ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 149

ฉากกั้นด้านหลังหัวเราะเสียงเย็นชา

“ฟังดูแต่ละข้อแล้วล้วนมีเหตุผล ดูเหมือนจะมีเหตุผลนะ ท่านไม่กลัวว่าไปรู้ความลับคนอื่นเข้า แล้วจะถูกปิดปากเหรอ?”

น้ำเสียงของชายหนุ่มนั้นเยือกเย็นและเงียบเหงามาก เหมือนมีพลังงานอาฆาตแผ่ออกมา

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจ “เจ้าเข้ามาถอดเสื้อผ้าอาบน้ำในห้องของข้า เดิมทีไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบังอะไร ข้าก็แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง นั้นก็ไร้ประโยชน์นะสิ งั้นก็สู้แสดงออกให้เห็นไปเลย บอกกับเจ้า ข้ารู้เหตุการณ์ในตอนนี้ดี ไม่ไปพูดพล่ามที่ไหนหรอก”

“งั้นท่านเดาสิว่า ว่าท่านทายถูกหรือไม่?”

เหลิ่งชิงฮวนหน้านิ่วคิ้วขมวด “หวังว่าจะทายไม่ถูก”

ชายหนุ่มหัวเราะ “ฮึฮึ” อย่างเย็นชา “บุ๋งบุ๋ง” เสียงลุกขึ้นมาจากน้ำ “ใช่หรือไม่ใช่ มองแวบเดียวก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง?”

เหลิ่งชิงฮวนส่ายหัวไปมา “ถึงแม้ว่าจะอยากรู้อยากเห็น แต่อะไรที่ไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่เหมาะสม ก็อย่าไปดู ข้ากลัวเป็นตากุ้งยิง”

ด้านหลังฉากกั้นยังคงเสียงดังอยู่ต่อเนื่อง ชายหนุ่มคนนั้นเดินขึ้นมาจากอ่างน้ำ ยกมือหยิบผ้าเช็ดตัวบนฉากกั้น พูดเสียงเรียบ “เดาก็เดามาแล้ว ไม่รู้ว่าในใจนั้นคิดอนาจารข้าไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง เหตุใดยังจะมาแกล้งอีก? ท่านไม่อยากดูก็ต้องดู”

เมื่อกี้คือแอบถ้ำมอง ส่ายตัวไปมา กลายเป็นพวกวิตถารชอบโชว์

“ข้าสามารถเรียกคนมาได้ไหม?” เหลิ่งชิงฮวนถามอย่างอ่อนแรง “ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็แสดงให้เห็นว่าข้าได้ต่อต้านแล้ว”

“ท่านคิดว่า หากถูกคนเห็นเข้า ท่านจะยังพูดได้อย่างชัดเจนงั้นเหรอ?”

ดังนั้นพูดได้เลยว่าน่าเวทนาไม่อยากดูก็ต้องดู

เหลิ่งชิงฮวนใช้มือปิดตา ค่อยค่อยกางนิ้วเป็นช่องโหว่ “บอกไว้ก่อนเลยนะ ข้าไม่มีเงินจ่ายค่าบริการหรอกนะ”

ชายหนุ่มไม่ได้ใส่เสื้อผ้าจริงๆ เดินจากฉากกั้นออกมาข้างนอก ยังไม่ทันได้ออกมา ทันใดนั้นก็ยกมือถอดเสื้อผ้าแขวนไว้บนฉากกั้น มือหนึ่งยกขึ้นมาปิดบนเรือนร่าง หลังจากนั้นก็กระโดดขึ้นพลิกตัวออกมามาจากทางหน้าต่างด้านหลัง

การกระทำต่อเนื่องกันนี้ เหมือนกับรื่นไหลไม่ขัดเขิน เพียงครั้งเดียวแล้วจบ เพียงแค่พริบตา ก็ไร้เงา หนีหายไปแล้ว

“ก็แค่ดีแต่พูดสินะ” เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเยาะ “พอเอาเข้าจริงก็ปอดแหก”

เสียงพูดเพิ่งจะสิ้นสุดลง ด้านนอกก็มีคนตำหนิอย่างรุนแรง “หยุดเดี๋ยวนี้!”

เหลิ่งชิงฮวนตกใจจนตัวสั่น แม่เจ้าโว้ย เสียงของมู่หรงฉี เขาไม่ได้ไปฟังร้องระบำเพลงที่เรือนจื่อเถิง มีความสุขกับพระชายาองค์อื่น จะมาที่ตำหนักฉาวเทียนทำไมกัน?

คนนี้ฝีมือกังฟูแกร่งกล้า ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวข้างนอกก่อนตัวเอง เพราะงั้นก็เลยรีบหนีไป แต่เขานั้นปลอดภัยแล้ว ตัวเองไม่ว่าจะแก้ต่างยังไงก็ฟังไปขึ้นแล้ว?

ได้ยินข้างนอกปะทะกัน ทหารอารักขาในจวนก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว มุ่งหน้ามาล้อมตำหนักฉาวเทียน ในขณะนี้ตำหนักฉาวเทียนโดนล้อมไว้ เหมือนกับน้ำที่เดือดปุดๆ

เหลิ่งชิงฮวนจำเป็นต้องกัดฟันออกไปดูเหตุการณ์ แยกไม่ออกว่าคนไหนคือมู่หรงฉี คนไหนคือชายอัปมงคลนั่น เห็นแต่เงาดำสองคนปะทะต่อสู้กันอยู่ ทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหว ต่างเกิดลมพายุโหมกระหน่ำทำลายทุกสิ่งอย่าง ทำให้เกิดเสียงตื่นเต้นฮือฮา

พวกท่านไม่คิดจะดูแลบ้านเลยหรือไง นี่ต้องการจะพังห้องกันเลยหรือ?

ทหารอารักขาได้ยินเสียงก็รีบเข้ามา ร้องตะโกนไล่ตามนักฆ่าไป เงาดำสิบคนกระโดดลอยออยู่บนสันหลังคา ไม่รู้ว่าเหยียบกระเบื้องพังไปแล้วกี่แผ่น ก็ยังแยกไม่ออกว่าเงาร่างไหนกันแน่คือมู่หรงฉี

เหลิ่งชิงฮวนก็ไม่รู้ว่า ตนหวังให้บุรุษผู้นั้นถูกจับกุมได้ หรือหนีรอดไปได้ รู้สึกว่าไม่ว่าจะอย่างไหน ผลสุดท้ายก็คือเหมือนกัน อยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก

โตวโตวเบิกตาโพลงอย่างตกใจ สีหน้าตื่นตูม “นี่คือวิชาเดินเหินตัวเบาในตำนานใช่ไหมเพคะ? สุดยอดเก่งกาจเสียจริง! ทำไมถึงได้มีโจรที่อุกอาจเช่นนี้ เข้ามาขโมยของถึงจวนท่านอ๋องเลย?”

เหลิ่งชิงฮวนตบที่หน้าผาก ถ้าหากโจรนี่ขโมยของเรื่องก็จบ ประเด็นคือเขาไม่ได้ขโมยอะไรนี่สิ เพียงแค่มาอาบน้ำที่ห้องของตัวเองอีกทั้งยังถูกพระสวามีจับตัวได้อีก หลังจากนั้นแต่งตัวไม่เรียบร้อยหนีทุลักทุเลออกไป อย่างกับฉากจับชู้ได้คาหนังคาเขา

เสียงอึกทึกครึกโครมภายในจวนก็ค่อยๆเงียบลง เริ่มไล่ห่างไกลออกไป

ประตูตำหนักฉาวเทียนเปิดอยู่ตลอดเวลา ทหารอารักขายังเข้ามาค้นหาอยู่สองรอบ

เหลิ่งชิงหลางและจื่อชิววิ่งมาที่หน้าประตู ชะโงกหน้ามองเข้าไปข้างใน ก็เห็นเหลิ่งชิงฮวนปลอดภัย ยืนมองเหตุการณ์อยู่ที่ลานตำหนัก แสร้งถามด้วยความเป็นห่วย “ได้ยินมาว่าในตำหนักของท่านพี่มาโจรบุกเข้ามา ท่านพี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เหลิ่งชิงฮวนส่ายหน้าอย่างสบายๆ “มีท่านอ๋องคอยปกป้องตำหนักฉาวเทียนอยู่ จะเป็นอะไรไปได้เยี่ยงไรกันล่ะ?”

เหลิ่งชิงหลางสีหน้าแข็งทื่อ หลังจากนั้นพูดโม้อย่างภาคภูมิใจ “ท่านอ๋องกำลังดื่มสุราอยู่ที่เรือนจื่อเถิง ได้ยินว่าตำหนักของท่านพี่มีนักฆ่า ไม่ไว้วางใจ ดังนั้นจึงรีบมาดู มิเช่นนั้นจะไม่ปล่อยให้โจรมันขโมยของไปได้อย่างนั้นเหรอ? ไม่รู้ว่าในตำหนักฉาวเทียนมีเงินทองของมีค่ามากน้อยแค่ไหน คิดไม่ถึงว่ามันจะล่อตาล่อใจขโมยเช่นนี้”

ตอนนี้เหลิ่งชิงฮวนนั้นต้องสร้างบุญกุศลให้มาก ไม่มีเวลาว่างมาต่อปากต่อคำกับเหลิ่งชิงหลาง ต่อหน้าเธอนั้นมีเจตนาที่จะทดสอบหยั่งเชิง หัวเราะเย้ยหยัน แต่ไม่มีเสียง

มู่หรงฉีเดินมาที่ตำหนักฉาวเทียนด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหลิ่งชิงหลางรีบก้าวไปข้างหน้าทันที ถามด้วยความเป็นห่วง “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไรใช่ไหมเพคะ? ขโมยนั่นจับได้หรือเปล่าเพคะ?”

มู่หรงฉีตอบอย่างเยือกเย็นเพียงแค่สองคำ “ไม่เป็นไร”

เหลิ่งชิงหลางพูดอย่างนัยแอบแฝง “ขโมยนี่ต้องโดนสอบสวนอย่างหนัก ดูสิว่าเขาแอบย่องเข้าตำหนักท่านพี่ มีจุดประสงค์อะไรกัน คนจ้างต้องการเงินไม่ต้องการชีวิต เพิ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก”

มู่หรงฉีไม่ได้พูดอะไร เดินตรงเข้าไปในตำหนักฉาวเทียน มองเหลิ่งชิงฮวนด้วยสายตาเย็นชา หลังจากน้ันก็เข้าห้องไป

เหลิ่งชิงฮวนหดคอ รู้สึกว่าเหมือนตัวเองถูกล้างจนสะอาดแล้ววางไว้บนเขียงรอที่จะถูกเชือดเหมือนกับลูกแกะ เดินคอแข็งเข้าไป แล้วปิดประตูห้อง

มู่หรงฉีนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ในมือมีผ้าคาดเอวสีแดงขนาดใหญ่ที่ปักดอกฮิกันบานะ

เหลิ่งชิงฮวนเลิ่กลั่ก ทันใดนั้นรู้สึกถึงหายนะ รู้สึกไม่ดีไปทั้งตัว

เธอกลืนน้ําลายลงด้วยความยากลําบาก จ้องมองมู่หรงฉีที่ใบหน้านิ่งขรึมอย่างระวัง “ท่านฟังข้าอธิบายก่อนได้ไหม?”

แววตาที่เย็กยะเยือกของมู่หรงฉีจ้องมองที่เธอ เม้มริมฝีปากบาง “ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้อธิบาย”

“คนนี้หม่อมฉันเคยเจอเขาครั้งหนึ่ง ฉีจิ่งอวิ๋นเป็นพยานได้ ก็คือพวกมักมากบ้าตัณหาแฝงตัวมากับหอนางโลม เขามาหาหม่อมฉัน คงอยากจะให้หม่อมฉันรักษาให้เขา”

“โรคอะไรทำไมถึงต้องเปลื้องผ้าด้วย” มู่หรงฉีเดินเข้ามาหาเธอ มองพิจารณาเธอ “จำเป็นต้องใช้อ่างน้ำด้วยหรือ?”

“หม่อมฉันเข้ามาในห้อง เขาก็ถอดเสื้อผ้าแช่อยู่ในอ่างแล้ว หม่อมฉันเองก็ตกใจ”

“เดินอ้อมการเฝ้ารักษาจวนหลายชั้น แอบเข้ามาที่ตำหนักฉาวเทียน เพื่อที่จะมาอาบน้ำต่อหน้าพระชายาเนี่ยนะ มันช่างต่ำช้าเสียจริง”

เสียงของมู่หรงฉีนั้นสงบนิ่งมาก แต่เหลิ่งชิงฮวนกลับรู้สึกกดดัน พยายามระงับความโกรธ นั่นทำให้เธอเริ่มกลัวมากยิ่งขึ้น

“ไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ความจริงก็เป็นเยี่ยงนี้ คนนี้กำเริบเสิบสาน ไม่มีสัจจะวาจา”

“คนแบบไหน?”

“หม่อมฉันไม่รู้จัก แต่น่าจะเป็นคนมีชาติตระกูล”

“บุรุษหนีออกจากห้องของพระชายาด้วยเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยในตอนกลางคืน ยังคงเป็นผู้มีวิทยายุทธ์ขั้นสูง สามารถหลบหลีกน้ำมือของข้าได้ คำอธิบายของเจ้า ข้าไม่อาจที่จะเชื่อได้”

เหลิ่งชิงฮวนก็รู้สึกจนปัญญา ความวัวยังไม่หาย ความควายก็เข้ามาแทรก เรื่องที่ตนเองกับมู่หรงฉีผิดใจกันก่อนหน้าก็ยังไม่ได้สะสาง ลูกพี่ท่านนี้ก็ซื้อหนึ่งแถมอีกหนึ่ง รีบสร้างเรื่องมาให้อีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา