ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 268

จื่อชิวลุกขึ้น เข้าไปขอบคุณเหลิ่งชิงฮวน จากนั้นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้า “พระชายาทรงเมตตาเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ท่านอ๋องจะรักท่านมากเพียงนี้ บ่าวเชื่อว่า ในใจของท่านอ๋องนั้นจะไม่มีใครอื่นอีกเด็ดขาด ถ้าหากว่ามี ต้องใช้วิธีการที่น่าอับอายอย่างแน่นอน ขอพระชายาอย่าได้หลงเชื่อเป็นอันขาดนะเพคะ”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่าคำพูดของนางนั้นแปลกๆ มองเธออย่างสงสัย “เจ้าต้องการเตือนข้าเรื่องอะไรกัน?”

“ไม่มีเพคะ แค่คิดว่าคุณหนูของบ่าวกับจิ่นอวี๋จวิ้นจู่ผู้นั้นจะทำทุกวิถีทาง ดังนั้นพระชายาจะต้องระวังนะเพคะ”

เหลิ่งชิงฮวนปล่อยวาง “ขอบใจที่เตือนเรา เราจะระวัง”

จื่อชิวตอบ “อือ” อย่างแผ่วเบา “จื่อชิวอยากไปหาผู้ดูแลบ้านที่จวนเสนาบดี ถามกับเขาว่างานที่แนะนำให้ข้านั้นมีแน่นอนแล้วหรือยัง พระชายาจะทรงอนุญาตไหมเพคะ?”

“เรื่องแค่นี้เอง พอดีเลย เมื่อวานเซวียอี๋เหนียงสั่งให้คนส่งบทละครงิ้วมา ให้ข้าเลือกมาสองเรื่อง บอกว่าอีกไม่กี่วันที่จวนจะเชิญคณะละครมา ข้าเองก็ไม่สันทัดเรื่องพวกนี้ เจ้ากลับไปแทนข้าที ให้เซวียอี๋เหนียงเป็นคนตัดสินใจแทนก็แล้วกัน”

จื่อชิวสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชัด “งั้นจื่อชิวไปตอนนี้เลยนะเพคะ”

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า จื่อชิวหันหลังเดินไปถึงประตู ก็หันกลับมาอีกครั้ง เตือนเหลิ่งชิงฮวน “ตำราที่ให้พระชายานั้น หากมีเวลาว่างท่านต้องเปิดอ่านนะเพคะ แม้ว่ามันจะไร้สาระ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่า วันนี้จื่อชิวดูแปลกไป คำพูดเหมือนมีนัยแอบแฝงอยู่

หรือว่าเหลิ่งชิงหลางคิดหาอุบายอะไรมาจัดการกับตนเองอีก? เธอถูกส่งไปที่ชนบทแล้ว อยากจะโดนอีกหรือไง? รอให้จื่อชิวกลับมาจากจวนเสนาบดีก่อน จะคุยกับเธอหยั่งเชิงหาข้อมูลมาให้ได้

เมื่อใกล้เวลาอาหารเย็น มู่หรงฉีจึงกลับมา เหงื่อชุ่มเต็มตัว หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ก็มาที่ตำหนักฉาวเทียนเพื่อรับประทานอาหารเย็นเป็นเพื่อนเธอ

เหลิ่งชิงฮวนเล่าเรื่องจื่อชิวให้เขาฟัง

มู่หรงฉีพยักหน้า “เรื่องพวกนี้เจ้าตัดสินใจเองได้เลย ไม่ต้องมาถามข้าหรอก”

“จื่อชิวสามารถมองได้ทะลุปรุโปร่ง ข้ารู้สึกว่าสู้แสดงน้ำใจออกไปดีกว่า ทว่า...”

เธอลังเล “วันนี้จื่อชิวมาหาข้า คำพูดนั้นแปลกมากเลยเพคะ”

“พูดว่าอะไรงั้นหรือ?”

เหลิ่งชิงฮวนหรี่ตา “นางบอกว่า หากท่านทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อข้า ให้ข้า...”

มู่หรงฉีมือสั่น ตะเกียบตกไปอยู่ที่พื้น รีบก้มลงไปเก็บ

มือที่เหลิ่งชิงฮวนกำลังคีบอาหารอย่างไม่ได้ใส่ใจก็แข็งทื่อ มือของมู่หรงฉีถือดาบและคันธนู นิ่งและทรงพลังมากที่สุด เมื่อกี้ยังดีๆอยู่ ทำไมจู่ๆถึงได้จับตะเกียบไว้ไม่อยู่ล่ะ?”

เธอค่อยๆตักอาหาร หัวเราะเสียงเบา “ปฎิกิริยาของท่านทำให้ข้านึกถึงคำๆหนึ่ง”

โตวโตวส่งตะเกียบคู่ใหม่ให้ มู่หรงฉีรับมาไว้ในมือ “คำอะไร?”

เหลิ่งชิงฮวนค่อยๆเอ่ยปาก “กินปูนร้อนท้อง”

มู่หรงฉีเม้มปาก “สมมุติว่า...”

ด้านนอกมีคนบุกเข้ามาในตำหนักฉาวเทียนอย่างลุกลี้ลุกลน ขัดจังหวะที่เขาพูด “ท่านอ๋องอยู่ที่นี่หรือไม่พ่ะยะค่ะ?”

มู่หรงฉีกระแอมไอ “มีเรื่องอะไร?”

ทหารอารักยืนอยู่ที่หน้าประตู ทูลรายงาน “ท่านอ๋อง พระชายา แย่แล้วพ่ะยะค่ะ จวนเสนาบดีส่งคนมา บอกว่าแม่นางจื่อชิวเกิดเรื่องแล้ว”

“อะไรนะ?” ทั้งสองมองหน้ากัน ด้วยความตกใจ

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“คนที่มาบอกว่าแม่นางจื่อชิวไม่ทันระวังผลัดตกน้ำไป เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น ไม่มีใครเห็นนาง เมื่อรอความช่วยเหลือ คนก็ไม่รอดแล้วพ่ะยะค่ะ”

ข่าวนี้ทำให้คนประหลาดใจมาก ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเหลิ่งชิงฮวน ก็คือมันไม่ใช่เรื่องง่ายแบบนี้แน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา