ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 269

เหลิ่งชิงเฮ่อรีบสั่งให้คนรวบตัวคนในจวนทั้งหมด มาสอบปากคำทีละคน ตอนที่เกิดเรื่อง แต่ละคนอยู่ที่ไหน

ทรมานลากยาวไปจนถึงเที่ยงคืน ก็ยังไม่ได้เรื่องอะไร ไม่พบผู้ต้องสงสัย ดูเหมือนทุกคนจะมีหลักฐานที่อยู่ของตัวเองกันหมด

ทุกวันนี้จื่อชิวไม่ได้อยู่ที่จวนเสนาบดี ต่อให้มีปากเสียงหรือเรื่องบาดหมางใจกับคนในจวน ก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว คงไม่ถึงกับเอาชีวิตกันเพราะเหตุผลนี้หรอกนะ?

แรงจูงใจในการฆ่าของคนๆนี้คืออะไรกัน?

ตอนที่จื่อชิวมาหาแล้วพูดเรื่องประหลาดพวกนั้น หรือว่านางมีมีลางสังหรณ์อยู่แล้วว่าจะมีคนจ้องจะเอาชีวิต? ถ้างั้นทำไมนางถึงเป็นฝ่ายที่อยากจะมาเองล่ะ?

นางไปหาเหลิ่งชิงเจียวอยากจะได้หยกของเขาไปทำอะไรกัน?

เหลิ่งชิงฮวนตั้งใจเริ่มลงมือจากเหลิ่งชิงเจียว ดูสิว่ามีเบาะแสเงื่อนงำอะไรหรือไม่

ยังไม่ทันทีจะไป แม่เฒ่าที่ติดตามเหลิ่งชิงเจียวก็เดินมารายงาน บอกว่าเหลิ่งชิงเจียวป่วย ไข้ขึ้นสูง

เซวียอี๋เหนียงขี้ขลาด ไม่กล้าที่จะยุ่งด้วย เมื่อได้ยินว่าเหลิ่งชิงเจียวป่วย ก็บ่นพึมพำทันที “ไม่ใช่ว่าไปขัดแย้งกับใครเข้าล่ะสิ?”

จากนั้นก็ดึงแขนเสื้อของเสนาบดีเหลิ่ง ถามเขาว่าต้องการที่จะเชิญพระมาที่จวนกี่รูป ปัดเป่าไล่ผีสางเสียหน่อย

เสนาบดีเหล่ิงหงุดหงิด พูดตำหนิไป “เชื่อพวกเรื่องไร้สาระนั่นทำไมกัน?”

เหลิ่งชิงฮวนตรงไปที่ลานบ้านของเหลิ่งชิงเจียว

ซื่ออี๋เหนียงกำลังตำหนิเด็กรับใช้ของเหลิ่งชิงเจียว “ฮูหยินไม่อยู่จวน บ่าวรับใช้เช่นพวกเจ้ากลับกำเริบเสิบสาน ไม่ใส่ใจปรนนิบัตคุณชายน้อย ไม่คิดเลยว่าจะปล่อยเขาไว้ที่เรือนคนเดียว ส่วนตัวเองก็ออกไปดูเรื่องสนุก ทำให้เขาไม่สบาย”

เด็กรับใช้ก้มหน้าฟังคำสั่งสอนอย่างเชื่อฟัง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา “เป็นคุณชายน้อยเองที่ไม่กล้าไปดู แต่ก็ยังอยากรู้อยากเห็น ก็เลยส่งบ่าวให้ไปดูขอรับ เพื่อกลับมาเล่าให้คุณชายน้อยฟัง แต่พอบ่าวกลับมาก็เห็นคุณชายน้อยกระวนกระวาย เริ่มมีไข้ เหมือนกับตกใจกลัว แถมยังพูดจาเพ้อเจออีกขอรับ”

“เหลวไหล ตัวเองแอบอู้งาน กลับยังต้องพึ่งเรื่องสมมติพวกนี้อีก?”

ซื่ออี๋เหนียงฐานะยากจน อยู่ในจวนเป็นคนอารมณ์ดี ยอมรับความลำบาก น้อยมากที่จะระเบิดอารมณ์แบบนี้ ดูแล้ว ถึงแม้จินซื่อไม่อยู่ที่จวนแล้ว นางก็ดีกับเหลิ่งชิงเจียวไม่น้อยเลยทีเดียว

เด็กรับใช้ไม่กล้าโต้แย้งกลับ

ซื่ออี๋เหนียงเงยหน้ามาเห็นเหลิ่งชิงฮวน รีบตรงเข้ามาทักทายเธอ จากนั้นก็เปิดผ้าม่านกั้น

เหลิ่งชิงเจียวนอนอยู่บนเดียว เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว อีกประเดี๋ยวก็ฟันกระทบกัน อีกเดี๋ยวก็โวยวาย อึดอัดจนร้องครวญคราง

เดิมทีเหลิ่งชิงฮวนเกลียดเหลิ่งชิงเจียว เพราะความเย่อยิ่งใช้อำนาจบาตรใหญ่ รังแกคนอื่นแอกว่า วันนี้ได้เจอกันอีกครั้ง เขานอนขดตัว กลายเป็นก้อน จับไข้ หน้าอ้วนๆแดงก่ำ ดูน่าสงสาร

ก็แค่เด็กคนหนึ่ง เรื่องผิดบาปของผู้ใหญ่ไม่ควรตกไปอยู่ที่เขา

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจ เข้าไปตรวจดูอาการของเขา ไข้สูงถึงสามสิบเก้าองศาแล้ว ปล่อยต่อไปเช่นนี้ไม่ได้ จึบรีบให้น้ำเกลือเขา และสั่งให้คนเอาน้ำแข็งมาโป๊ะไว้ที่หน้าผากของเขาเพื่อลดอุณหภูมิ

เหลิ่งชิงเจียวไข้สูงจนเลอะเลือน ลืมตาเพียงครึ่งเดียว เห็นเหลิ่งชิงฮวน ก็ร้องไห้ “ฮือ ฮือ” ออกมาอย่างไม่คาดคิด

“พี่รอง ข้าคิดถึงท่านแม่ ทำไมท่านแม่ยังไม่กลับมาอีก?”

เหลิ่งชิงฮวนเสียใจ รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย ยกมือขึ้นลูบหัวของเขา ไม่รู้จะปลอบยังไงดี ทำได้เพียงพูดอย่างขมขื่น “เด็กดี นอนซะนะ เมื่อตื่นขึ้นก็ดีขึ้น”

เหลิ่งชิงเจียวกุมมือเธอไว้ เอามาแนบไว้ที่หน้า “พี่รองไม่ต้องการข้าแล้วใช่หรือไม่? ข้าจะเชื่อฟังท่าน ท่านอย่าดุข้าเลย ข้ากลัวเหลือเกิน”

เหลิ่งชิงฮวนที่กำลังจะกลายเป็นแม่คนก็ยิ่งเสียใจ

เพราะตระกูลจิน ตนเองและเหลิ่งชิงหลางสองพี่น้องจึงถูกกําหนดให้อยู่ในตําแหน่งที่เป็นศัตรูกัน ไม่เช่นนั้น เธออยากจะกอดเด็กคนนี้ ปลอบใจเขา

เธอตบเขาเบาๆ พูดเสียงเบา “เด็กดี รอให้เจ้าหายดี ข้าจะพาเจ้าไปหาพี่รอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา