ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 128

เหลิ่งชิงฮวนปกป้องป้องบริเวณท้องน้อยของตัวเองด้วยความรักของแม่ที่มีต่อลูก กระดูกสันหลังของเธอเกร็งตัวขึ้น เธอมองไปที่มู่หรงฉีด้วยความสงสัยเป็นอย่างมากราวกับเหมือนกับแม่ไก่ที่กำลังพองขนขึ้นมา

“ท่านอ๋องฉีเพคะ หม่อมฉันไม่รู้ว่าที่ท่านพูดแบบนี้ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ อาจจะเพื่อหม่อมฉันหรืออาจจะเป็นเพราะการมีอยู่ของเด็กคนนี้จะทำให้ท่านรู้สึกอับอายจนไม่อาจให้ใครมาพูดถึงได้”

แต่หม่อมฉันสามารถบอกกับท่านได้อย่างชัดเจนเลยนะเพคะว่า ในเมื่อหม่อมฉันได้ตัดสินใจเก็บเด็กคนนี้เอาไว้แล้ว ดังนั้นเด็กคนนี้คือชีวิตของหม่อมฉัน ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์แกแม้แต่ปลายผม

ท่านวางใจเถอะเพคะ ขอเพียงแค่ปล่อยหม่อมฉันไป เด็กคนนี้หม่อมฉันย่อมหาสถานะที่เหมาะสมให้กับแก บางทีหม่อมฉันอาจจะเลือกหนีไปในเวลาที่หลังจากให้กำเนิดเด็กคนนี้แล้วจึงจะกลับไปยังเมืองหลวง หรือบางทีอาจจะไม่กลับมาอีกเลย สรุปแล้วก็คือจะไม่ทำให้เสียชื่อไปถึงท่านอ๋องฉีเด็ดขาดเลยเพคะ

ดังนั้นทางที่ดีที่สุดท่านอย่าได้คิดทำร้ายเด็กคนนี้เลยเพคะ”

มู่หรงฉีกำบังเหียนมาแน่นจนกระดูกโปนออกมา ดวงตาของเขาสั่นไหวอยู่ชั่วขณะหนึ่งและยังคงพูดความในใจออกมา “เขาคุ้มค่าที่จะให้เจ้าทำแบบนี้หรือ เพียงเพื่อขาแล้วเสื่อมเสียชื่อเสียงและยังยอมสูญเสียความสุขที่เหลือในชีวิตไปอีกงั้นเหรอ”

เหลิ่งชิงฮวนเข้าใจว่า “เขา” ที่เค้าพูดนั้นหมายถึงใคร ทำไมช่วงนี้เขาถึงได้เอาแต่ไปยุ่งแต่กับหัวข้อสนทนาที่มันอ่อนไหวง่ายกันนะ

เธอมองไปที่อมู่หรงฉีอย่างจริงจังและสบตากับเค้าด้วยความกล้าหาญ “ไม่เกี่ยวอะไรกับคนๆนั้นเลยสักนิดแพ็คค่ะ ที่บอมฉันจะคลอดเด็กคนนี้ออกมาก็เป็นเพราะเด็กคนนี้มีสายเลือดของหม่อมฉันอยู่ครึ่งหนึ่ง เขาเป็นคนที่ใกล้ชิดกับหม่อมฉันที่สุดในโลกใบนี้ และควรค่าที่หม่อมฉันจะรัก

ถ้าหากว่าหลังจากนี้หม่อมฉันโชคดีได้พบกับคนทีบอกว่าชอบหม่อมฉัน เขาย่อมต้องรักเด็กคนนี้ด้วยเพราะเด็กคนนี้นั้นแสดงให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์แบบของหม่อมฉัน ไม่อย่างนั้นหม่อมฉันก็ไม่แต่ง”

“งั้น...เขาล่ะ? เขาไม่ยินดีที่จะรับผิดชอบไม่ใช่หรือ”

สายตาของเหลิ่งชิงฮวนมืดลง เธอหลุบตาลง แพขนตาหนาของเธอนั้นปิดบังดวงตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยและเย็นชา

“ไม่พูดถึงเขาได้ไหมเพคะ”

มู่หรงฉีได้แต่เฝ้าคอยคำตอบที่เขาต้องการอยู่อย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ดี เขาก็ไม่ไล่ต้อนถามเธอ เขาพูดเลี่ยงออกไปว่า “ข้าแค่พูดแนะนำไปตามน้ำเท่านั้นเอง จะฟังหรือไม่ฟังก็เรื่องของเจ้า”

เหลิ่งชิงฮวนจึงเบาใจลง ทั้งสองคนเดินไปอย่างเชื่องช้าและไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีก บรรยากาศที่อยู่ระหว่างทั้งสองคนนั้นบรรยายออกมาได้ยากในทันที

ชายหนุ่มร่างสูงนั้นมีบรรยากาศรอบตัวที่ดูไม่ธรรมดา เขาที่กำลังเดินอยู่บนถนนนั้นดูราวกับอัญมณีที่ล้ำค่าที่ดึงดูดให้ผู้คนต่างพากันลอบชื่นชม

จาก ในตอนแรกที่ทั้งสองคนนั้นไม่ลงรอยกัน จนมาถึงในวันนี้ที่ทั้งสองคนสามารถพูดคุยกันได้อย่างปกติราวกับเป็นเพื่อนกัน มีความไว้วางใจและเชื่อใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังมีเรื่องที่ผ่านมาด้วยกันมากมาย ภาพของมู่หรงฉีในใจของเธอนั้นได้ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป

ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ดีเลิศ ภายนอกที่ดูเย็นชาและเย่อหยิ่งของเขานั้นกลบซ่อนความรักพวกพ้องและความยุติธรรมเอาไว้ จิตใจที่มีความปรารถนาอันแรงกล้านั้นบางครั้งก็มีความเขินอายและมีความเป็นเด็ก ถ้าหากเอาคำพูดของพี่ชายมาพูดก็คือเป็นคนดีที่ยากที่จะหาได้บนโลกนี้จริงๆ

แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วตัวเธอกับเขานั้นไม่มีวาสนาต่อกัน มันถูกลิขิตเอาไว้แล้วว่าเรานั้นได้คลาดกัน คนที่เขาชอบคือเหลิ่งชิงหลาง ส่วนตัวเธอนั้นก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ สักวันหนึ่งเธอต้องจากไป จากนั้นก็ต้องอยู่ให้ไกลออกไป

ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นเธอก็รู้สึกคับข้องใจ

คนๆนั้นฉวยโอกาสได้ผลประโยชน์ไปในตอนที่คนอื่นอยู่ในอันตราย เมื่อพูดถึงผู้ชายห่วยๆคนนั้น ฉันจะไม่มีวันให้เขารู้ว่าคุณคือใครเด็ดขาด! ไม่อย่างนั้นฉันจะขุดหลุดศพของบรรพบุรุษคุณ ความสุขตลอดชีวิตของฉันก็ขอแลกเปลี่ยนแบบนี้แล้วกัน

ข่าวที่จินอี๋เหนียงถูกเนรเทศนั้นถูกนำไปแจ้งมาที่จวนอ๋องฉีอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากเหลิ่งชิงหลางเอาแต่แกล้งป่วยมาตลอดจึงไม่ได้ไปฟังธรรมที่วัดต้าหลี่ เมื่อได้ยินข่าวนี้ก็ราวกับมีฟ้าผ่าฟาดลงมาจนตัวแข็งทื่อ

เธอนั้นฟังข่าวนี้ด้วยความยินดีอย่างล้นปรี่ และหวังว่าเหลิ่งชิงฮวนจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยและถูกมู่หรงฉีโกรธ ดังนั้นเธอจึงส่งคนไปที่วัดต้าหลี่เพื่อสืบข่าว แต่ใครจะรู้กันเล่าว่าข่าวที่กลับมานั้นจะเป็นข่าวที่ทำให้รู้สึกเหมือนฟ้าผ่าในเวลากลางวันแสกๆ

สติสัมปชัญญะของเธอหายไปชั่วขณะ เธอทรุดลงไปกองกับพื้นอยู่นานจึงจะได้สติกลับมาและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

จินซื่อนั้นเป็นที่พึ่งพาหลักของเธอ ถ้าหากว่าจินซื่อไม่อยู่ในจวนมหาเสนาบดีแล้วล่ะก็ ตัวเธอจะมีอะไรไปสู้กับเหลิ่งชิงฮวนได้ล่ะ อีกอย่างเรื่องนี้จะเกี่ยวพันมาถึงตัวเธอไหม มู่หรงฉีจะมองเธออย่างไร ทำอย่างไรดี

จือชิวที่อยู่ด้านข้างกำลังก้มหน้างุดและไม่พูดอะไรออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา