ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 235

ทุกคนหน้านิ่ง

ทันใดนั้นจิ่นอวี๋ก็ทรุดตัวลง ร้องห่มร้องไห้”พระชายาจงใจที่จะพูดแทงใจดำข้าอย่างนั้นเหรอ?”

มู่หรงฉีมุ้ยปาก มองไปที่เหลิ่งชิงฮวนอย่างจนปัญญา แม้แต่เหลิ่งชิงหลางเองก็อดที่จะก้มหน้า กลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่

เหลิ่งชิงฮวนที่ถนัดในการก่อเรื่องสร้างปัญหาหันกลับไปมองมู่หรงฉี แล้วยิ้มหัวเราะ “งั้นให้ท่านอ๋องเป็นคนไล่จับ ถ้าจับได้ใครก็ต้องจูบคนนั้น”

ความคิดนี้ทุกคนต่างก็ชอบใจ แม้แต่จิ่นอวี๋ที่ยากจะเอาใจนั้น ก็ยังไม่เอ่ยปากโต้แย้งอะไร

เหลิ่งชิงฮวนเห็นว่า ตนเองนั้นมีคุณสมบัติการเป็นนางพญาปีศาจที่ทำให้ประชาชนและประเทศชาติทุกข์ยากซ่อนอยู่ ความคิดนี้เปรียบได้กับชีวิตที่หรูหราเสื่อมทราม แพะลากรถ ผีเสื้อเลือกนาง แค่คิดก็ไร้ศีลธรรมแล้ว

สีหน้าของมู่หรงฉีนิ่งขรึมทันที ผู้หญิงคนนี้ต้องทำให้เรื่องมันวุ่นวายถึงเช่นนี้เลยหรือไง? หากตนเองกอดจูบกับผู้หญิงอื่น เกรงว่านางจะระเบิดเอาได้

เขามองขู่เหลิ่งชิงฮวน “วันนี้เจ้าต้องวุ่นอยู่กับการทำยารักษาตาให้จิ่นอวี๋ไม่ใช่หรือไง?”

เหลิ่งชิงฮวนพอหอมปากหอมคอ ไม่สามารถที่จะแบ่งมู่หรงฉีให้คนอื่นน้ำลายสอได้ น่าขยะแขยงที่สุด

“จิ่นอวี๋จวิ้นจู่พักอยู่ที่นี่แล้วดูสนุก ไม่รีบร้อนหรอก อย่างไรเสียก็ไม่ได้ดีขึ้นในสองสามวันนี้อยู่ดี”

เธอเดินไปหยุดตรงหน้าจิ่นอวี๋ หยิบกระบอกไฟฉายออกมาจากแขนเสื้อ ส่องไปที่ตาของจิ่นอวี๋ “จวิ้นจู่มองในมือข้า”

จิ่นอวี๋กัดฟันกรอด “พระชายาประชดประชันอีกแล้ว หากข้ามองเห็นก็คงหายดีแล้ว”

“อ้อ ข้าลืมไป”

เหลิ่งชิงฮวนตีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด ในขณะเดียวกัน ทันใดนั้นก็กดเปิดปิดไฟฉายในมือ แสงไฟสว่างจ้าสาดส่องเข้าไปที่ดวงตาจิ่นอวี๋ตรงๆ

ท้องฟ้ายังคงไม่สว่าง ยังคงเป็นฉากยามเช้าที่สดใส ทุกคนต่างตกใจกับแสงไฟระยิบระยับ

เหลิ่งชิงฮวนมองปฎิกิริยาตอบสนองของจิ่นอวี๋ เมื่อเห็นเปลือกตาของเธอก็ไม่กระพริบ รูม่านตาก็ไม่ปรากฏการหดตัวอย่างกะทันหัน ยังคงมองไปตรงข้างหน้า ไม่กลัวแสงแรง

เหลิ่งชิงฮวนตั้งสติ เดิมที่คิดว่าจิ่นอวี๋นั้นแกล้งตาบอด จึงแกล้งทำเป็นชนที่จวนฉีอ๋อง ดังนั้นตั้งแต่ที่กลับมาจากเมื่อวาน ก็เลยตั้งใจหิ้วตระกร้าสัตว์เลื้อยคลานสองใบนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้แกล้งเธอเพราะเบื่อ แต่เพราะต้องการทดสอบปฎิกิริยาที่แท้จริงตอนเธอตกใจต่างหาก

จิ่นอวี๋ลุกลี้ลุกลน แต่ก็ไม่ได้เหลือบมองพื้นเลย

อันนี้บางทีอาจจะตอบสนองว่องไว แกล้งทำเหมือน แต่ตอนนี้ ภายใต้แสงสว่างจ้า เธอกลับไม่ตอบสนองอะไร ในที่สุดเหลิ่งชิงฮวนก็เชื่อแล้วว่าตาของจิ่นอวี๋นั้นบอดจริงๆ

คราวนี้ลําบากแล้ว การรักษาคนตาบอดนั้นถือเป็นเรื่องยาก

เธอถือไฟฉายแกว่งไปแกว่งมาต่อหน้าจิ่นอวี๋ ถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย “ดวงตางดงามเช่นนี้ น่าเสียดายจริงๆ เดี๋ยวทานอาหารเช้าเสร็จข้าจะตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ดูว่าต้นตอของโรคอยู่ตรงไหน จากนั้นจึงจะวางแผนการรักษา ประคบยา ฝังเข็มรักษาภายใน ข้าจะใช้กำลังอย่างสุดความสามารถในการรักษา”

จิ่นอวี๋เม้มริมฝีปากอย่างน่าสงสาร “รบกวนพระชายาด้วย”

สำรับเช้าเตรียมพร้อมเรียบร้อย

คนกลุ่มนี้ไม่มีเกรงใจใคร ล้วนเดินไปนั่งโต๊ะด้านข้าง เห็นได้ชัดว่าโต๊ะนี้เหมือนจะเต็มไปหน่อย

แม่นมเตียวยุ่งอยู่กับงานบ้านตั้งแต่เช้า เห็นคนเยอะแยะ ก็รีบเติมน้ำลงไปในโจ๊กเพิ่มอีก

เหลิ่งชิงฮวนหันไปขยิบตาให้เธอ โตวโตวเข้าใจในครั้งแรก พยักหน้าให้เธอ

เหลิ่งชิงฮวนหันไปมองมู่หรงฉี แล้วยิ้มตาหยี

“ท่านอ๋องท่านก็รู้ดีกว่า ห้องครัวเล็กๆตำหนักฉาวเทียนของข้านั้นเวลาใช้ก็ต้องควักเงินตัวเอง วันนี้ท่านมากินอาหารที่นี่ก็ไม่เป็นไร หากชิงหลางกับจ่ินอวี๋จะมากินด้วยเป็นครั้งคราวก็ไม่เป็นไร หากต่อไป...”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ มู่หรงฉีก็เข้าใจความหายที่เธอจะสื่อ นี่ต้องการคิดบัญชีพี่น้อง ให้ตนเองเป็นคนจ่าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา