จื่อชิวลุกขึ้น เข้าไปขอบคุณเหลิ่งชิงฮวน จากนั้นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้า “พระชายาทรงเมตตาเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ท่านอ๋องจะรักท่านมากเพียงนี้ บ่าวเชื่อว่า ในใจของท่านอ๋องนั้นจะไม่มีใครอื่นอีกเด็ดขาด ถ้าหากว่ามี ต้องใช้วิธีการที่น่าอับอายอย่างแน่นอน ขอพระชายาอย่าได้หลงเชื่อเป็นอันขาดนะเพคะ”
เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่าคำพูดของนางนั้นแปลกๆ มองเธออย่างสงสัย “เจ้าต้องการเตือนข้าเรื่องอะไรกัน?”
“ไม่มีเพคะ แค่คิดว่าคุณหนูของบ่าวกับจิ่นอวี๋จวิ้นจู่ผู้นั้นจะทำทุกวิถีทาง ดังนั้นพระชายาจะต้องระวังนะเพคะ”
เหลิ่งชิงฮวนปล่อยวาง “ขอบใจที่เตือนเรา เราจะระวัง”
จื่อชิวตอบ “อือ” อย่างแผ่วเบา “จื่อชิวอยากไปหาผู้ดูแลบ้านที่จวนเสนาบดี ถามกับเขาว่างานที่แนะนำให้ข้านั้นมีแน่นอนแล้วหรือยัง พระชายาจะทรงอนุญาตไหมเพคะ?”
“เรื่องแค่นี้เอง พอดีเลย เมื่อวานเซวียอี๋เหนียงสั่งให้คนส่งบทละครงิ้วมา ให้ข้าเลือกมาสองเรื่อง บอกว่าอีกไม่กี่วันที่จวนจะเชิญคณะละครมา ข้าเองก็ไม่สันทัดเรื่องพวกนี้ เจ้ากลับไปแทนข้าที ให้เซวียอี๋เหนียงเป็นคนตัดสินใจแทนก็แล้วกัน”
จื่อชิวสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชัด “งั้นจื่อชิวไปตอนนี้เลยนะเพคะ”
เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า จื่อชิวหันหลังเดินไปถึงประตู ก็หันกลับมาอีกครั้ง เตือนเหลิ่งชิงฮวน “ตำราที่ให้พระชายานั้น หากมีเวลาว่างท่านต้องเปิดอ่านนะเพคะ แม้ว่ามันจะไร้สาระ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด”
เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่า วันนี้จื่อชิวดูแปลกไป คำพูดเหมือนมีนัยแอบแฝงอยู่
หรือว่าเหลิ่งชิงหลางคิดหาอุบายอะไรมาจัดการกับตนเองอีก? เธอถูกส่งไปที่ชนบทแล้ว อยากจะโดนอีกหรือไง? รอให้จื่อชิวกลับมาจากจวนเสนาบดีก่อน จะคุยกับเธอหยั่งเชิงหาข้อมูลมาให้ได้
เมื่อใกล้เวลาอาหารเย็น มู่หรงฉีจึงกลับมา เหงื่อชุ่มเต็มตัว หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ก็มาที่ตำหนักฉาวเทียนเพื่อรับประทานอาหารเย็นเป็นเพื่อนเธอ
เหลิ่งชิงฮวนเล่าเรื่องจื่อชิวให้เขาฟัง
มู่หรงฉีพยักหน้า “เรื่องพวกนี้เจ้าตัดสินใจเองได้เลย ไม่ต้องมาถามข้าหรอก”
“จื่อชิวสามารถมองได้ทะลุปรุโปร่ง ข้ารู้สึกว่าสู้แสดงน้ำใจออกไปดีกว่า ทว่า...”
เธอลังเล “วันนี้จื่อชิวมาหาข้า คำพูดนั้นแปลกมากเลยเพคะ”
“พูดว่าอะไรงั้นหรือ?”
เหลิ่งชิงฮวนหรี่ตา “นางบอกว่า หากท่านทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อข้า ให้ข้า...”
มู่หรงฉีมือสั่น ตะเกียบตกไปอยู่ที่พื้น รีบก้มลงไปเก็บ
มือที่เหลิ่งชิงฮวนกำลังคีบอาหารอย่างไม่ได้ใส่ใจก็แข็งทื่อ มือของมู่หรงฉีถือดาบและคันธนู นิ่งและทรงพลังมากที่สุด เมื่อกี้ยังดีๆอยู่ ทำไมจู่ๆถึงได้จับตะเกียบไว้ไม่อยู่ล่ะ?”
เธอค่อยๆตักอาหาร หัวเราะเสียงเบา “ปฎิกิริยาของท่านทำให้ข้านึกถึงคำๆหนึ่ง”
โตวโตวส่งตะเกียบคู่ใหม่ให้ มู่หรงฉีรับมาไว้ในมือ “คำอะไร?”
เหลิ่งชิงฮวนค่อยๆเอ่ยปาก “กินปูนร้อนท้อง”
มู่หรงฉีเม้มปาก “สมมุติว่า...”
ด้านนอกมีคนบุกเข้ามาในตำหนักฉาวเทียนอย่างลุกลี้ลุกลน ขัดจังหวะที่เขาพูด “ท่านอ๋องอยู่ที่นี่หรือไม่พ่ะยะค่ะ?”
มู่หรงฉีกระแอมไอ “มีเรื่องอะไร?”
ทหารอารักยืนอยู่ที่หน้าประตู ทูลรายงาน “ท่านอ๋อง พระชายา แย่แล้วพ่ะยะค่ะ จวนเสนาบดีส่งคนมา บอกว่าแม่นางจื่อชิวเกิดเรื่องแล้ว”
“อะไรนะ?” ทั้งสองมองหน้ากัน ด้วยความตกใจ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“คนที่มาบอกว่าแม่นางจื่อชิวไม่ทันระวังผลัดตกน้ำไป เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น ไม่มีใครเห็นนาง เมื่อรอความช่วยเหลือ คนก็ไม่รอดแล้วพ่ะยะค่ะ”
ข่าวนี้ทำให้คนประหลาดใจมาก ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเหลิ่งชิงฮวน ก็คือมันไม่ใช่เรื่องง่ายแบบนี้แน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...