เซวียอี๋เหนียงไม่ได้เดินออกไปส่งแต่อย่างใด แต่กลับยิ้มหน้าระรื่นและมองไปยังลูกสาวของตัวเอง “ชิงเหยา เจ้าช่างแน่จริงๆเลยนะ แม่จะได้ลืมตาอ้าปากเพราะเจ้าแล้ว ขอเพียงเจ้าได้เป็นพระชายารองของอ๋องเฮ่า ตำแหน่งฮูหยินของจวนมหาเสนาบดีของแม่ก็มั่นคงแล้ว”
เหลิ่งชิงเหยาหัวเราะเยาะออกมาอย่างเย้ยหยัน “ข้าเคยพูดไว้นานแล้ว เหลิ่งชิงฮวนกับเหลิ่งชิงหลางสามารถทำได้ ข้าเองก็ทำได้เหมือนกัน ตัวนางเองก็ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานด้วยซ้ำ วันนี้ยังถูกองค์หญิงหรูอี้ฉีกหน้าต่อหน้าทุกคน ยังมีหน้ามาสั่งสอนข้าอีก”
เซวียอี๋เหนียงรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับเรื่องนี้
“เจ้าลูกคนนี้นิ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ตอนนี้นางก็เป็นถึงพระชายาฉีที่ถูกทำนองคลองธรรม ฝีมือยังร้ายกาจอีกด้วย พวกเราสองแม่ลูกยังต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นอยู่ คำพูดบางคำเก็บไว้ในใจก็พอแล้ว ทำไมเจ้าต้องพูดออกมาต่อหน้านางด้วยเล่า? หากยั่วนางให้โมโหขึ้นมา ทำงานแต่งของเจ้าเสียเรื่องขึ้นมาจะทำอย่างไร? หากเจ้าแต่งงานออกไปแล้ว อย่าได้ปากไวเช่นนี้อีก”
เหลิ่งชิงเหยาส่งเสียงฮึกฮักอย่างได้ใจ “ท่านแม่ ข้าจะบอกอะไรท่านให้ฟังอย่าง คนข้างนอกต่างลือกันว่าท่านอ๋องเฮ่ากับพระชายาเฮ่ารักใคร่กลมเกลียวกัน ที่จริงแล้วนะไม่จริงเลย ท่านอ๋องเฮ่าจะต้องมีความคิดเป็นอื่นกับข้าอย่างแน่นอน มิฉะนั้นตอนที่เขาเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าข้าไม่ใช่องค์หญิงหรูอี้ ก็น่าจะผลักข้าออกไปตั้งนานแล้ว เขาไม่เพียงกอดข้าเอาไว้อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย แต่ยังพูดปลอบโยนลูกสองสามประโยคด้วย ท่านรอดูเถอะ ตำแหน่งพระชายารองนี้ข้าคว้ามาได้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว แม้แต่เหลิ่งชิงฮวนเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้”
เซวียอี๋เหนียงรู้สึกปลื้มปิติมากยิ่งขึ้น “ต่างล่ำลือกันว่าท่านอ๋องเฮ่าเหมือนดังนกกระเรียนสีขาวในหมอกเมฆ เป็นคนโอบอ้อมอารี เหมาะสมที่จะเป็นคู่ครอง แต่น่าเสียดายได้ยินมาว่าเขาอ่านหนังสือเยอะเกินไป นิสัยจึงดูสุขุม ไม่ค่อยสนใจกับการแก่งแย่งชิงอำนาจ และตีตัวออกห่างกับความขัดแย้งต่างๆในราชสำนัก เมื่อเป็นแบบนี้ ในภายภาคหน้าก็จะเป็นท่านอ๋องที่รักอิสระ ไม่ค่อยมีอนาคตอะไรมากนัก
เทียบไม่ได้กับอ๋องเซวียนกับอ๋องฉี คนหนึ่งมีชาติเกิดจากฮองเฮาและยังเป็นพระโอรสองค์โต อีกคนสร้างผลงานทางสงครามอันยิ่งใหญ่มากมาย เบื้องหลังยังได้รับการสนับสนุนจากจวนอันกั๋วกง มีอำนาจทางการทหารอยู่ในมือ อนาคตก้าวไกลไม่มีขีดจำกัด”
เหลิ่งชิงเหยาไม่เห็นว่าจะเป็นเช่นนั้น “ท่านอ๋องเฮ่าเป็นคนที่มีความสามารถที่จะปกครองใต้หล้าได้ วันข้างหน้าใครจะได้ขึ้นเป็นผู้ครองแผ่นดินก็ไม่สามารถบอกได้ อีกอย่างลูกได้ไปสืบเสาะอย่างชัดเจนมาแล้วว่า พระชายาเฮ่าคนนั้นร่างกายไม่แข็งแรง รักษาครรภ์เอาไว้ไม่ได้ ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวให้กับท่านอ๋องเฮ่าได้ หากลูกได้แต่งงานเข้าไป ภูมิหลังไม่ได้แตกต่างไปกว่าพระชายาเฮ่า อาจมีโชควาสนาที่เป็นแม่ของลูก และตำแหน่งพระชายาเฮ่าตำแหน่งนี้...”
เซวียอี๋เหนียงตบมือขึ้น “นึกไม่ถึงว่าลูกสาวของข้าจะเป็นขงเบ้งในร่างแม่หญิง มีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลขนาดนี้ เจ้าวางใจเถอะ เรื่องที่เหลือให้แม่ผู้นี้จัดการต่อเอง แม่จะไปบอกท่านพ่อของเจ้า ให้เขาช่วยออกหน้าแทนเจ้า”
สองแม่ลูกกระซิบกระซาบกันอย่างมีความสุข จินตนาการอย่างทะเยอทะยานถึงวันดีๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับคำเตือนของเหลิ่งชิงฮวนนั้น จะยังมีใครสนใจอีก?
เหลิ่งชิงฮวนกลับถึงจวนอ๋อง ยังคงไม่เห็นเงาของเหลิ่งชิงหลาง เวลาผ่านไปถึงช่วงค่ำ ในวังหลวงจึงได้ส่งข่าวมาบอกว่า พระสนมฮุ่ยเฟยต้องการให้เหลิ่งชิงหลางอยู่ค้างในวังสักสองวัน
เหลิ่งชิงฮวนกำลังอารมณ์ไม่ดีอย่างถึงที่สุด โกรธจนจะเป็นบ้า ส่วนมู่หรงฉีกำลังพยายามคิดจนสมองแทบแตกว่าจะทำให้ฮูหยินของตัวเองอารมณ์ดีขึ้นยังไง จึงไม่ว่างคิดเรื่องอื่น เมื่อได้ยินรายงานเช่นนั้นทั้งคู่รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่ได้สนใจอะไร
อีกอย่างตอนที่เหลิ่งชิงหลางจะออกจากวังมาส่งองค์หญิงหรูอี้ก็ถูกคนของพระสนมฮุ่ยเฟยเรียกตัวเอาไว้
จิตใจของนางกระสับกระส่ายอย่างมาก ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่
นางเดินตามนางกำนัลไปที่ตำหนักเจียนเจียที่พระสนมฮุ่ยเฟยพำนักอยู่ เป็นจิ่นอวี๋ที่เข้ามาต้อนรับเป็นคนแรก และจับมือนางด้วยความสนิทสนมอย่างเป็นกันเองพร้อมกับขยิบตาให้ “ได้ยินมาว่าเกิดเรื่องกับเหลิ่งชิงฮวนเมื่อสองวันก่อนหรือ?”
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่พวกนางเจรจาตกลงกันที่จวนอ๋องฉี แม้ว่ายังไม่ได้สิ่งที่แต่ละคนต้องการ แต่ “มิตรภาพ” ยังคงรักษาเอาไว้อยู่
เหลิ่งชิงหลางส่งเสียง “อืม” เสียงต่ำ ๆออกไปเล็กน้อย “เป็นความจริงที่ถูกลักพาตัวไปสองสามวัน เพิ่งถูกท่านอ๋องฉีช่วยกลับมา คนอื่นในจวนล้วนรู้กันดี น่าจะไม่สามารถปิดบังสายข่าวของพระสนมฮุ่ยเฟยได้ใช่หรือไม่?”
จิ่นอวี๋กดเสียงพูดให้ต่ำลง “เพิ่งได้รับข่าวมาน่ะ ตอนนี้มีข่าวซุบซิบกันหนาหูไปทั่ว ทำให้เหล่าเชื้อพระวงศ์ต้องอับอายขายหน้า พระสนมฮุ่ยเฟยจึงโกรธเป็นอย่างมาก”
ในใจของเหลิ่งชิงหลางรู้สึกมีความสุขอย่างมาก เม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น และส่งสายตาให้กันอย่างเข้าใจซึ่งกันและกันกับจิ่นอวี๋
เมื่อเข้าประตูไปก็คุกเข่าคารวะให้กับพระสนมฮุ่ยเฟย พระสนมไม่ได้ทำสีหน้าเย็นชาเหมือนกับที่ทำกับเหลิ่งชิงฮวน อีกทั้งยังสั่งให้คนเอาเก้าอี้มาให้นั่ง พร้อมกับให้ยกน้ำชามารินให้
“เรื่องที่เหลิ่งชิงฮวนหายตัวไปนั่น แท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าพูดมาเถอะ”
ในใจเหลิ่งชิงหลางรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย พยายามที่จะอธิบายเรื่องต่างๆอย่างเหมาะสม “ได้ยินท่านอ๋องกับท่านพี่พูดกันว่า มีคนได้ยินข่าวลือว่าท่านพี่มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นจึงเชิญนางไปช่วยรักษาเพคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...