ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 136

ฮ่องเต้กวาดสายตามองมู่หรงฉีแวบหนึ่งก่อนจะทำสีหน้าไม่พอใจ

“จำได้ว่าจิ่นอวี๋ถึงวัยปักปิ่นมาหลายปีแล้ว ปีนี้เหมือนว่าจะอายุสิบเก้าแล้วใช่ไหม”

คนงามพยักหน้า “เพคะ ฝ่าบาท”

“พระสนมฮุ่ยเก็บเจ้าไว้ข้างกายมาโดยตลอดและไม่สามารถทนปล่อยเจ้าไปได้ ทำให้เจ้าเสียเวลาไปหลายปี วันนี้ในงานเลี้ยงฉงหลิน เป็นงานที่คนหนุ่มที่ทั้งรูปงามและมีความสามารถมารวมตัวกัน ถ้าหากว่ามีคนไหนที่ถูกใจเจ้าก็รีบมาบอกข้า ข้าจะจัดการให้เจ้าเอง”

คนงามหันไปมองมู่หรงฉีแวบหนึ่งก่อนที่จะหัวเราะออกมาน้อยๆ “เมื่อครู่นี้ท่านอ๋องฉีเองก็เปรยถึงเรื่องนี้กับหม่อมฉันเหมือนกันเพคะ ท่านอ๋องบอกว่าคุณชายเหลิ่งจวนท่านมหาเสนาบดีนั้นรูปร่างสูงใหญ่ รูปงามดั่งหยก กิริยามารยาทก็ดี ให้หม่อมฉันลองพิจารณาดูเพคะ”

เธอยังพูดไม่ทันจบในหัวของเหลิ่งชิงฮวนก็มีเสียง “อื้อ” เธอมองไปที่มู่หรงฉีอย่างตกตะลึง

เขาหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ไม่ต้องพูดถึงว่าจิ่นอวี๋จวิ้นจู่นั้นมีนิสัยดีหรือไม่ดี แค่เธอติดต่อกับมู่หรงฉีอย่างหน้าตายอยู่เรื่องนี้ เธอไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงคนนี้แต่งกับเหลิ่งชิงเฮ่อแน่

ไม่อย่างนั้นตัวเธอคงได้ทะเลาะกับผู้หญิงคนนี้ทั้งวัน

เหลิ่งชิงเฮ่อเองก็ชะงักค้างไปอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก

ใบหน้าของมู่หรงฉีเองก็ตกตะลึง เขาแย้งกลับว่า “คุณชายเหลิ่งไม่เหมาะสมกับเจ้า”

“เมื่อครู่ท่านพี่ไม่ได้พูดกับข้าเช่นนี้นี่เจ้าคะ” คนงามไม่มองเหลิ่งชิงเฮ่อแม้แต่นิด และพูดเองว่า “รู้จักกันดี ความสัมพันธ์ยิ่งลึกซึ้งกันไปอีก มีอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือเจ้าคะ”

ฮ่องเต้กระแอมออกมา “คุณชายเหลิ่งนั้นเป็นคนที่มีพรสรรค์โดดเด่นอย่างแท้จริง แต่ว่าข้าเห็นว่าตอนนี้เขายังไม่ฟื้นจากอาการป่วย เหมือนจะไม่เหมาะสมในการแต่งงานเท่าใดนัก”

คนงามเงยหน้าขึ้นมองไปที่มู่หรงฉี “ท่านอ๋องพูดว่าพระชายามีวิชาแพทย์สูงส่ง ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันคุณชายเหลิ่งก็จะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมเพคะ”

ฮ่องเต้มองไปยังมหาเสนาบดีเหลิ่ง “เรื่องสำคัญในชีวิตแบบนี้ข้าไม่ใช่คนตัดสินใจ มหาเสนาบดีเหลิ่งเจ้าเห็นว่าอย่างไร”

มหาเสนาบดีเหลิ่งนั้นย่อมต้องไม่ชอบใจพื้นเพครอบครัวของคนงาม จวิ้นจู่ที่ไม่มีที่ไปคนหนึ่ง เบื้องหลังเองก็ไม่มีใครหนุนหลัง ไปหาขุนนางธรรมดาเสียจะดีกว่า

เขากำลังแอบแค้นในใจที่เหลิ่งชิงฮวนเปิดเผยจุดอ่อนของพี่ชายตนต่อหน้าสาธารณะชน หลังจากนี้เขาจะไปได้หน้าในหมูเพื่อร่วมงานได้อย่างไน และไปสู่ขอใครให้ได้อย่างไร เมื่อได้ยินคำถามของฮ่องเต้เขาก็แอบรู้สึกว่าตนเองนั้นโชคดี

“กระหม่อมได้ยินมาว่าพระสนมฮุ่ยเฟยนั้นให้ความสำคัญกับจิ่นอวี๋จวิ้นจู่มาก ชิงเฮ่อของเราวาสนาน้อยเกรงว่าจะทำให้จิ่นอวี๋จวิ้นจู่ต้องลำบาก พระสนมฮุ่ยเฟยก็คงไม่ยินยอมกระหม่อม”

“เมื่อครู่นี้พี่ชายพูดว่า เรื่องงานแต่งงานหม่อมฉันสามารถจัดสินใจได้ด้วยตนเอง และเขาจะช่วยหม่อมฉันพูดเพคะ”

นั่นก็พี่ชาย นี่ก็พี่ชาย ต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้เหลิ่งชิงฮวนโมโหจนต้องพยายามข่มความโกรธลงไป

วันนี้ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็สามารถหนีหรูอี้ได้พ้น แต่คิดไม่ถึงว่าจิ่นอวี๋จะโผล่มา

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเสียงเย็น “ท่านอ๋องช่างมั่นใจในวิชาแพทย์ของหม่อมฉันสียจริงเลยนะเพคะ หม่อมฉันเองยังไม่มั่นใจในตนเองเลย ต้องรักษาตัวอีกสามปีห้าเกรงว่าคงจะไม่มีหน้าไปพบ จิ่นอวี๋จวิ้นจู่ปีนี้ก็อายุสิบเก้าปีแล้ว ถ้าหากยังรออีกสิบปีหรือแปดปีเกรงว่าคงจะอายุมากเกินไปแล้วเพคะ ท่านสามารถรอได้แต่พวกต้องขออภัยด้วย”

การปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ทำให้คนงามเงียบไป

แต่มู่หรงฉีที่ได้ยินคำพูดนี้ของเหลิ่งชิงฮวนก็รู้ว่า แม่นางน้อยกำลังโกรธแล้ว

ฮ่องเต้หัวเราะออกมาเสียงดัง “ในเมื่อเจ้าว่าแบบนี้ ตอนนี้เรื่องการพระราชทานสมรสให้กับขุนนางเหลิ่งนั้นร้อนใจเกินไปแล้ว”

เรื่องสนุกได้กลายเป็นเรื่องน่าตกใจเข้าแล้ว จิ่นอวี๋เห็นดังนี้จึงถอยออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา