เหลิ่งชิงฮวนกลับมาถึงจวน แต่มู่หรงฉียังไม่กลับมา
แต่จื่อชิวกำลังคุยอยู่กับแม่หวังที่ตำหนักฉาวเทียน เมื่อเห็นเธอ ก็ทำความเคารพอย่างสุภาพเรียบร้อย
ตอนนี้เหลิ่งชิงหลางไม่ได้อยู่ที่จวนอ๋อง ในเรือนจื่อเถิงก็มีจื่อชิวเป็นผู้ดูแล เข้าออกได้อย่างอิสระ
เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากที่จื่อชิวสูญเสียเหลิ่งชิงหลางไป คำพูดและการกระทำทั้งหมดต่างเจียมตัว ไม่ได้แอบคิดมิดีมิร้ายเหมือนแต่ก่อน ไม่ประจบสอพลอ รู้จักเอาตัวรอด ราวกับเปลี่ยนนิสัยใหม่ไปโดยสิ้นเชิง
รู้ผิดแล้วแก้ไขถือเป็นเรื่องดี เรื่องบางเรื่องเหลิ่งชิงฮวนไม่เก็บมาคิดเล็กคิดน้อย แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ
จื่อชิวเรียกเธอด้วยเสียงแผ่วเบา “พระชายาเพคะ?”
เหลิ่งชิงฮวนชะงักฝีเท้า “มีธุระกับข้าเหรอ?”
จื่อชิวพยักหน้า “อยากจะขอเวลาพระชายาเพียงชั่วครู่ พูดอะไรสักหน่อย”
“งั้นก็เข้ามาในห้องเถอะ”
ทั้งคู่เดินตามกันเข้าไปในห้อง เหลิ่งชิงฮวนส่งสัญญาณให้เธอนั่งลง
จื่อชิววางถุงห่อผ้าเล็กๆที่อยู่ในมือไว้บนโต๊ะ รินน้ำชาให้เหลิ่งชิงฮวนก่อน จึงค่อยนั่งลง แกะห่อผ้าที่อยู่ในมือ เผยให้เห็นสิ่งของที่อยู่ด้านใน
คือผ้าลายปักสองสามผืน
เธอก้มหน้าก้มตา “หลายวันมานี้พระชายาไม่อยู่ที่จวน ไม่ต้องคอยปรนนิบัติรับใช้พระนาง พอมีเวลาว่างที่จะปักลายผ้าได้สองสามผืน ไม่รู้ว่าพระชายาจะรังเกียจหรือไม่?”
เหลิ่ิงชิงฮวนประหลาดใจเล็กน้อย “ปักให้ข้าเหรอ?”
จื่อชิวพยักหน้า “ข้ารู้สึกซาบซึ้งพระชายามาโดยตลอด แต่ไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไรดี ผ้าพวกนี้ ก็คือน้ำใจเล็กน้อยจากจื่อชิว หวังว่าพระนางจะไม่รังเกียจฝีมือที่ไม่เรียบร้อยของข้า”
เหลิ่งชิงฮวนรับมาไว้ในมือ ยิ้มแย้มแจ่มใส “จะเป็นเช่นนั้นได้ยังไงกันล่ะ? ตอนแรกที่อยู่จวนเสนาบดีก็เคยได้ยินมาว่าฝีมือของเธอนั้นดีใช้ได้ คิดอยากที่จะร้องขอก็ยังเอ่ยปากไม่ได้”
เมื่อพลิกมองดู ไม่ใช่ดอกไม้ที่จะเห็นได้ตามทั่วไป แต่เป็นตัวละครงิ้วที่มีชื่อเสียง
เหลิ่งชิงฮวนไม่ค่อยได้สนใจมรดกวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาของชนชาติจีนเท่าไหร่ พอที่จะรู้จักท่าทางการแสดงของ《ซีเซียงจี้》ส่วนที่เหลือก็ไม่ค่อยรู้จักแล้ว ด้านล่างสุดของผ้านั้น คาดไม่ถึงว่าจะมีตำราอีกเล่มหนึ่ง เธอหยิบตำราขึ้นมาดู ก็รู้ว่า 《ตบโต๊ะด้วยความประหลาดใจ》เป็นของหลิงเหมิงจู
ตำราเล่มนี้เหลิ่งชิงฮวนเคยอ่านไปแล้วนิดหน่อย สมัยตอนที่เรียนชั้นมัธยมปลาย เพื่อนในห้องเรียนแอบเอามาให้อ่าน แม้แต่เด็กผู้ชายเกเรต่างก็ยังอ่านอย่างเพลิดเพลิน
ตอนนั้นเธอแค่อยากรู้อยากเห็น ด้านในนั้นเอาจริงเอาจังกับการตีความตามตัวอักษรมากเกินไป ล้วนเป็นข้อความที่คลุมเครือและเข้าใจยาก ทำไมคนเหล่านี้ถึงยังได้อ่านจนลืมกินลืมนอนกันนะ
เธอพลิกมองดู แม้ว่าจะเป็นฉบับที่ถูกตัด แต่เนื้อเรื่องบางส่วนด้านในนั้นใจกล้าพอควร เปิดกว้าง แปลกประหลาด ทำลายมุมมองทั้งสามอย่าง
จื่อชิวให้ตำราอย่างนี้กับตัวเองทำไมกัน? เป็นตำราต้องห้ามในยุคสมัยนี้หรือเปล่านะ?
จื่อชิวมองดูการกระทำในมือของเธอ พูดอธิบายเสียงเบา “ได้ยินมาว่าพระชายาชอบอ่านตำรา รู้สึกว่าเนื้อหาในตำราเล่มนี้แปลกใหม่มาก ดังนั้นก็เลยหยิบมาให้พระชายาไว้แก้เบื่อน่เพคะ”
ชีวิตอย่างเดิมนั้นช่างน่าเบื่อเสียจริง เหลิ่งชิงฮวนพลิกตำราเป็นบางครั้งบางคราวเพื่อฆ่าเวลาเล่น แต่ตั้งแต่ที่มู่หรงฉีย้ายมาที่ตำหนักฉาวเทียน ตัวเองเอ้อระเหยได้อย่างนี้ที่ไหนกันล่ะ ถูกเขาตามตื้อทั้งวัน แม้แต่เวลาว่างส่วนตัวก็ยังไม่มีเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...