ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 113

สรุปบท ตอนที่ 113 หลอกเคาะจวนอ๋อง: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอน ตอนที่ 113 หลอกเคาะจวนอ๋อง จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 113 หลอกเคาะจวนอ๋อง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลังจากเหลิ่งชิงหลางกินยาเม็ดหนิงเซียงหมดไปหนึ่งกล่อง บางครั้งก็มีบ่าวมายกยอบอกว่าผิวพรรณของนางดูมีน้ำมีนวลและเปล่งปลั่ง สีหน้าดูดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงคิดว่าเป็นผลมาจากยาเม็ดหนิงเซียง

ขณะที่นางกำลังเกาหัวด้วยความกลัดกลุ้ม ว่าจะไปหาได้จากที่ไหน ได้ยินฟังผิ่นจือพูดเช่นนี้ ทันใดนั้นก็เกิดความหวังขึ้นมาในใจทันที

“ฟังจากคำพูดของคุณชายฟัง หรือคุณชายจะพอรู้ช่องทางงั้นหรือ?”

ฟังผิ่นจือยิ้มอย่างมั่นใจ “พระชายารองดูผิวพรรณของผิ่นจือเป็นอย่างไร?”

เหลิ่งชิงหลางเพิ่งจะสังเกตเห็นริมฝีปากแดงๆและใบหน้าขาวๆของเขา ราวกับตบด้วยแป้ง หลังจากได้ยินเขาพูดมา จึงจ้องมองอย่างละเอียดอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นผู้ชายทว่ากลับเนียนละเอียดเหมือนเนื้อหยก แค่เป่าเบาๆหรือแตะเบาๆก็อาจแตกได้ ราวกับเด็กทารกแรกเกิดก็ไม่ปาน อดไม่ได้ที่จะถาม “หรือว่า?”

“ไม่ขอปิดบังพระนาง ข้าน้อยก็ใช้ยาเม็ดหนิงเซียงมาโดยตลอด”

เหลิ่งชิงหลางรู้สึกดีใจมากที่ได้ยินเช่นนี้ ส่วนจินเอ้อร์ก็รู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย “รู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องมีวิธี แต่ทำไมไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่าเจ้าจะมีความสามารถขั้นเทพด้านนี้ด้วย? ยาเม็ดหนิงเซียงเป็นของล้ำค่าไม่ได้หาเจอง่ายๆตั้งนานแล้ว”

ฟังผิ่นจือยิ้มอย่างมีเลศนัย “นักพรตเต๋าอวี้ชิงแม้ว่าจะบรรลุขึ้นเป็นเซียนไปแล้ว แต่ว่ายังทิ้งตำรับยาเอาไว้อยู่ ถ้าอยากได้ยาเม็ดหนิงเซียง มาหาข้าก็ถูกต้องแล้ว”

เหลิ่งชิงหลางนึกไม่ถึงว่า วันนี้มาเข้าร่วมงานครบรอบยังได้เจอกับเรื่องน่ายินดีเช่นนี้ด้วย ขณะที่พยายามหาแทบตายหายังไงก็หาไม่เจอ คาดไม่ถึงว่าจะเจอโดยบังเอิญเสียได้ นางมองเขาตาปริบๆ เต็มไปด้วยความกระดี๊กระด๊า “จริงหรือ?”

“เป็นของแท้แน่นอน”

“คุณชายยอมที่จะให้ของรักของห่วงเช่นนี้งั้นหรือ?”

ฟังผิ่นจือตบหน้าอกตัวเองด้วยท่าทีที่เต็มใจ “คนอื่นย่อมไม่ได้ แต่พระชายารองเป็นน้องสาวของพี่จิน ล้วนเป็นคนกันเองทั้งนั้น แม้ว่าข้าจะไม่ได้ใช้เอง แต่ก็ไม่มีทางขาดส่วนของท่านได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ราคานี้...”

ตอนนี้เหลิ่งชิงหลางกำลังดีอกดีใจอย่างเปี่ยมล้น ขอเพียงแค่สามารถกลายเป็นหญิงงามและกดหัวเหลิ่งชิงฮวนได้ หลังจากนั้นนางจะกลายเป็นพระชายาของจวนอ๋อง ถ้าเช่นนั้นจวนอ๋องฉีทั้งหมดล้วนเป็นของตัวเอง ยังต้องกังวลใจเรื่องไม่มีเงินงั้นหรือ? แม้ว่าจะจ่ายมากมายเท่าไร ก็ยังคุ้มค่า

“คุณชายแจ้งราคามาเถอะ”

จินเอ้อร์พูดขัดจังหวะขึ้นมาได้ถูกจังหวะพอดี “อย่าได้แจ้งราคาสูงเชียวนะ”

ฟังผิ่นจือถอนหายใจเบาๆ ราวกับกำลังลังเล “ยาเม็ดหนิงเซียงที่ข้าเอามากินเองราคาหกร้อยตำลึงต่อกล่อง ไม่รู้ว่าเพื่อนของข้าคนนั้นจะยอมให้ราคานี้กับพระนางหรือไม่”

จินเอ้อร์ไม่ได้พูดอะไร มองไปที่ดวงตาของฟังผิ่นจือที่เป็นประกายเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

ส่วนเหลิ่งชิงหลางอดไม่ได้ที่จะตกใจขึ้นมา แม้ว่าตระกูลจินจะให้เงินจำนวนมากตอนที่นางแต่งออกมา แต่ว่าตั้งหกร้อยตำลึงก็แพงเกินไป สิ่งนี้ยังต้องใช้ตลอดอีกด้วย กินไปไม่นาน ตัวเองก็จะคงชักหน้าไม่ถึงหลังหมดตัวเสียก่อน

ฟังผิ่นจือแอบมองสีหน้าของเหลิ่งชิงหลางอย่างระมัดระวังและพูดต่อ “ไม่รู้ว่า หากอ้างชื่อของจวนอ๋องฉี ไป ไม่รู้ว่าเพื่อนของข้าจะยอมถอยหนึ่งก้าวได้หรือไม่”

จินเอ้อร์หัวเราะ ฮิ ๆ และพูดขึ้น “น้องสาวของข้าเป็นลูกค้ารายใหญ่ เจ้าหนุ่มน้อยอย่างเจ้าก็เป็นคนมีฝีปากเจ้าไปต่อรองราคากับเพื่อนเจ้าที หากราคาเหมาะสม เชื่อได้เลยว่าน้องสาวของข้าไม่มีทางลืมเจ้าอย่างแน่นอน”

ฟังผิ่นจือรู้สึกลำบากใจ ไม่กล้ารับปากออกมา

“ถ้าเช่นนั้นก็รบกวนคุณชายฟังเป็นธุระจัดการให้ด้วย ถ้าหากราคาเหมาะสม จะขอบพระคุณอย่างสูง”

ฟังผิ่นจือจึงได้แต่กัดฟันพูด “ตอนนี้ยาเม็ดหนิงเซียงเป็นของหายากแค่ไหนไม่ต้องให้ข้าเอ่ย ข้าเชื่อว่าต่อให้ท่านอ๋องฉีจะเต็มใจจ่ายห้าร้อยตำลึง แต่สิ่งนี่ก็ไม่ใช่ว่าจะหามาได้ง่ายๆ ข้าจะไปเจรจากับเพื่อนของข้าอีกครั้ง ถ้าหากสามารถทำให้เขายอมลดราคาลงได้ วันหลังค่อยไปส่งมอบให้พระชายาถึงตำหนักนะขอรับ”

ทั้งสามคนเจรจากันเรียบร้อยแล้ว ประจวบเหมาะกับถึงเวลาเปิดงานเลี้ยงพอดี เหลิ่งชิงหลางก็ถูกเชิญเข้าไปนั่งในที่รับรองของแขกฝ่ายหญิง และไปพูดคุยกับจินซื่อต่อ

จินเอ้อร์เห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบๆแล้ว จึงชกหมัดไปที่ฟังผิ่นจือหนึ่งครั้ง “ดีมากเจ้าหนู ช่างกล้าเอ่ยราคาสูงเช่นนี้ได้ ตั้งหกร้อยตำลึงต่อหนึ่งกล่องเจ้ายังกล้าเอา นี่เจ้ากำลังจะปล้นหรือไง? เบื้องลึกเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่คิดว่าข้าไม่รู้หรือไง เจ้าอาศัยใบหน้าสวยสง่าและรูปร่างนุ่มนวล กินได้ทั้งชายทั้งหญิงไม่เว้น แสวงหาไปทั่วทุกสารทิศ เชี่ยวชาญการเลี้ยงชีพด้วยการเกาะผู้หญิงกินแบบเจ้า เจ้าจะใช้เงินหกร้อยตำลึงเพื่อซื้อยางั้นหรือ?”

เหลิ่งชิงหลางเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ท่านไม่ใช่เคยบอกว่า พี่ชายเขาอันนั้นไม่ปกติไม่ใช่เหรอ? ดังนั้นจึงปฏิเสธที่จะพูดคุยเรื่องแต่งงานมาโดยตลอด”

“เพราะเป็นแบบนี้ถึงได้เหมาะสมกับเหลิ่งชิงเหยายังไงล่ะ” จินซื่อเอ่ยเรียบ ๆ “ยกนางขึ้นมาเป็นฮูหยินน้อยของจวนรองเสนาบดี ยังมีใครกล้าพูดว่าข้าปฏิบัติต่อนางไม่ดีได้หรือ?”

เหลิ่งชิงหลางยิ้มอย่างอารมณ์ดีทันที “ใช่แล้ว สนิทสนมดองญาติกันลึกซึ้งขึ้นไปอีก เหมาะสมกันดี ให้นางเป็นม่ายไปตลอดชีวิต ดูสิป้าเซวียยังจะได้ใจอีกไหม?”

“ไม่เพียงแค่นั้น เหลิ่งชิงเหยายังเป็นจุดอ่อนของนางอีกด้วย ถ้าหากนางแต่งเข้าจวนรองเสนาบดีแล้ว ต่อไปป้าเซวียจำเป็นต้องเชื่อฟังคำสั่งข้า ข้าชี้สั่งนางไปทางตะวันออกย่อมไม่กล้าไปทางตะวันตกแน่ ให้นางทำอะไร ย่อมไม่มีทางปริปากบ่นได้สักคำ มิฉะนั้นเหลิ่งชิงเหยาที่อยู่ในตระกูลจิน รับรองว่าไม่มีวันได้ใช้ชีวิตอยู่เป็นสุขแน่!”

“ยังเป็นท่านแม่ที่ฝีมือร้ายกาจ!” เหลิ่งชิงหลางนึกถึงชีวิตตัวเองในจวนอ๋อง แล้วก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ

“เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนอ๋องหลายวันมานี้ เมื่อครู่แม่นมเตียวได้บอกกล่าวกับข้ามาหมดแล้ว ทำไมเจ้าถึงไม่ฟังคำแนะนำจากข้าล่ะ ตอนนี้เหมือนกับเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ แกว่งเท้าหาเสี้ยนเองแล้วเป็นไงละ?”

เหลิ่งชิงหลางแบะปาก ไม่พอใจเล็กน้อย “แม่จ้าวทำไมถึงบอกท่านทุกอย่างเลยล่ะ? ช่างพูดมากจริงๆ น่ารำคาญยิ่งนัก”

“ข้ารู้ แม่จ้าวทำอะไรไม่ได้ดีเท่าจือชิวยัยหนูคนนั้น ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจเจ้า แต่ว่าแม่จ้าวใช้ชีวิตมานานจนอายุปูนนี้แล้ว เห็นการแย่งชิงความโปรดปรานมากมายเรือนหลังจวนรองเสนาบดี จะเทียบยัยหนูนั้นคนเดียวไม่ได้เลยหรือ?”

“แต่ว่าครั้งก่อนก็เสียเรื่องเพราะนาง หากนางทำอะไรระมัดระวังกว่านี้ จะปล่อยโอกาสนี้หลุดมาให้จือชิวได้อย่างไร?”

จินซื่อจ้องมองนาง มองสำรวจชั่วครู่หนึ่ง “ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก เจ้าไม่ชอบจือชิวก็ช่างปะไร แต่แม่จ้าวเจ้าก็ยังไม่ชอบอีก? หากวันหนึ่งเจ้าต้องปกครองจวนอ๋อง เจ้าต้องเรียนรู้วิธีเอาชนะใจคนใต้การดูแล้วของเจ้า หากพวกเขาไม่สามารถจงรักภักดีต่อเจ้าได้ จะต้องมีภัยอันตรายแอบซ่อนอยู่ และเป็นโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามได้”

เหลิ่งชิงหลางบ่นพึมพำขึ้นมาหนึ่งประโยคอย่างไม่เต็มใจนัก “ข้าเข้าใจแล้ว”

จินซื่อกัดฟันแน่น และพูดอย่างจริงจัง “ด้วยนิสัยของเจ้า ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหลิ่งชิงฮวนด้วยซ้ำไป ตราบใดที่นางยังอยู่ในจวนอ๋องคอยยุยงสร้างปัญหาอยู่นั้น เจ้าอยากจะทำตัวเด่นขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม่จะออกหน้าแทนเจ้าหนึ่งครั้ง จัดการหอกข้างแคร่นี้เสีย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา