ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 151

“ทำ ทำไมกัน?” รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเอ่ยถามตะกุกตะกัก

มู่หรงฉีมองเขาอย่างไม่พอใจ “ข้าไม่พอใจนางมานานแล้ว วันนี้จึงเขียนหนังสือหย่าตัดขาดกัน มีความสุขจริง!”

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดมองเขาหน้านิ่วคิ้วขมวด “ท่านอ๋องมีความสุข แต่หากพระชายาจากไป แล้วอวัยวะภายในของกระหม่อมเกิดเจ็บปวดขึ้นมาจะหาใครมาตรวจดูล่ะขอรับ”

มู่หรงฉีชะงัก “หมอบนโลกนี้ไม่ได้มีแค่นางเพียงคนเดียว สตรีบนโลกก็ไม่ได้มีแค่นางเช่นกัน”

“แต่นางเป็นคนผ่าเปิดอกกระหม่อม นางบอกว่าเกล็ดเลือดของกระหม่อมสูงต้องกินยาอย่างต่อเนื่องมิเช่นนั้นเส้นเลือดจะอุดตันได้”

เขาพ่นคำพูดออกมาแต่มู่หรงฉีไม่เข้าใจจึงยกมือขึ้นอย่างรำคาญ “เส้นเลือดหยุดทำงานเพราะเจ้าขาดสุรา แค่ดื่มสุราเข้าไปกระตุ้นก็ไม่มีอะไรแล้ว ดื่มสุรา!”

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดโบกมือ “ไหสุราของกระหม่อมแตก ท่านอ๋องรอก่อนนะขอรับ กระหม่อมจะเข้าไปหยิบมาให้อีกไห”

มู่หรงฉีส่งเสียงตอบรับแสดงการอนุญาต

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดลงมาจากหลังคาเมื่อพ้นสายตาของเขาก็รีบวิ่งไปทันที ไม่ได้วิ่งไปที่ห้องเก็บสุรา แต่วิ่งออกไปด้านนอก

ระหว่างทางก็เจอเข้ากับหมอประจำจวนที่กำลังหาลิงอยู่ เมื่อเห็นเขาวิ่งหน้าตื่นมาก็รีบคว้าตัวไว้ “ดึกดื่นป่านนี้แล้ว เจ้าละเมอหรือ?”

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดร้อนรนจนกระทืบเท้า “ข้าจะมีกะจิตกะใจมาละเมอที่ไหนกัน ข้าถามท่าน พระชายาดีไหม”

หมอถลึงตา “นางเป็นอาจารย์ข้า อาจารย์เพียงหนึ่งวันนับถือเป็นบิดาตลอดชีวิต เจ้าว่าดีไหมล่ะ?”

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดไม่มีเวลามาสนใจคำเปรียบเปรยของเขาจึงได้แต่พายเรือตามน้ำ “พ่อท่านโดนแม่ปลดแล้ว ท่านจะร้อนรนไหม”

หมอสะบัดมือออก “เจ้าไปเรียนรู้เรื่องชั่วร้ายแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าอายุปูนนี้แล้วยังจะมาหลอกอะไรข้าอีก”

“ใครหลอกท่าน เมื่อครู่ท่านก็พูดเองว่าท่านอ๋องปลดพระชายาแล้ว!”

“อะไรนะ?” หมอร้อนรนขึ้นมาทันที “เจ้าไปฟังข่าวลือของใครมา”

“ท่านอ๋องพูดออกมาจากปากเอง!”

หมอร้อนรนจนเดินวนไปมา “ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด หากพระชายาถูกปลดใครจะสอนวิชาฝังเข็มให้ข้าล่ะ?”

“เช่นนั้นพวกเราจะไม่สนใจเรื่องนี้ไม่ได้ จริงไหม”

“แล้วจะทำอย่างไรล่ะ”

“ข้าเดาว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่คุณชายรองฉีพาพระชายาไปเที่ยวหอนางโลมเมื่อสองสามวันก่อน”

“พระชายาไปหอนางโลม? นางจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ท่านอ๋องยังไม่เคยไปเลยด้วยซ้ำ”

“ท่านพูดมากเสียจริง วันนี้คุณชายรองฉีมาขอโทษกับท่านอ๋องถึงที่ แต่ท่านอ๋องไม่ยอมให้เข้าเฝ้า คุณชายรองฉีจึงมาเล่าให้ข้าฟังอยู่นานสองนาน ที่แท้ทุกอย่างก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด”

หมอถึงได้เหมือนยกภูเขาออกจากอก “เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำอย่างไร?”

“วันพรุ่งยามฟ้าสางพระชายาก็จะจากไปทันที ดังนั้นข้าต้องไปบอกรัชทายาทเสิ่นกับคุณชายรองฉีก่อน เรียนผูกต้องเรียนแก้ จะพูดอะไรก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องที่เข้าใจผิด”

“แล้วข้าล่ะ?”

“ยังต้องให้บอกอีกหรือ? ท่านต้องรวบรวมพลังคิดหาวิธีรั้งพระชายาไว้ก่อน”

หมอเดินวนอีกสองรอบ “ข้าจะไปหาโตวโตว หากไม่ไหวจริงๆ ก็ให้นางกินสลอดเขาไปจนลุกไม่ไหว เช่นนั้นพระชายาก็จะพานางไปด้วยไม่ได้”

“แล้วแต่ท่านจะใช้วิธีการอะไรเถอะ ตอนนี้แยกย้ายกันปฏิบัติการ”

หมอเดินไปเคาะประตูตำหนักฉาวเทียน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดรีบไปที่จวนกั๋วกง

สองสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันทีลำบากไปหมด คนเขาวิ่งวุ่นกันไปทั่ว แต่ตัวต้นเรื่องสองคนกลับนอนหลับสบายใจเฉิบ

เหลิ่งชิงฮวนที่ตั้งครรภ์ทำให้ช่วงนี้อ่อนล้าและง่วงเหงาหาวนอน เธอนอนลงไปกับเรื่องหนักใจ ตอนแรกคิดว่าจะนอนไม่หลับพลิกไปพลิกมา แต่พอศีรษะถึงหมอนก็หลับไปในทันที

มู่หรงฉีรอไม่ไหว เขาดื่มคนเดียวอยู่นาน สุดท้ายก็เมากลับไปที่ห้องตำราและผล็อยหลับไป

ชั่วพริบตาก็รุ่งสาง ทหารเฝ้ายามหน้าประตูจวนบิดขี้เกียจ อ้าปากหาวและเดินไปดึงสลักเปิดประตู

สตรีสวมชุดสีแดงและเขียวนั่งไขว่ห้างอยู่บนขั้นบันไดหน้าประตูจวน พวกนางนั่งเอามือกุมหน้าผากสัปหงก เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูก็ลุกขึ้นแล้วก้าวไปล้อมรอบประตูจวน

คลื่นความกระตือรือร้นที่ถาโถมเข้ามาทำให้ทหารเฝ้ายามทำอะไรไม่ถูก “นี่ พวกเจ้าทำอะไร มาทำอะไรกัน?”

เหล่าสตรีฉีกยิ้ม “พวกเราแม่สื่อมาถึงประตูเช่นนี้ย่อมมาเพราะมีเรื่องดี พระชายาล่ะ?”

ทหารเฝ้ายามมึนงง ในจวนไม่มีเจ้านายคนไหนที่จะแต่งงาน พวกนางมาเป็นแม่สื่อให้ใครกัน?

“พระชายาย่อมกำลังพักผ่อนอยู่น่ะสิ”

“พวกเรามารอกันอยู่หน้าประตูทั้งคืน ใครมาก่อนก็ได้ก่อน พี่ชายช่วยเข้าไปรายงานให้หน่อยสิ ยินดีกับพระชายา พวกเรามาที่นี่เพื่อเป็นแม่สื่อให้พระนาง”

ทหารเฝ้ายามได้ยินดังนั้นก็ร้อนรน “พวกเจ้าพูดอะไรกัน หมายความว่าอย่างไร? พระชายาของจวนข้าฮ่องเต้เป็นคนพระราชทานงานอภิเษกให้เป็นพระชายาเอกของจวนท่านอ๋อง พวกเจ้ามาบอกว่าจะเป็นแม่สื่อให้ใครนะ?”

พวกแม่สื่อไม่สนใจทหารเฝ้ายาม “อย่าคิดว่าพวกข้าไม่รู้ พระชายาจวนเจ้ากับท่านอ๋องทะเลาะกันจนจะหย่าไม่รู้ตั้งกี่ครั้งกี่หน ได้ยินว่าท่านอ๋องถึงขั้นเขียนหนังสือหย่าแล้ว พระชายาก็ย่อมเป็นอิสระ บุรุษสตรีแต่งงานไม่เกี่ยวข้องกัน”

“ให้ตายเถอะ!” ทหารเฝ้ายามกระทืบเท้าไล่เหล่าแม่สื่อออกไป “ท่านอ๋องกับพระชายายังรักกันดี นี่มันเรื่องเหลวไหลอะไรกัน”

เหล่าแม่สื่อเองก็ไม่ย่อท้อ “เกรงว่าข่าวคงแพร่ไปทั่วเมืองหลวงแล้ว เมื่อคืนมีเจ้านายมาหาข้าถึงที่ บอกว่าให้พวกเรามาคอยเฝ้าอยู่ที่นี่และต้องได้เห็นพระชายาเป็นคนแรก ขอแค่พระชายาก้าวออกมาจากจวนเพียงก้าวเดียวก็สามารถแต่งเข้าจวนของพวกเราได้ เข้าจวนไปแล้วก็สามารถใช้เงินทองได้ตามต้องการ นี่คือตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในฉางอัน!”

นางคนข้างๆ เอ่ยเสริม “เจ้านายที่มอบหมายให้ข้ามานั้นคู่ควรกับฐานะอันสูงส่งของพระชายา หากเรื่องนี้สำเร็จย่อมตกรางวัลให้พี่ชายแน่นอน พี่ชายช่วยเข้าไปรายงานให้พวกข้าเถอะ”

ล้อเล่นอะไรกัน หากเข้าไปรายงานจริงตัวเขาได้ไม่มีที่ซุกหัวนอนเป็นแน่

ทหารเฝ้ายามดันพวกนางออกไปโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ และปิดประตูเสียงดัง “ปัง”

เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้มู่หรงฉีที่ตื่นมาฝึกดาบและทำลายดอกไม้ตั้งแต่เช้า เขาเอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทหารเฝ้ายามไม่กล้าปิดบังจึงเอ่ยตามความจริง

มู่หรงฉีอดงุนงงไม่ได้ หนังสือหย่าที่เขาเพิ่งเขียนเมื่อคืนแพร่งพรายออกไปด้านนอกได้อย่างไร?

เขาสะบัดมืออย่างหงุดหงิด “ไล่พวกแม่สื่อออกไปให้ไกลๆ บอกพวกนางว่าหากยังสร้างเรื่องกระจายข่าวลือข้าจะจัดการอย่างเด็ดขาด”

ทหารเฝ้ายามรับคำสั่ง ผ่านไปสักพักก็ถือเทียบเชิญเข้ามา

“ไล่ไปหรือยัง?”

“ไล่ไปแล้วขอรับ แต่ว่า…”

ทหารเฝ้ายามมีสีหน้าลำบากใจที่จะรายงาน “หลังจากที่ไล่พวกแม่สื่อไป ก็มีคนจากจวนอื่นๆ มาเพื่อส่งเทียบเชิญให้พระชายา ไม่ใช่เพื่อพูดคุยเรื่องแต่งงาน แต่เพื่อเชิญพระนางไปดื่มน้ำชาชมบุปผาขอรับ”

ก่อนจะมองใบหน้าเย็นชาของมู่หรงฉีและยื่นเทียบเชิญให้อย่างระมัดระวัง

มู่หรงฉีแค่กวาดตามอง ประมาณแปดเก้าอัน

ในช่วงเวลาแบบนี้ยังจะมาเชิญไปดื่มน้ำชาชมบุปผา แค่เดาก็รู้ได้ทันทีว่ามีจุดประสงค์อะไร สตรีนางนี้อยู่เฉยๆ ไม่เป็น ต้องดึงดูดให้คนมาสนใจ นางรู้จักพวกคุณชายมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ไร้เหตุผลที่สุด ไม่แปลกที่นางจะรีบหย่ากับเขา

เมื่อวานเขายังขู่นางว่าหากพลาดโอกาสนี้ไปก็จะไม่มีอีกแล้ว ใครเล่าจะรู้ว่ามีคนต่อแถวรอแย่งลูกค้าอยู่แล้ว

ไร้เหตุผลจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา