ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 185

เหลิ่งชิงหลางนั้นได้ยอมถอยไปสองก้าว จากที่เธอได้รับการให้อภัยจากมู่หรงฉีชั่วคราวแล้วก็ไม่ได้พูดว่าจะไปที่สำนักชีอีก แต่ว่ากลับอัญเชิญรปั้นเจ้าแม่กวนอิมเข้ามา เธอปล่อยผมยาวและสวมชุดธรรมดา และห้อยลูกประคำสีแดงที่มีขนาดใหญ่เท่าหัวแม่โป้ง อีกทั้งยังเริ่มกินมังสวิรัติและทำท่าทีใสซื่อ

ความเปลี่ยนแปลงนี้ของเธอ บ่าวรับใช้ต่างรับรู้ว่าพระชายารองนั้นได้สละทางโลกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวของเธอที่ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นและสดใส เป็นผิวที่ขาวราวกับหยกเสียจริงที่ดูแล้วจะแตกเปราะลงได้

เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกของเธอคนจำนวนมากจึงคิดว่าเธอนั้นไร้มลทิน และสะอาดราวกับดอกบัวขาว อีกทั้งยังคิดว่าเธอนั้นมีจิตใจที่บริสุทธิ์และอ่อนแอ

ฟังผิ่นจือมาส่งยาอีกครั้ง แม่จ้าวก็ไม่พูดอะไรมากและส่งเขาไปตรงหน้าเหลิ่งชิงฮวน จากนั้นนาง็รู้สึกว่าตัวเองควรถอยออกไป

เหลิ่งชิงหลางที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็มองสัญลักษณ์ที่ตรวจสอบความบริสุทธิ์บนหน้าอกของเธอที่ยังคงติอยู่นาน

จากที่ผิวพรรณของเธอดีขึ้นทุกวัน สัญลักษณ์บนหน้าอกนี่ก็ยิ่งชัดขึ้นอีกทั้งยังดูน่าดึงดูด

เห็นได้ชัดว่ามู่หรงฉีไม่รู้เรื่องสัฐลักษณ์ความบริสุทธิ์ และไม่รู้ว่าตัวเธอนั้นยังบริสุทธิ์อยู่ ถ้าหากว่าวันหนึ่งเหลิ่งชิงฮวนไปพูดกับเขา เขาจะสงสัยขึ้นมาไหมนะ

ถ้าหว่าวันหนึ่งเธอพิชิตใจเขาได้แล้ว และพวกเขาเข้ากันได้ดี และพบว่านั่นเป็นครั้งแรกของเธอการโกหกจะถูกจับได้หรือไม่

ตัวเธอจะ...

ความคิดอันตรายก็แล่นเข้ามาในหัว เธอรู้สึกตื่นตกใจแล้วห้ามความคิดนั้นไว้อย่างเด็ดขาด

เธอเองก็เหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่วไปที่มีจินตราการ และตามหาความสมบูรณ์แบบ ครั้งแรกของเธอจะต้องมอบให้กับคนที่เธอรักถึงจะไม่เสียดาย

อีกอย่างความลับก็ไม่มีในโลก ถ้าหากว่ามีเรื่องของเธอหลุดรอดออกไป ตัวเธอก็จบสิ้นกันเสียแล้ว

ฟังผิ่นจือเคาะประตูที่ด้านนอกเบาๆ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วเขาจึงจะผลักประตูเข้าไปและปิดประตูลงอย่างระมัดระวัง

เหลิ่งชิงหลางนั่งขี้เกียจอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งและกำลังใช้น้ำมันหอมทาไปที่ลำคอของต้นอยู่ เธอใช้นิ้วของตัวเองนวดลงไปเบาๆ

ภายในห้องยังคงมีกลิ่นของน้ำมันหอมอันร้อนระอุของเธอซ฿งเป็นกลิ่นที่มาจากผมของเธอ เป็นกลิ่นของดอกไม้ ผมสีดำขลับยาวสยายลงไปจนถึงเอว อีกทั้งชุดสีขาวของเธอก็ถูกเส้นผมทำให้เปียดชื้อจนแนบไปกับแผ่นหลัง ส่วนเว้าส่วนโค้งขอเธอก็ปรากฏขึ้น

ฟังผิ่นจืออดไม่ได้ที่จะชื่นชมว่า “สวยมาก”

ไม่มีคำพูดที่สวยงาม มีเพียงคำง่ายๆสองคำนี้ที่อุทานออกมาจนทำให้เหลิ่งชิงหลางเอาไปใช้ประโยชน์ เธอหันไปแล้วยิ้มออกมา “เจ้านี่ช่างพูดนะ”

ฟังผิ่นจือยังคงแต่ตัวเป็นสาวใช้ เขาเดินเข้าไปที่ด้านหลังของเหลิ่งชิงหลางและมองคนงามที่อยู่ในกระจก เขาจึงพูดออกมาอย่างจริงใจว่า “ยาเม็ดหนิงเซียงออกฤทธิ์แล้ว พระชายารองนั้นบำรุงผิวพรรณที่ขาวดุจหยกนี้ ช่างงามเหลือเกินขอรับ ยิ่งทำให้คนไม่กล้าสบประมาทเข้าไปอีกขอรับ น่าอิจฉาท่านอ๋องฉีเสียจริงขอรับ”

คำพูดหยอกล้อเช่นนี้ทำให้เหลิ่งชิงฮวนรีบก้มหน้าลงทันที ใบหน้าของเธอร้อนวูบวาบ

“เจ้าพูดซี้ซั้วอะไรน่ะ ข้าสวดมนต์กินเจทุกวัน และยังอยู่ในศีลในธรรม เรื่องที่จะให้ผู้ชายมาชมชอบนั้นข้าได้ลืมไปหมดแล้ว”

ฟังผิ่นจือเหลือบมองศาลเจ้าที่อยู่ภายในห้อง “นำพระโพธิสัตว์มาไว้ในห้อง เอาไว้เฝ้าดูความรักของท่านกับท่านอ๋องหรือขอรับ เกรงว่าจะไม่ปกติเท่าไรนัก”

ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่ถูกต้อง เหลิ่งชิงหลางอยากจะหยุดเขาเอาไว้ พูดมาถึงตรงนี้เธอก็อุทานออกมาอย่างคับข้องใจ

“ท่าอ๋องไม่เคยมาที่ห้องของข้าเลยสักครั้ง ความรักที่ไหนกันล่ะ”

ฟังผิ่นจือนั้นรู้อยู่แต่แรกแล้ว แต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทดสอบเธอ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้รู้สึกไม่ดีที่จะล้อเล่นกับตนเอง เขาก็ยิ่งเอาใหญ่ “ความงามที่โดดเด่นในโลกมนุษย์แบบนี้ก็ยังไม่ใจสั่นอีก เกรงว่าท่าอ๋งอคงจะมีอะไรอยู่ในใจแล้วล่ะขอรับ”

เหลิ่งชิงหลางหันไปโยนหวีหยกที่อยู่ในมือใส่เขา “กูปากเน่าๆของเจ้าเสีย อย่าพูดอะไรซี้ซั้ว”

ฟังผิ่นจือรับหวีมาและปรับร้อยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร “พระชายารองยังไม่เคยชิมปากของผิ่นจือเลย แล้วรู้ได้อย่างไรขอรับว่าเหม็น”

“วางยาเม็ดหนิงเซียงลงแล้วไสหัวออกไป!” เหลิ่งชิงหลางพูดอย่างโมโห

ฟังผิ่นจือวางยาเม็ดหนิงเซียงที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง เขาถูหวีหยกในมือ “ท่าทางโกรธของพระชายารองนั้นดูราวกับพระแม่กวนอิมอยู่หลายส่วนเลยขอรับ เอาแบบนี้ดีไหมขอรับ ให้ผิ่นจือทำผมที่เหมือนกับโพธิสัตว์ให้กับท่าน”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเยาะ “เจ้าทำผมเป็นด้วยหรือ”

ฟังผิ่นจือหมุนหวียกมือเป็นวงกลม “ดูท่าแล้วคงต้องให้พระชายาผู้ได้ชื่นชมฝีมือของผิ่นจือดูสักครั้งแล้วขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา