ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 167

มู่หรงฉีไม่ได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่รีบตรงไปที่ประตูจวนเพื่อต้อนรับพี่เขยของตัวเอง

ประตูจวนเปิดออกกว้าง มีรถม้าสามคันจอดอยู่ที่ตรงประตู เหลิ่งชิงเฮ่อรออยู่ที่บันไดทางเข้าตรงประตูจวน เมื่อเห็นมู่หรงฉีก็แสดงความเคารพทักทายตามมารยาท

มู่หรงฉีเลิกแขนเสื้อขึ้น “พี่ใหญ่มาพอดีเลย รีบเข้ามาข้างในเถอะ”

หลังจากเหลิ่งชิงเฮ่อได้กินยาบำรุงร่างกายและพักผ่อนอย่างเต็มที่หลายวัน สีหน้าจึงดูดีขึ้นมาก ไม่ได้มีสีหน้าเหมือนคนป่วยและดูอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงอีกต่อไป ดูโดยรวมเหมือนบุรุษที่มีราศีขึ้นมา ผิวพรรณละมุนละไมมีน้ำมีนวลขึ้น

“มิบังอาจรบกวนท่านอ๋อง ผู้น้อยอยู่ตรงนี้รอน้องสาวก็ได้แล้วขอรับ”

มู่หรงฉีกระแอมไอเบาๆ “พี่ใหญ่ทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร?”

“น้องสาวของกระหม่อมมีนิสัยดื้อรั้นและแข็งกระด้าง ช่วงเวลาที่แต่งงานเข้ามาอยู่ในจวนอ๋องก็เอาแต่สร้างปัญหาให้กับท่านอ๋องตลอด สองใจไม่ตรงกันจึงยากที่จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ตอนนี้ต่างคนต่างกลับไปอยู่คนละทางเหมือนเช่นเดิม แก้ปมที่ขัดแย้งระหว่างกันออกก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดขอรับ”

มู่หรงฉีเหล่ตามองด้วยความประหลาดใจ “พี่ใหญ่ได้ยินข่าวลือมาจากที่ใดกันหรือ? ถึงได้เอ่ยพูดที่ว่าต่างคนต่างเดินทางของตนเองเช่นนี้ได้?”

เหลิ่งชิงเฮ่อขมวดคิ้วอย่างสงสัย “สองวันมานี้มีแม่สื่อทยอยมาที่หน้าจวน เพื่อมาเสนอเรื่องการแต่งงานของน้องสาว ตอนแรกรู้สึกว่าช่างเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี เกรงว่าคงมีคนกำลังพูดจาไร้สาระปั้นน้ำเป็นตัวสร้างข่าวไม่ดีขึ้น แต่เมื่อวานข้าเจอกับหลิงกวนเอ๋อร์เข้า จึงได้ซักถามอย่างละเอียดถึงรู้ว่าเป็นเรื่องจริง

ในเมื่อหย่ากันเรียบร้อยแล้ว ถ้าเช่นนั้นหากให้น้องสาวอยู่ในจวนอ๋องต่อไปจะทำให้คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ไม่ดีได้ และยังทำให้พระชายารองที่อยู่ในจวนไม่ชอบใจ ดังนั้นคิดว่ามารับกลับจวนมหาเสนาบดีจะดีกว่าขอรับ”

“ไม่มีเรื่องเช่นนี้อย่างเด็ดขาด” มู่หรงฉียืนหยัดอย่างหนักแน่น “ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่จงใจทำเช่นนี้ ช่างพูดจาไร้สาระ ยิ่งนัก หากพี่ใหญ่ไม่เชื่อสามารถเข้าไปในจวนเพื่อสอบถามชิงฮวนซึ่งๆหน้าได้”

เหลิ่งชิงเฮ่อมีความลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะแหวกชุดขึ้น แล้วก้าวเดินตามมู่หรงฉีเข้าไปในจวนอ๋อง มุ่งหน้าตรงไปยังเรือนฉาวเทียน

ภายในเรือนมีสัมภาระที่จัดเก็บเอาไว้อย่างเรียบร้อย

เหลิ่งชิงฮวนได้ยินข่าวจึงออกมาต้อนรับเหลิ่งชิงเฮ่อและเชิญเข้าไปข้างในห้อง มู่หรงฉีก็ตามเข้าไปด้วยโดยไม่ต้องเชิญ

“พี่ใหญ่มาได้จังหวะพอดีเลย กำลังจะส่งคนไปรายงานที่จวนให้ทราบอยู่เลย ท่านอ๋องหย่าขาดกับข้าแล้ว อาจจะต้องกลับไปพักที่จวนมหาเสนาบดีชั่วคราวสักสองวันก่อนนะเจ้าค่ะ”

เหลิ่งชิงเฮ่อชำเลืองมองมู่หรงฉีที่อยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง “แต่ท่านอ๋องบอกกับข้าว่าพวกเจ้าสองคนรักกันอย่างลึกซึ้ง ไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

เหลิ่งชิงฮวนส่งเสียงฮึกฮักเบาๆ “หนังสือหย่าก็เขียนมาแล้ว ยังคิดจะยึกยักอีกหรือเพคะ?”

มู่หรงฉีเบิกตากว้างและพูดออกมาลอย ๆ “ข้าไปเขียนหนังสือหย่าตอนไหนกัน?”

“จะต้องให้หม่อมฉันเอาออกมาให้ดูใช่หรือไม่?”

“หากเจ้าสามารถเอาออกมาได้ ข้าจะกินมันต่อหน้าพี่ใหญ่เลยค่อยดู”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มอย่างเย้ยหยัน และหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องด้านใน และหยิบหนังสือหย่าออกมาจากแหวนนาโน จากนั้นก็เดินกลับออกมากางออกต่อหน้าทั้งสองคน “อย่างไรเล่าท่านอ๋อง ยังจะกล้าไม่ยอมรับอยู่อีกหรือ?”

มู่หรงฉีเอียงศีรษะมองเล็กน้อย ทันใดร่างกายก็มีเหงื่อไหลออกมาทั้งตัว “เป็นไปได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่า...”

เขากลืนคำพูดที่จะเอ่ยออกไปช่วงท้ายอย่างชาญฉลาด

เหลิ่งชิงฮวนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย มองเขาอย่างมีเลศนัย “ไม่ใช่ว่าอะไรงั้นหรือ?”

ไม่ใช่ว่าถูกโยนทิ้งลงไปในน้ำแล้วงั้นหรือ ข้าเห็นกับตาตัวเองว่าเจ้าเอาหนังสือหย่าไว้ในแขนเสื้อติดตัวตลอดเวลา และเสื้อตัวนั้นก็ถูกทำให้เปียกโชกไปทั้งตัว ตั๋วเงินก็เสียหายทั้งหมด ทำไมหนังสือหย่ายังอยู่ดีปกติไม่เสียหายได้?

มู่หรงฉีกระแอมไอสองครั้ง “นี่จะเป็นกระดาษที่ข้าเขียนไปได้อย่างไร? หากข้าเขียนจริง จะต้องเขียนว่า บัดนี้ต้องแยกห่างเดินคนละเส้นทางกันแล้ว ต่างคนต่างใช้ชีวิตหาความสุขให้กับตนเอง และขอให้ภรรยามีอายุยืนยาว ต้องเขียนออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ และแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะเขียนคำพูดหยาบกระด้างเพียงสองสามคำเช่นนี้?”

เหลิ่งชิงฮวนถลึงตามองเขา “ท่านคิดจะแก้ตัวน้ำขุ่นๆงั้นหรือ?”

เธอสะบัดหนังสือหย่าในมือดัง สวบๆ “ท่านอ๋องฉี นี่เป็นหนังสือที่เขียนด้วยลายมือของท่านเองเลยนะเพคะ และบนกระดาษท่านก็ลงนามเอาไว้ด้วย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา