ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 183

วัดถัดมามู่หรงฉีก็พิจารณาอยู่นาน

ผู้หญิงสำหรับเขาแล้วเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ จะมีหรือไม่มีก็แค่มีเครื่องมีอผลิตทายาทเพิ่มขึ้นมาบนเตียงอีกชิ้นหนึ่งและเป็นแม้กระทั่งภาระ

ก็เหมือนกับพวกผู้หญิงที่อยู่ในโคมม้าวิ่งของเสด็จพ่อ ตอนกลางวันก็ดูเหมือนกับต้นไม้ที่ประดับประดาไปด้วยเครื่องประดับเงินทองมากมาย ยามกลางคืนก้ถอดออกจนหมดและถูกม้วนกลมเป็นตัวหนอนและถูกขันทีแบกไปยังเตียงมังกร จากนั้นก็คลานขึ้นมาจากเท้าของเสด็จพ่อ พอผ่านไปก็ถูกพาตัวออกไปและถือเอาสิ่งที่น่าอับอายเช่นนี้เป็นเกียรติยศของตน

พี่ใหญ่เซวียนอ๋องเคยบอกไว้ว่า ถ้าถูกใจคนไหนก็พากลับจวนแล้วเลี้ยงดูเหมือนนกที่เลี้ยงไว้เพื่อความสวยงามก็พอแล้ว พระชายาก็แค่มีชาติกำเนิดที่ดีกว่าคนอื่นนิดหน่อย นี่ความแตกต่างระหว่างนกกระจอกกับหงส์

ดังนั้นทั้งเสด็จพ่อ เสด็จพี่รวมถึงขุนนางที่อยู่ในราชสำนักก็ดูเหมือนว่าจะมีภรรยาหลายคนกันทั้งนั้น สำหรับเขาที่เติบโตมาด้วยความคิดเช่นนี้จึงรู้สึกดูถูกผู้หญิง และคิดว่าเป็นเรื่องน่ารำคาญ และไม่จำเป็นจนหลีกเลี่ยงพวกนางไป

เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันหนึ่งที่มีใครคนหนึ่งแทรกเข้ามาในชีวิตของเขาแม้กระทั่งเข้ามาในหัวใจ เขานึกถึงเธอตลอดเวลาและยอมให้กับความชอบและความไม่แน่นอนของเธอ

ครั้งนี้เขาตั้งใจแล้ว ดังนั้นจึงได้ใช้ใจ

จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าชีวิตนี้มีกันสองคน ครอบครัวที่มีกันสามคน ทุกที่ที่เต็มไปด้วยชิงฮวนจะงดงามและสงบขนาดไหนกัน หลังจากที่สู้รบปรบมือชนะทั้งบ้านแล้ว ความขัดย้างต่างๆรวมถึงความเป็นศัตรูกัน

เหลิ่งชิงฮวนพูดประโยคหนึ่งที่กินใจมาก แต่ถ้าหากว่าท่านจริงใจล่ะก็หม่อมฉันเองก็ยินดีที่จะใช้ความจริงใจทั้งหมดที่มีเพคะ ไม่ว่าจะยากดีมีจนหม่อมฉันก็จะอยู่กับท่านไปตลอดทั้งชีวิต

ใจจริงของเธอนั้นมู่หรงฉีตั้งใจแล้วว่าจะคว้ามันมา!

หลังจากที่ตัดสนใจไปแล้วสิ่งแรกที่เขาอยากทำคือไปหาเหลิ่งชิงหลาง

ก็เหมือนกับที่เหลิ่งขิงฮวนพูด เขานึกว่าชื่อเสียงและเงินทองที่เขาให้กับเหลิ่งชิงหลางไปนั้นจะเป็นการชดเชยให้กับเธอ แต่สำหรับเหลิ่งชิงหลางแล้วอาจจะไม่ใช่สิ่งทที่เธอต้องการ

เขาเก็บเธอไว้ข้างกายหรือว่า สำหรับเธอและเหลิ่งชิงฮวนแล้วจะเป็นการไม่ยุติธรรมกันนะ

คุยกับเหลิ่งชิงหลางดีๆ เรื่องนี้อาจจะมีวิธีที่ดีกว่าในตอนนี้

เมื่อถึงเวลาใกล้ออกจากบ้านเขาก็เห็นเหลิ่งชิงหลาง

เหลิ่งชิงหลางก็อยู่ในชุดหรูหราเหมือนกับปกติ กระโปรงผ้าสีขาวบาง ผมที่เลยบ่าลงมา เธอกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู ดูแล้วอ่อนแอและน่าสงสาร

มู่หรงฉีขมวดคิ้วคมของเขาขึ้น “มีหาข้ามีธุระ?”

เหลิ่งชิงหลางขบริมฝีปากของเธอเบาๆ ดวงตาของเธอนั้นเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา “ชิงหลางจะมาลาท่านอ๋องเพคะ”

มู่หรงฉีมองเธออย่างแปลกใจ “ไปไหน?”

เหลิ่งชิงหลางก้มศีรษะลง แล้วสูดน้ำมูก เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก

“พรมลิขิตจากชาติก่อนทำให้เราเป็นสามีภรรยากันในชาตินี้ วาสนาของหม่อมฉันกับท่านอ๋องเหมือนกับน้ำที่รั่วไหลออกมาเพียงชั่วค่ำคืน ถ้าหากว่าเราสองคนมีใจไม่ตรงกันและกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก หากชิงหลางอยู่ต่อไปก็จะทำให้ท่านอ๋องรังเกียจเปล่าๆ ไม่สู้กลับไปสู่ทางของตัวเองดีกว่า ท่านอ๋องก็เป็นท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ต่อไป ชิงหลางก็จะกลับไปที่สำนักชีหนานซานเพื่อสวดมนต์ให้กับท่านอ๋องเพคะ ขอให้ท่านอ๋องมีอายุยืนยาวและสุขภาพแข็งแรง”

มู่หรงฉีเม้มริมฝีปากบางของตน เขามองดูท่าทางที่สวยงามราวกับดอกไม้ของเธอ และคิดว่าแม้ว่าเธอจะผิดแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ได้รับผิดชอบเธอและขัดขวางความสุขในชีวิตของเธออยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขาจึงทนไม่ไหว

“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าจะรับประกันไม่ให้ชีวิตของเจ้าไรซึ่งกังวลและลาภยศสรรเสริญ ถ้าหากเจ้าอยากแต่งงานอีกครั้งข้าก็จะไม่ห้าม ตอนนี้ข้าให้หนังสือแยกทางกับเจ้าได้ แต่ว่าถ้าหากเจ้าอยากกลับไปใช้ชีวิตที่สำนักชีอีกล่ะก็ จุดจบของชีวิเจ้า ข้าย่อมไม่อาจรับปากได้”

แยกทาง? เขามีความคิดที่จะหย่ากับเธอแล้ว? ตัวเธอสู้เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้หรือ?

เหลิ่งชิงหลางพยายามข่มความเกลียดที่มีในใจของเธอลง และยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “หม่อมฉันเป็นคนของจวนอ๋องแล้วชีวิตนี้หม่อมฉันขอไม่แต่งงานอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ในเมื่อหม่อมฉันได้อยู่ที่จวนอ๋องแล้วก็สามารถได้รับไอบุญได้ หม่อมฉันไม่มีที่พึ่งพาจะต่างอะไรกับแม่ชีกันล่ะเพคะ

สำนักชีหนานซาน จะดีร้ายอย่างไรก็เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของเราสองคนเป็นการปลอบประโลมความทุกข์ในจิตใจของหม่อมฉันแล้ว ที่จวนอ๋องมีอะไรกันล่ะเพคะ? หม่อมฉันอยู่ต่อไปมองท่านกับท่านพี่อยู่ด้วยกันแสดงความรักต่อกันอย่างนั้นหรือเพคะ”

พูดอย่างนี้ทำให้มู่หรงฉียิ่งรู้สึกละอายใจ เดิมที่เขาเป็นคนหนักแน่น หน้าตาเย็นชาแต่จิตใจนั้นร้อนเป็นไห เมื่อได้ยินเธอพูอย่างอ้างว้างเขาก็รู้สึกไม่ดี

“เจ้าอย่าทำอะไรไปเพราะความโมโหเพียงชั่วครู่เลย ตอนนี้เจ้าอยู่ในวัยที่กำลังสะพรั่งจะต้องได้พบกับคนที่ดีกว่านี้แน่ และจะไม่มาโมโหแบบนี้”

ราวกับว่าเหลิ่งชิงหลางพูดไม่ออก “ท่านอ๋องราวกับก้อนหิน หม่อมฉันนั้นราวกับดอกไม้ริมทาง! ท่านอ๋องสามารถลืมชิงหลางได้ในระยะเวลาสั้นๆเพียงแค่สามเดือน และไปชอบท่านพี่ แต่ชิงหลางทำไม่ได้ ในเมื่อชิงหลางนั้นปักใจกับท่านอ๋องไปแล้วและมอบความบริสุทธิ์ให้กับท่าน ชีวิตนี้ชิงหลางคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”

มู่หรงฉีเองก็ลำบากใจ ความผิดที่เธอทำนั้นไม่ได้ชั่วร้ายมากเพียงแต่ว่าทำให้เหลิ่งชิงฮวนไม่พอใจและเกินกว่าขีดจำกัดที่เขาจะรับไหว แต่ตัวของเขาเองนั้นก็ไม่สามารถเอาตรงนี้ไปโทษเธอได้

จะจัดการเรื่องเหลิ่งชิงหลางอย่างไรดี? ยอมรับความผิดของเธอและให้กลับมาเป็นผู้หญิงของเขา มู่หรงฉีเอองก็หวังว่าเธอจะมีที่ที่ดีให้กลับไป

“ชิงหลาง เจ้าก็รู้ว่าคืนนั้นข้ากับเจ้าต่างถูกยา ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกัน ดังนั้นฐานะข้าให้เจ้าได้ แต่เรื่องบางอย่างเจ้าก็ขอมากไม่ได้”

คำพูดของมู่หรงฉีทำให้เหลิ่งชิงฮวนคาดเดาว่าผู้ชายที่อยู่กับเหลิ่งชิงฮวนคืนนั้นคือมู่หรงฉีจริง!

ทำไมเหลิ่งชิงฮวนถึงได้โชคดีแบบนี้ ทำไมมู่หรงฉีถึงได้ไปปรากฏตัวที่สำนักชีหนานซานได้?

โชคดีที่ทั้งสองคนยังไม่รู้ตัว

เธอขบริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างแรงและคิดแผนการอันแสนชั่วร้ายขึ้นมาอีกครั้ง“ชิงหลางเข้าใจเพคะ หลายวันมานี้หม่อมฉันกับท่านพี่ขุ่นเคืองใจกันจนทำให้ท่านอ๋องไม่พอใจ ดังนั้นจึงอยากให้ชิงหลากออกไปเร็วๆ ท่านมีสิทธิ์จะชอบใครก็ได้ ชิงหลางไม่ได้บังคับ แต่ที่หม่อมฉันอยากพูดทั้งหมดมีเพียงแค่ ท่านอาจจะมองว่าวิธีการที่หม่อมฉันทำต่อเหลิ่งชิงฮวนนั้นไร้ยางอาย แต่ท่านรู้ไหมเพคะว่าทำไมนางกับหม่อมฉันถึงได้มีความแค้นลึกซึ้งกันเช่นนี้”

มู่หรงฉีไม่ได้พูดอะไร

เหลิ่งชิงฮวนพูดต่อไปว่า “ท่านอ๋องเองก็ทราบดีว่าคืนนั้นพวกเราสองคนถูกยาจนไม่ได้สติ แต่ท่านรู้ไหมเพคะว่าใครเป็นคนวางยานั่น”

ใบหน้าของมู่หรงฉีเย็นเยียบ

เหลิ่งชิงหลางหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น เธอหัวเราะพร้อมทั้งน้ำตาเต็มใบหน้า “ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นพี่สาวคนดีของหม่อมฉันอย่างเหลิ่งชิงฮวน!”

มู่หรงฉีตัวสั่นเทิ้ม เขาพูดออกไปทันทีว่า “เป็นไปไม่ได้!”

“ท่านเชื่อใจนางแบบนี้หรือเพคะ นางนั้นลอบมีคนอื่นและได้ลอบติดต่อกับผู้ชายคนนั้น สุดท้ายหม่อมฉันไปรู้เข้านางจึงได้ทำร้ายหม่อมฉันแบบนี้ อีกทั้งยังวางแผนร้ายออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

คืนนั้นหม่อมฉันได้จุดแท่งไม้จันทนี่ด้านหน้าพระพุทธรูป นั่นคือสิ่งที่นางลงมือกับหม่อมฉันเพคะ นางผสมยาลงไปในนั้น ไม่เพียงเท่านั้นนางยังลอบปล่อยนักเลงหัวไม้สองคนให้เข้ามาในสำนักชีเพื่อให้มาย่ำยีความบริสุทธิ์ของหม่อมฉัน

โชคดีที่คืนนั้นคนที่มาพบเป็นท่านอ๋อง ไม่อย่างนั้นหม่อมฉันคงไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว เกรงว่าจะต้องจบชีวิตของตัวเองไปทั้งอย่างนั้น ชื่อเสียงของหญิงสาวเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต นางทำลายชื่อเสียงของข้า ความอัปยศเช่นนี้ไม่สมควรที่จะให้หม่อมฉันเกลียดนางหรือเพคะ

ท่านเห็นเพียงแค่หมอมฉันวางแผนที่จะจัดการกับนาง แต่ท่านเคยถามเหตุผลกับหม่อมฉันไหมเพคะ ว่าระหว่างเรสองคนใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายผิด ท่านอ๋องจะตัดสินอย่างไรเพคะ มีเพียงหม่อมฉันเท่านั้นที่เจ้าเล่ห์ เหลิ่งชิงฮวนไม่เคยใช้วิธีการที่ชั่วร้ายแบบนั้นงั้นหรือเพคะ”

มู่หรงฉีชะงักไป ที่สำนักชีหนานซาน ภายในหอพระนั้น ไม้จันทน์มีส่วนผสมของยาจริง อีกทั้งที่ด้านนอกจู่ๆก็มีนักเลงหัวไม้สองคนปรากฏตัวขึ้นที่สามรถยืนยันได้ทีละคนเลยว่าคำพูดของเหลิ่งชิงหลางนั้นเป็นจริงหรือไม่

และเมื่อนึกถึงในร้านน้ำชาวันนั้น เหลิ่งชิงฮวนก็ได้กลิ่นยานั่นมาจากห้องของลูกชายคนรองตระกูลจินและจู่เธอก็มีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไป เขานึกไปว่าตัวเองนั้นนึกไปเองเกี่ยวกับเรื่องนี้

เขากำหมัดแน่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา