ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 205

มู่หรงฉีที่ยืนอยู่ที่ประตูจะปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร? ดาบยาวในมือของเขาพุ่งเข้าไปกั้นเตียงที่กำลังจะปิด ก่อนทั้งร่างจะพุ่งเข้าไปราวกับลูกธนู

เมื่อสองคนนี้เจอกันก็เหมือนกับศัตรูหัวใจ ดวงตาแดงก่ำ หากเขาตามทันจะต้องฆ่าฟันกันจนตายกันไปข้างแน่นอน ดังนั้นปฏิกิริยาแรกของเหลิ่งชิงฮวนคือการห้ามปราม

อย่างไรก็เป็นแค่ความเข้าใจผิด เจ้าโฉวซือเส่านั่นปากเสียจริงๆ

เธอก้าวไปด้านหน้ายื่นมือออกไปจับแขนของมู่หรงฉี “ท่านฟังหม่อมฉันก่อน”

ทันใดนั้นเท้าของเธอก็ว่างเปล่าและร่างของเธอก็ร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว แผ่นหินใต้เท้าของเธอจมลงพร้อมกับเสียงร้องด้วยความประหลาดใจ

กลไกนี้ต่อกับกลไกบนเตียง หลังจากโฉวซือเส่าลงไปกลไกข้างเตียงก็จะเปิดด้วย ถ้ามีคนไล่ตามก็จะตกหลุมแน่นอน ทำให้เขามีเวลาที่จะหลบหนีได้อย่างปลอดภัย

มู่หรงฉียังมาไม่ถึง แต่คว้าตัวเธอไว้ก่อน

หลังจากตกลงไป แม้ว่าจะไม่มีอันตรายถึงชีวิตแต่เชื่อว่าโฉวซือเส่าคงไม่มีทางเมตตาคนที่ไล่ล่าเขาแน่ๆเกาทัณฑ์ลับ กระดานตะปู จะสลับกันพุ่งเข้ามาไหม?

เหลิ่งชิงฮวนกรีดร้องด้วยความตกใจ

มู่หรงฉีเห็นท่าไม่ดีก็ละทิ้งเรื่องไล่ตามโฉวซือเส่า กระโจนเข้าไปในหลุมโดยไม่สนใจอะไร คว้านแขนของเธอไว้ก่อนจะดึงตัวเข้ามาโอบและร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคง

แผ่นหินบนศีรษะปิดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมีเสียง “ซ่าซ่า” ดังขึ้นราวกับเสียงเปิดปิดกลไก

มือของมู่หรงฉีโอบรอบเอวของเธอแน่นขึ้น ร่างกายของเขาโอนเอียงส่งเสียงครางอู้อี้

บาดแผลของเขายังไม่หายดี!

ทั้งสองคนเอ่ยถามอีกฝ่ายออกมาพร้อมกัน “เจ้า/ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”

“หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะ” เหลิ่งชิงฮวนตอบ “ระวังกลไกลับนะเพคะ”

ภายในถ้ำมืดสนิทมองไม่เห็นอะไรสักอย่างจึงไม่สามารถบอกทิศทางได้อย่างชัดเจน หากมีอาวุธซ่อนอยู่ก็ไม่อาจหลบหลีกได้

มู่หรงฉีกอดเหลิ่งชิงฮวนไว้ในอ้อมอก ตั้งสมาธิและกลั้นหายใจ หลังจากที่กลไกเปิดและปิดก็ไม่มีเสียงใดๆ ในถ้ำ ดูเหมือนว่าโฉวซือเส่าจะยังเมตตากัน

เหลิ่งชิงฮวนได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาในอ้อมแขนของเขา ความรู้สึกปลอดภัยที่ไม่เคยมีมาก่อนทำให้เธอรู้สึกสบายใจ แม้แต่กลิ่นเหงื่อที่เคล้ากลิ่นบัวหิมะบนร่างกายของเขาก็ยังทำให้เธอรู้สึกมั่นใจ

อันตรายที่คาดเดาไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด เหลิ่งชิงฮวนไม่คาดคิดว่ามู่หรงฉีสามารถเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของตัวเองและตกลงมาพร้อมกับเธอโดยไม่ลังเลสักนิด

เมื่อมู่หรงฉีแน่ใจว่าไม่มีอันตรายรอบตัวเขา จึงล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อหยิบไฟออกมาแล้วจุด

ในนี้เป็นเพียงห้องลับธรรมดาที่มีกล่องไม้หลายกล่องกองอยู่ที่มุมห้อง บนกำแพงหินมีตะเกียงน้ำมันสองตะเกียง เมื่อมู่หรงฉีเห็นว่าเธอปลอดภัยดี เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและจุดตะเกียงน้ำมันพลางมองหากลไก

แต่เหลิ่งชิงฮวนกลับก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดกล่องไม้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ทองและเงินแท้เป็นกองที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบทำให้ดวงตาของเหลิ่งชิงฮวนเป็นประกาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นทองคำจำนวนมากเช่นนี้ หัวใจของเธอสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น

หอซ่อนดาบนี้ร่ำรวยขนาดนั้นเลยหรือ ถึงได้มีของมากมายซุกซ่อนอยู่ในรังโจรเช่นนี้ พวกเขาสามารถดื่มด่ำและสนุกสนานได้ตามต้องการ มิน่าพวกผู้เฒ่าหลู่ถึงได้ไม่สนใจหน้าตาและชีวิต ซ้ำยังต้องการลากโฉวซือเส่าลงไปด้วย

มู่หรงฉีควานดูก็ไม่พบกลไกที่สามารถเปิดออกไปได้ทั้งยังไม่กล้ากดมั่วซั่ว เวลานี้โฉวซือเส่าคงหนีไปแล้วไล่ตามไม่ทัน อีกทั้งด้านบนก็ยังถูกผนึกไว้แน่นเห็นได้ชัดว่าทั้งสองถูกขังไว้ที่นี่และทำได้เพียงรอให้ทหารมาช่วยพวกเขา

มู่หรงฉีวางตะเกียงน้ำมันในมือลงอย่างไม่เต็มใจ เดินไปข้างหลังเธอและเอามือไพล่หลัง ท่าทางประหลาดใจ “ข้ามาผิดเวลาใช่ไหม”

“หากท่านมาช้าอีกนิดเดียวชีวิตของหม่อมฉันก็ไม่เหลือแล้วเพคะ”

“จริงหรือ?” มู่หรงฉีเอ่ยนิ่งๆ “ถ้าหากข้ามาช้าอีกนิดเจ้าก็จะไปกับเขาใช่ไหม”

เหลิ่งชิงฮวนละสายตาจากทองคำอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับมู่หรงฉีที่กำลังหึงหวงและอธิบายอย่างจริงจัง “หม่อมฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา เขาแค่พยายามทำให้ท่านโกรธ หม่อมฉันอยู่ท่ามกลางความเป็นความตายเช่นนี้ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ท่านอ๋องคิดหรอกเพคะ”

มู่หรงฉียิ้มเยาะ “แต่เชลยที่จับมาได้บอกข้าว่าฮูหยินโฉวกับโฉวซือเส่าผูกสัมพันธ์รักกันลึกซึ้ง”

“หากหม่อมฉันผูกสัมพันธ์กับเขา หม่อมฉันจะไปขอความช่วยเหลือจากท่านทำไมล่ะเพคะ เสียด่างทับทิมลงไปในน้ำมากมาย นั่นคือยาที่หม่อมฉันพยายามทำอย่างเหนื่อยล้า หม่อมฉันแค่ใช้ฐานะฮูหยินเพื่อสร้างแผนการให้อยู่รอดเท่านั้นเพคะ”

“เช่นนั้นเขาจับเจ้ามาทำไม”

“รักษาเพคะ เขาได้ยินว่าฝีมือการรักษาของหม่อมฉันดีจึงให้มารักษาโรค”

“โรคอะไร? ใต้หล้ามีหมอมากมายทำไมจะต้องมาหาเจ้า?”

เหลิ่งชิงฮวนกลืนคำพูด อย่างไรเสียโฉวซือเส่าก็ไม่ใช่คนธรรมดา หากความลับนี้ถูกเปิดเผยมันจะนำหายนะมาสู่เขาอย่างแน่นอน

“การผ่าตัดเล็กๆ น้อยๆ ต้องผ่าเอาลำไส้ เลาะเนื้อเยื่อที่เป็นโรคออกแล้วเย็บแผล หม่อมฉันไม่เคยรู้จักเขามาก่อน เจอกันครั้งแรกที่หอฝูเซิง เขารู้ว่าหม่อมฉันเป็นหมอและเคยเห็นอาการของเขามาก่อนจึงลักลอบเข้าไปในจวนท่านอ๋องเพื่อถามหม่อมฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ แล้วก็เฝ้าตอรอกระต่าย คอยอยู่ใกล้ๆ สุสานตระกูลหม่อมฉัน สุดท้ายเขาก็ช่วยหม่อมฉันไว้”

“ในเมื่อเป็นเพียงการพบกันโดยบังเอิญอีกทั้งเรื่องร้ายกำลังใกล้เข้ามา ทำไมเจ้าถึงไม่ปฏิเสธแต่กลับไปอ้างว่าเป็นฮูหยินโฉว?”

บุรุษผู้นี้หลอกยากจริงๆ

“ส่วนเหตุผลนั้นท่านน่าจะเข้าใจหลังจากสอบปากคำคนพวกนั้นแล้ว สถานการณ์ตอนนั้นบีบบังคับจริงๆ ใครจะไปรู้ว่าคนพวกนั้นมีเจตนาร้าย”

“หัวหน้าโจรสามคนหนีไปแล้ว มือสังหารที่เหลืออยู่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย พวกมันบอกข้าเพียงแค่ว่าด้านในมีสตรีที่บอกว่าตนเองเป็นฮูหยินของโฉวซือเส่าอยู่”

ใบหน้าของมู่หรงฉีขรึมลง จ้องมองเธอไม่วางตา “คำพูดของเจ้า เชื่อได้งั้นหรือ?”

เหลิ่งชิงฮวนชะงัก ในใจรู้สึกโกรธ เธอเงยหน้าเตรียมจะเอ่ยค้านแต่ก็เจอเข้ากับดวงตาที่แดงก่ำของมู่หรงฉี

ในเวลานี้เธอมองดูบุรุษตรงหน้าอย่างละเอียด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น ผมเผ้ายุ่งเหยิง ริมฝีปากของเขาซีดและแตก ไรหนวดปรากฏขึ้นที่คาง รูปลักษณ์ที่ไม่เรียบร้อยของเขาทำให้ความเหนื่อยล้าปรากฏชัดเจนบนใบหน้า

เธอไม่ตอบคำถามเขาแต่ย้อนถาม “ท่านเอาแต่ตามหาหม่อมฉันหรือเพคะ?”

“เหลวไหล!” มู่หรงฉีสูดจมูก “ข้ากลัวว่าเจ้าจะมีอันตราย กลัวว่าเขาจะทำอะไรเจ้า กลัวว่าหลังจากนี้จะไม่ได้เจอหน้าเจ้า ตั้งแต่เจ้าจากไปข้าก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเอาแต่เที่ยวตามหาเจ้าไปทั่ว”

“แต่เจ้าล่ะ เจ้ากลับมาอ้อร้ออยู่กับบุรุษอื่น หลับนอนด้วยกัน ไหนจะคำสัญญาที่บอกให้เจ้ารอ ไหนจะที่บอกว่าจะกลับมารับเจ้ากับลูก เหลิ่งชิงฮวน เขาเป็นใครกันแน่ เจ้ากล้าบอกความจริงกับข้าหรือไม่…”

เหลิ่งชิงฮวนเขย่งปลายเท้า โน้มคอของมู่หรงฉีลงมาก่อนจะปิดปากเขาด้วยปากของเธอ

ก่อนจะเป็นฝ่ายเริ่มสอดลิ้นเข้าไปสัมผัสคราบเลือดบนริมฝีปากที่แห้งกรังของเขา

มู่หรงฉีที่ซักถามไปได้ครึ่งทางก็ยังคงโกรธอยู่ แต่รู้สึกถึงความนุ่มและชุ่มชื้น รวมกับกลิ่นหอมจางๆ บนริมฝีปากที่อ่อนนุ่มราวแพรไหม ราวกับกลีบดอกที่จุ่มลงในน้ำทิพย์เลิศรส ลิ้นน้อยๆ ที่ช่ำชอง ค่อยๆ ไขกุญแจเข้าความปรารถนาของเขา ความกังวลและความเร่าร้อนก็มลายหายไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา