ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 201

ระหว่างที่โฉวซือเส่ากำลังรักษาร่างกายก็ยังคงมีจดหมายถูกส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง องครักษ์เงาเปิดจดหมายอ่านให้เขาฟัง หลังจากที่เขาดูแล้วก็ตอบกลับแบบเรียบง่าย ประทับตราและสั่งให้ทาสใบ้นำไปส่ง

ทาสใบ้ไม่ใช่ว่าพูดไม่ได้ตั้งแต่เกิด โฉวซือเส่าช่วยชีวิตเขาจากเหตุอัคคีภัย แต่ลำคอของเขาถูกไฟลวกจนเสียหายไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ ทั้งยังไม่รู้ตัวหนังสือ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะอ่านปากและสามารถเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดได้

เขาเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกินของโฉวซือเส่า จู๋ซิงเองก็ไม่ได้คัดค้านอะไรเพราะว่าไม่สามารถสื่อสารกันได้ดีนัก เหลิ่งชิงฮวนก็ไม่ได้รู้เรื่องของโฉวซือเส่าไปมากเท่าไร

วันที่สามหลังการผ่าตัด ในตอนเช้าทาสใบ้นำจดหมายกลับมาจากข้างนอก จู๋ซิงก็เปิดอ่านให้เขาฟังตามปกติ

แต่ใบหน้าของเขากลับยิ่งแข็งค้าง ก่อนจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง คิ้วขมวดเป็นปมครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหดหู่ “เกิดเรื่องแล้ว”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้สนใจเรื่องอื่นของเขา มัวแต่ตั้งใจวิเคราะห์ยาในมือ

โฉวซือเส่าเอ่ยต่อ “ผู้เฒ่าหลู่คงจะเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของหอพันธมิตรที่ลงมือกับกิจการของตระกูลโฉว”

จู๋ซิงตะลึง “ทำไมถึงได้บังเอิญเช่นนี้ขอรับ ไม่เร็วไม่ช้า แต่เป็นช่วงที่ท่านกำลังรักษาตัวอยู่ หรือว่าข่าวจะรั่วไหลออกไป?”

“ครั้งก่อนเขาทดสอบอาการบาดเจ็บของข้า แม้ว่าข้าจะพยายามขัดแต่เขากลับมีเล่ห์เหลี่ยม ข้าเดาว่าเขาคงจะรู้เบาะแสแล้ว รวมถึงพิธีชำระดาบที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ คงจะร้อนรนเหมือนหมาจนตรอกเลยคิดที่จะชิงลงมือก่อน”

“เช่นนั้นจะทำอย่างไรดีขอรับ?”

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เจ้าไปด้วยตัวเองจะดีกว่า ไปหาผู้เฒ่าหลินแล้วสอบถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ขอแค่ข้าพอมีเวลาอีกสองวันก็คงจะเดินเหินได้ แล้วจึงจะไปจัดการปัญหานี้ด้วยตัวข้าเอง”

“แต่หากข้าน้อยจากไป ความปลอดภัยของท่าน…”

โฉวซือเส่าจับดาบในมือ “ที่นี่เป็นที่ลับ พวกเขาน่าจะยังไม่ทันหาที่นี่พบ นอกจากนี้หากพวกเขาต้องการยักยอกทรัพย์สมบัติของตระกูลโฉวก็คงไม่กล้าทำอะไรข้า เจ้านำคำสั่งแจ้งเหตุไปรวบรวมกำลังพลให้มาคอยคุ้มกับบริเวณนี้ หากสถานการณ์เลวร้ายพวกเราจะได้หาทางหนีทีไล่ทัน”

เหลิ่งชิงฮวนคิดว่าคงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับกิจการของเขา แต่เมื่อได้ยินเขาพูดเรื่องฆ่าฟันกันก็คิดว่ามันแปลกๆ

เธอก็แค่หมอที่มารักษาอาการบาดเจ็บ ไม่มีอาวุธในมือ คงจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรอกใช่ไหม?

จู๋ซิงน้อมรับคำสั่งแล้วรีบออกไปทันที

โฉวซือเส่าไม่พูดไม่จาอยู่พักใหญ่ คงกำลังคิดอะไรบางอย่าง เหลิ่งชิงฮวนจึงไม่ได้ไปขัดเขา

จู่ๆ เขาก็ลืมตาขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก “แย่ล่ะ ติดกับเข้าแล้ว!”

เหลิ่งชิงฮวนเงยหน้าขึ้นมาอย่างสงสัย “เป็นอะไรไปหรือ?”

“ข้าพลาดติดกับดักล่อเสือออกจากถ้ำ หากพวกเขาคิดจะชิงลงมือก่อนใช้กลยุทธ์จับโจรเอาหัวโจร เป้าหมายของพวกเขาก็ต้องเป็นข้าสิ ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อจะกันจู๋ซิงออกไปให้ข้าอยู่ลำพัง” โฉวซือเส่าวิเคราะห์

“แต่อย่างไรท่านก็เป็นนายน้อย ข้างกายคงไม่ได้มีเพียงแค่องครักษ์เงาคนเดียวหรอกใช่ไหม”

“มาฉางอันครั้งนี้ก็เพื่อกวาดล้างคนทรยศ ตัดแขนขาของผู้เฒ่าหลู่โดยใช้กลยุทธ์จักจั่นทองลอกบุกตะลุยเพียงลำพัง อีกอย่างสถานที่นี้เป็นความลับ เพื่อไม่ให้ข่าวแพร่กระจายออกไป ข้าจะกล้าให้เหล่านายพลมาด้วยได้อย่างไร แต่ไม่คิดว่าคิดคำนวณขนาดนี้แล้วยังถูกเปิดเผยได้ ดูท่าข้างกายคงจะมีคนของพวกเขาแฝงตัวเข้ามา”

“เช่นนั้นจะทำอย่างไร? รีบเคลื่อนย้ายตำแหน่งหรือ?”

“เจ้าช่วยเรียกทาสใบ้เข้ามาให้ข้าหน่อย”

เหลิ่งชิงฮวนไม่กล้าขัดจึงทำตามคำสั่ง

ทาสใบ้ยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มองโฉวซือเส่ารอคอยคำสั่ง

โฉวซือเส่าชี้นิ้วไปทางเหลิ่งชิงฮวน “จัดการให้คนที่เชื่อถือได้ส่งนางกลับเมืองหลวง”

ทาสใบ้เหลือบมองเหลิ่งชิงฮวนก่อนจะพยักหน้าแล้วออกไปจัดการตามคำสั่ง

เหลิ่งชิงฮวนแปลกใจ “สถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้เลยหรือ?”

โฉวซือเส่ากลอกตาใส่เธอ “ข้าแค่กลัวว่าเจ้าจะเป็นภาระ”

“แล้วท่านไม่ไปหรือ?”

โฉวซือเส่าถอนหายใจ “ไม่ทันการแล้ว ข้าเดินไม่ได้ ให้ทาสใบ้พาเจ้าออกไปทางแม่น้ำหลังเขาเถอะ”

“ข้าคิดว่าท่านจะฆ่าปิดปากข้าเสียอีก” เมื่อรู้ว่าตัวเองปลอดภัยแล้วเหลิ่งชิงฮวนก็เริ่มปากมาก

โฉวซือเส่ากัดฟันกรอด “ข้าแค่คิดว่าเจ้ายังมีประโยชน์อยู่”

“เหรอ?” เหลิ่งชิงฮวนเลิกคิ้ว “ท่านอยากให้ข้าทำอะไร”

“เจ้ามานี่”

เหลิ่งชิงฮวนก้าวไปข้างหน้าสองก้าว

โฉวซือเส่ากุมมือเธอ เธอคิดจะขัดขืนแต่รู้สึกได้ว่าโฉวซือเส่าสอดอะไรบางอย่างเข้ามาในแขนเสื้อเธอ

กลมเกลี้ยง ขนาดเท่าผลลำไย และมีความอุ่นเล็กน้อย

เหลิ่งชิงฮวนเข้าใจได้ทันทีนี่คงจะเป็นตราประทับชาดที่โฉวซือเส่าสามารถใช้ออกคำสั่งเคลื่อนพลได้

เขายังคงมองเธออย่างไม่ใส่ใจ น้ำเสียงลดต่ำลง

“หากว่าสามวันให้หลังข้ายังปลอดภัยดี ก็จะสั่งให้คนจุดดอกไม้ไฟในเมือง แต่ถ้าไม่ก็แสดงว่าเกิดเรื่องกับข้าแล้ว เจ้ามอบตรานี้ให้ท่านอ๋องให้เขานำกำลังพลเข้ามายึดหอซ่อนดาบและทรัพย์สินของตระกูลข้าทั้งหมดกลับคืนสู่ราชสำนัก เมื่อเขาเห็นตรานี้เขาจะเข้าใจได้ทันทีว่าต้องทำอย่างไร”

เหลิ่งชิงฮวนไม่เหลือความคิดติดเล่นแล้ว “หรือว่าไม่มีทางออกอื่นแล้ว?”

โฉวซือเส่าหรี่ตา แววตามืดมน

“ข้าแค่เตรียมไว้ก่อน ตราบใดที่พวกเขาหาตราประทับนี้ไม่เจอก็ยังไว้ชีวิตและให้โอกาสข้า แต่หากพวกมันไร้ความปรานีแล้วเกิดอะไรขึ้นกับข้า ข้าก็จะไม่ยอมให้พวกมันทำสำเร็จ ข้าจะให้มันฝังกลบไปพร้อมกับข้าที่นี่!”

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจ “ดูท่าการที่ข้ากลับไปคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว”

โฉวซือเส่าคลำดาบในมือ “หากข้ายังมีชีวิตรอด ข้าจะนำมันกลับคืนสู่เจ้าของเดิม”

เหลิ่งชิงฮวนเบะปาก “แค่อยู่กับท่านก็ไม่มีเรื่องดีแล้ว ถือว่าข้าโชคร้าย ขอตัวหนีไปก่อนแล้วกันนะ”

เธอหันกลับมาโดยไม่มีความลังเล ทาสใบ้ก็เดินนำทาง

ทั้งสองเดินเลาะไปตามทางน้ำที่คับแคบและได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลา หากเป็นไปตามที่เหลิ่งชิงฮวนคาดเดา ที่กำบังถูกสร้างขึ้นบนภูเขามีแม่น้ำไหลผ่าน และตรงทางเข้าถ้ำก็มีกลไกติดตั้งไว้

ทาสใบ้เปิดกลไกก็มีแสงสว่างส่องเข้ามา เมื่อเห็นแสงอาทิตย์ทาสใบ้ก็อดไม่ได้ที่จะจาม

เหลิ่งชิงฮวนที่เดินจามมาติดๆ เมื่อออกมาจากถ้ำก็ตะลึง

ทาสใบ้หันกลับมายกมือทำท่าทางบอกให้เธอเร่งความเร็ว ด้านหน้ามีคนรออยู่ให้เดินตามทางน้ำออกไป

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า เดินเร็วขึ้น แต่เธอกลับลื่นจนร้องออกมา ทาสใบ้ได้ยินเสียงก็หันกลับมาทันที

เธอพยายามกางแขนของเธอให้มั่นคงจนของที่อยู่ในแขนเสื้อร่วงออกมาหล่นลงไปในน้ำดัง “จ๋อม”

“อ๊ะ ตราประทับ!” เธอกระทืบเท้าอย่างใจเสียและมองไปรอบๆ

ทาสใบ้เดินเข้ามาย่อตัวลงและเอื้อมมือลงไปความหาในน้ำ เห็นได้ชัดว่ามีทีท่ากังวล

เหลิ่งชิงฮวนยืนอยู่ข้างๆ และคอยกำกับ จังหวะนั้นเธอเล็งไปที่ต้นคอของทาสใบ้และสับมือลงไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา