นปักผมหงส์ทองที่ฝังอัญมณี ทั้งตัวดูสูงส่งและสง่างาม
บังเอิญวันนี้เสิ่นหลินเฟิงก็สวมเสื้อคลุมยาวสีม่วงดอกชบาด้วย แขนเสื้อและปกเสื้อเป็นสีขาว บนศีรษะสวมกวานหยกขาว รวมกับหยกเหอเถียนที่ห้อยอยู่ที่เอวยิ่งทำให้เขาสง่ายิ่งขึ้น
เสื้อผ้าที่มีสีเดียวกัน บุรุษผู้หล่อเหลาราวหยกอย่างเสิ่นหลินเฟิงและสตรีที่บอบบางนุ่มนวลราวดอกจื่อเถิง เมื่อยืนคู่กันก็เหมือนกับเป็นคู่กัน
หากใช้คำยุคปัจจุบันมาเปรียบเปรยก็คงเรียกได้ว่า ชุดคู่รัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...