ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 256

เหลิ่งชิงฮวนวาดโครงร่างคร่าวๆ ออกมาเป็นแถบโมเบียสก่อนจะยื่นไปที่ด้านหน้าของฉู่รั่วซี “หากเจ้าสามารถเดินไปตามทางที่เจ้าชอบได้ ข้าจะถือว่าเจ้าชนะ!”

ผู้เข้าเข้ามารวมตัวกันรอบๆ ภาพวาดนี้เพื่อศึกษา สายตาของพวกเขามองตามด้านที่พวกเขาให้ความสนใจและตรงไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว แต่พวกเขาไม่สามารถข้ามเขตได้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นั่นยิ่งทำให้พวกเขาประหลาดใจ

เหลิ่งชิงฮวนตวัดปลายพู่กันวาดบันไดเพนโรสขึ้นมา ฉู่รั่วซีที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความงงงวยเดินเข้าไปดู “เดินตามบันไดขึ้นไป หากท่านสามารถเดินไปถึงด้านบนสุดได้ถือว่าข้าแพ้”

บันไดในภาพมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หากทอดสายตามองไปตามบันไดก็จะเป็นวังวนไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกับการปีนป่ายบันไดสวรรค์ นี่มันน่าแปลกมาก ด้านไหนคือจุดเริ่มต้นแล้วด้านไหนคือจุดจบ?

ฝั่งแขกหญิงพากันส่งเสียงฮือฮา บ้างก็ถกเถียง บ้างก็ตกตะลึง ทุกคนล้วนคิดว่านี่มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ภาพนี้จะต้องถูกร่ายคาถาให้ผู้คนหลงใหลแน่นอน

เหล่าแขกชายเองก็อดสงสัยไม่ได้ จึงหันกลับมาดูเหตุการณ์

การร่างภาพสามมิติเป็นเรื่องธรรมดาในยุคปัจจุบัน อีกทั้งของสองอย่างนี้เมื่อมาอยู่ในยุคโบราณก็ย่อมกลายเป็นสิ่งที่น่าลึกลับ

ฉู่รั่วซีประหลาดใจมาก ทักษะการวาดภาพของเหลิ่งชิงฮวนนั้นเงอะงะๆ แต่กลับชนะได้อย่างน่าแปลกใจ นางที่คิดว่าตนเองเก่งและเชี่ยวชาญในเรื่องต่างๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเหลิ่งชิงฮวนกลับรู้สึกโง่เขลาราวกับเป็นกบในกะลาจริงๆ

เมื่อต้องเจอกับคำถามของเหลิ่งชิงฮวนก็ได้แต่ใบ้บึ้ง

เหลิ่งชิงฮวนเก็บดินสอถ่าน “ข้าไม่ชำนาญเรื่องตานชิงแต่ก็ไม่ละอายที่จะเปิดเผยความไม่รู้ของตน ข้าแค่อยากใช้สองภาพนี้บอกแม่นางฉู่ว่าการศึกษานั้นไม่มีขีดจำกัด การถ่อมตนทำให้ผู้คนก้าวหน้า สามคนเดินมาหนึ่งในนั้นต้องเป็นครูของท่านได้ เเพียงแค่ลดท่าทางยโส ยืนหยัดตามหลักการก็จะสามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”

“วันนี้ท่านช่วยชีวิตข้า ข้าซาบซึ้งใจนัก ไม่อยากจะคิดแค้นอะไรกับท่าน แต่ทุกอย่างต้องพูดให้ชัดเจน”

“อันดับแรกข้ากล้าทำก็กล้ารับ ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคบรู้จักกับแม่นางฉู่ ทั้งยังไม่เคยว่าร้ายท่านลับหลัง เกรงว่าคงมีใครตั้งใจยั่วยุให้ข้ากับท่านเกิดความบาดหมางกัน”

“อันดับสองท่านพูดว่าเมื่อครู่ไม่ควรช่วยข้าเพราะข้าไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ขัดขวางไม่ให้ท่านฆ่าเหยี่ยวตัวนั้น แต่ทุกอย่างย่อมมีเหตุผล ข้าเพียงแค่หวาดหวั่นไม่อยากทำให้เกิดปัญหาขึ้นในงาน ดังนั้นจึงไม่ได้อธิบายกับท่าน”

“แต่กลับทำให้แม่นางฉู่เข้าใจผิด ข้าพูดด้วยความสัตย์จริง เมื่อครู่ที่เหยี่ยวตัวนั้นเข้ามาทำร้ายไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มีใครจงใจสร้างสถานการณ์”

ฝูงชนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึงก่อนจะเอ่ยถาม “รู้ได้อย่างไรกัน?”

“เหยี่ยวไม่ใช่เหยี่ยวป่าธรรมดาแต่เป็นไห่ตงชิง เทพเจ้าที่กล้าหาญที่สุดในบรรดาเหยี่ยวทั้งหมด มันชอบอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำ ทะเลสาบ และสถานที่อื่นๆ ที่มีอากาศหนาวเย็น หาตัวได้ยากมาก หากไม่ใช่ว่ามีคนเลี้ยงมันก็ไม่มีทางที่จะเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงได้ นี่มันผิดปกติมาก”

“อีกทั้งไห่ตงชิงไม่ได้จะเข้ามาจับกระต่าย แต่จงใจเข้ามาโจมตีข้าโดยตรง เห็นได้ชัดว่ามีคนคอยชักนำอยู่”

ทันทีที่เธอพูดทุกคนก็ตกใจ แม้แต่ฝั่งบุรุษก็พากันเงี่ยหูฟังและอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกัน

“ท่านพี่ พี่สะใภ้พูดจริงหรือ?” เสิ่นหลินเฟิงถามอย่างสงสัย

มู่หรงฉียกยิ้ม แววตาเป็นประกาย ก่อนจะพยักหน้าท่ามกลางสายตาของผู้คน “ใช่”

เสิ่นหลินเฟิงซี๊ดปาก “หรือบางทีอาจจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ? ใครจะกล้ามาทำร้ายผู้อื่นในเขตพระราชวัง รนหาที่ตายหรือ?”

“หากไม่ใช่ว่าข้ากับเหลิ่งชิงฮวนจำเหยี่ยวตัวนี้ได้คนอื่นก็คงคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่มีใครสงสัยแน่นอน”

ดังนั้นเขาถึงจำเป็นต้องทิ้งเหลิ่งชิงฮวนเพื่อไปตรวจสอบการป้องกันของราชวัง กำชับให้เหล่าทหารเฝ้าระวังให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น

“ดีที่พี่สะใภ้ว่องไว ไม่เช่นนั้นไม่เพียงแต่จะบาดเจ็บแล้ว เกรงว่าเด็กในครรภ์ก็จะไม่ปลอดภัยด้วย เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ ี่สะใภ้มีความรู้กว้างขวางจริงๆ แม้ไม่ได้ออกไปไหนก็ยังรู้จักไห่ตงชิงในตำนาน”

มู่หรงฉียกมุมปากขึ้นอีกครั้ง ไม่ได้พูดอะไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา