ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 266

เหลิ่งชิงฮวนเลื่อนภาพวาดลงมา เผยให้เห็นใบหน้า “แม่นางฉู่ยุ่งจนลืมไปนะ”

ฉู่รั่วซีตกใจทันที “ใครใช้ให้ท่านมา”

“เมื่อกี้ไปที่ร้านตำรามา เห็นภาพวาดนี้ก็ชอบมาก แต่เจ้าของร้านไม่กล้าขาย ดังนั้นจึงมาถามด้วยตัวเอง ว่าภาพนี้แม่นางฉู่สามารถตัดใจได้หรือไม่?”

ฉู่รั่วซีเหมือนกับขโมยที่ถูกคนจับได้ สีหน้าวิตกกังวล พูดอย่างอับอายและรำคาญ “ไม่ขาย ต่อให้มีเงินเยอะแค่ไหนก็ไม่ขาย!”

เหลิ่งชิงฮวนเก็บม้วนภาพอย่างระมัดระวัง “ไม่ขายหรือว่าจะเก็บไว้เองงั้นเหรอ? ท่านเป็นหญิงสาวที่ไม่ได้ออกจากจวน กลับแอบวาดภาพสวามีของข้า ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นะ?”

“ใครวาดรูปสวามีของเจ้ากัน?” ฉู่รั่วซีปากแข็งแก้ต่าง “นี่คือภาพงานแห่ขบวนจอหงวน เขาก็เพียงแค่บังเอิญผ่านมาก็เท่านั้น”

“งั้นเหรอ?” เหลิ่งชิงฮวนสีหน้าแฝงไปด้วยความหมาย “ภาพขบวนแห่จอหงวน แต่บัณฑิตจอหงวนกลับวาดภาพบางตา มีเพียงพี่ชายของข้ากับท่านอ๋องสองคนในภาพที่วาดได้โดดเด่นและสะดุดตาที่สุด ไม่รู้ว่า เป็นเพราะท่านมีเจตนาอันใดต่อสวามีของข้ากันนะ”

ฉู่รั่วซียิ่งกังวลมากขึ้น “ท่านคิดว่าสายตาของคนในโลกนั้นเป็นเหมือนท่าน คิดว่าท่านฉีอ๋องเป็นเหมือนของล้ำค่างั้นเหรอ? เขาโดดเด่นแต่ด้วยเพราะคนรอบข้างทำให้เขาโดดเด่น ชายของผู้อื่นข้าไม่สนใจหรอก”

“ไม่สนใจสวามีของข้า” เหลิ่งชิงฮวนจงใจลากเสียงยาว “งั้นแม่นางฉู่ตั้งใจวาดพี่ชายของข้าปราณีตเช่นนี้เพื่ออะไรกันล่ะ? แม้แต่เส้นผมที่ถูกลมพัดขึ้นมาก็ลากเป็นเส้นๆ เรียวๆ ออกมา”

ใบหน้าฉู่รั่วซีแดงก่ำ “พวกองค์หญิงไม่เคยเจอกับเหล่าจอหงวน แย่งสามีกันจากป้ายประกาศผู้ที่สอบจอหงวนกลัวว่างานเลี้ยงฉยงหลินจะไม่ใช่ตัวจริง ก็เลยไหว้วานข้าให้ไปดูมาก่อนหน้าวาดภาพบุคคลทั้งหลายส่งเข้าไปในวัง บัณฑิตจอหงวนเองนั้นแต่งงานมีเมียแล้ว ก็เลยวาดออกมาเลอะเทอะไปเสียหน่อย”

“ดังนั้นจะบอกว่า คนที่ยุแยงความสัมพันธ์ของท่านกับข้า ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นองค์หญิงหรูอี้ใช่หรือไม่?”

“ข้าไม่เคยพูดนะ เป็นท่านที่เดาเอง”

เหลิ่งชิงฮวนพูดจริงจัง “ระหว่างข้ากับองค์หญิงหรูอี้มีเรื่องบาดหมางกัน ใครๆต่างก็รู้กันทั่ว ถ้าจะให้พูดตามตรง นั่นเป็นเพราะเรื่องการแย่งชิงลูกเขยจากป้ายประกาศผู้ที่สอบ แม้ว่าข้าไม่รู้จะพูดอะไรต่อหน้าท่าน ข้าก็ยังคงพูดประโยคเดิม ก่อนหน้านี้ข้ากับแม่นางฉู่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน แล้วก็ไม่เคยพูดถึงท่านเลยสักประโยคเดียว”

“เช่นนั้นข้ามีใจจะผูกมิตรกับท่าน เหตุใดท่านจึงไม่ยอมที่จะเข้าร่วมงานบทกวีของข้าล่ะ” ฉู่รั่วซือบ่นถามพึมพำ

“นั่นเป็นสานส์ท้าทายที่ส่งท่านส่งให้ข้าไม่ใช่หรือไง? ได้ยินว่าลับหลังพวกเราพี่น้องท่านพูดจาให้ร้าย บอกว่าพี่ชายข้าใช้วิธีการที่มิชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ ท่านฮวาผู้นี้แค่ฉวยโอกาสจากพ่อข้าก็เท่านั้น ท่านไม่พอใจเป็นอย่างมาก ก็เลยอยากที่จะประลองกับข้า”

“จริงอยู่ที่ข้านั้นไม่พอใจ แต่ข้าก็อยากจะผูกมิตรกับท่านจริงๆ ไม่เคยพูดจาให้ร้ายพวกท่าน ใครจะไปรู้ว่าบัตรเชิญนั้นจะถูกส่งกลับมา อับอายขายหน้า ถูกคนพูดถากถาง เพราะงั้นตอนงานเลี้ยงในวังหลวงก็เลยพูดจาแทงใจดำไปหน่อย”

นี่แหละ หรูอี้ตีสองหน้า เรื่องเข้าใจผิดก็มีที่มาอย่างนี้เอง

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มอย่างขมขื่น “ข้ากลัวพวกบทกลอนบทกวีเป็นที่สุด พอได้ฟังแล้วรู้สึกหัวจะระเบิด ให้ข้าไปเข้าร่วมงานบทกวีของท่าน ก็เท่ากับทำให้ตัวเองดูแย่ไม่ใช่หรือไง?”

เวลานี้ฉู่รั่วซีรู้ว่าตัวเองโดนหลอกมาเป็นเวลานาน ก็ทำความเคารพเหลิ่งชิงฮวนอย่างรู้สึกไม่ดี “เป็นข้าเองที่อับอายหงุดหงิดไปชั่วขณะ ฟังความข้างเดียว ฟังคำยุแยงของผู้อื่น ดูหมิ่นดูแคลนท่านไปมาก รั่วซีขอประทานอภัยพระชายา”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มหวาน “วันนั้นคำพูดของข้าเองก็รุนแรงเกินไปเช่นกัน ขอแม่นางฉู่อย่าได้เก็บมาใส่ใจเลยนะ”

ฉู่รั่วซีกัดริมฝีปากล่างเบาๆ “ที่ท่านพูดมาก็มีเหตุผล อันที่จริงแล้วข้าอยากที่จะไปหาท่านที่จวนตลอด ขอคำแนะนำจากท่าน เพียงแต่รู้สึกเสียหน้า ข้าชอบเทคนิคการวาดภาพของท่านมาก พู่กันวาดภาพนี้ เหมาะสำหรับภาพวาดภูเขาลำธารและภาพวาดแบบปราณีต เพียงแค่ขีดๆเขียนๆเส้นง่ายๆก็เท่านั้น ไม่เท่ากับที่ท่านวาดได้อย่างสมจริงมีชีวิตชีวา”

เหลิ่งชิงฮวนกลับถูกชมจนเขิน ทั้งสองหัวเราะกันอยู่ชั่วขณะ พูดคุยเรื่องทุกอย่าง เรื่องราวบาดหมางก็หายไป

ก่อนที่จะกลับ เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้คืนภาพวาดนั้นให้ แต่ม้วนเก็บแล้วส่งให้กับโตวโตว เอากลับไปที่จวนอ๋อง

เธอกระซิบที่ข้างหูฉู่รั่วซี พูดหยอกล้อว่า “พี่ชายข้าชอบงานภาพวาด เอากลับไปให้เขาประเมิน บางทีดูแล้วอาจถูกใจก็ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา