ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 288

เหลิ่งชิงฮวน เหลิ่งชิงฮวนอีกแล้ว เขากำลังขมขู่ตัวเอง!

ในอกนั้น ความเกลียดชังถาโถม ความหึงหวงทำให้เหลิ่งชิงหลางแทบจะคลั่ง

เขาไม่ยอมให้เหลิ่งชิงฮวนรับรู้ เขากลัวว่านางจะเสียใจ เธอจะทําให้หัวใจของเธอเหมือนขี้เถ้า เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่!

จวนฉีอ๋องข้าจะต้องกลับไป ความร่ำรวยที่เป็นของตัวเอง จะต้องเอาคืนกลับมาให้ได้ ท่านอย่าได้คิดว่าเธอจะปล่อยมันไปง่ายๆ!

เหลิ่งชิงหลางมือยันพื้น ลุกขึ้นด้วยความยากลําบาก “ในเมื่อท่านอ๋องได้ตัดขาดกับชิงหลางแล้ว เช่นนั้นชิงหลางก็ไม่มีอะไรจะพูด หม่อมฉันเป็นหญิงที่ท่านแต่งจากจวนเสนาบดีเข้าจวนฉีอ๋อง หากต้องการที่จะหย่า งั้นท่านก็ต้องไปพูดกับท่านพ่อของหม่อมฉันด้วย หากท่านพ่อตอบตกลง ให้เหลิ่งชิงเฮ่อนำรถม้า ไปรับหม่อมฉันที่จวนท่านอ๋องกลับจวนเสนาบดี ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน หม่อมฉันกับท่านอ๋องชายแต่งเข้าหญิงออกเรือน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป”

มู่หรงฉีคิดไม่ถึง ว่านางจะเปลี่ยนใจกระทันหัน ไม่รั้งไว้อีกต่อไป ขอเพียงแค่รับปาก น่าประหลาดใจ

“ได้” เขาพยักหน้า “วันพรุ่งข้าจะไปหาเสนาบดีเหลิ่งที่จวน เจ้าดูแลตัวเองให้ดี”

จากนั้นก็หันหลัง แล้วเดินจากไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์

เหลิ่งชิงหลางเอามือจับเก้าอี้ไว้ ค่อยๆนั่งลง กัดฟันกรอด ในดวงตาแผ่ซ่านความเกลียดชังอาฆาตพยาบาทออกมา

เธอไม่กล้าบอกกับมู่หรงฉีเรื่องที่ตัวเองท้อง ไม่กล้าใช้ไพ่ไม้ตายตอนนี้ เห็นแววตาที่ไร้อารมณ์ของมู่หรงฉี แล้วสายตาที่ดุร้าย เธอรู้สึกว่า หากตัวเองพูดออกไป เพื่อเหลิ่งชิงฮวนแล้วมู่หรงฉี ต้องลงมือฆ่าทันทีแน่นอน!

เธอไม่กล้าที่จะเสี่ยง!

ดังนั้น เธอต้องหาวิธีออกไปจากที่หมู่บ้านชนบทให้ได้ก่อน ตราบใดที่เธอมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฮุ่ยเฟย ถึงจะเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุด

“แม่จ้าว!”

แม่จ้าวเข้ามาจากด้านนอก

“เอาเงินไปให้พวกคนงาน ให้เขาไปที่จวนรองเสนาบดี ไปหาจินเอ้อร์ บอกกับเขาว่า ข้ามีเรื่อง”

แม่จ้าวเข้าใจในทันทีว่าเหลิ่งชิงหลางนั้นอยากจะพบฟังผิ่นจือ

เธอไม่กล้าที่จะพูดโน้มน้าวแม้แต่คำเดียว หลังจากที่จื่อชิวจมน้ำตายโดนไม่ทราบสาเหตุ เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ถึงได้รู้สึกโศกเศร้ากันนะ

แม้่า เหลิ่งชิงหลางจะไม่ได้ออกจากฟาร์มเลย เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะทำร้ายจื่อชิว แต่่ว่า หลังจากที่ทราบข่าวการตายของจื่อชิว สีหน้าของเธอก็เหมือนยกภูเขาออกจากอกอย่างเห็นได้ชัด นั้นก็ทำให้ใจของแม่จ้าวนั้นดิ่งลง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เบื้องหลังก็ยังคงมีฟังผิ่นจือจอมเจ้าเล่ห์อยู่อีกไม่ใช่หรือไง?

ไม่มีหู ไม่มีตา ไม่มีปาก แอบคอยเตือนตัวเอง ว่าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น เป็นเพียงแค่แม่เฒ่าคอยรับใช้เท่านั้น

เมื่อมู่หรงฉีกลับมาถึงจวน คนรับใช้ก็บอกว่าเหลิ่งชิงฮวนนั้นไปที่จวนเสนาบดีแล้ว

เซวียอี๋เหนียงได้เลือกบทละครงิ้วและคณะกายกรรมไว้แล้ว จึงขอให้นางไปดูแล้วเลือกการแสดงที่นางชื่นชอบ

มู่หรงฉียังคงคิดไม่ออก ว่าจะพูดกับเสนาบดีเหลิ่งเรื่องเหลิ่งชิงหลางยังไงดี บางที อาจจะไปหาเหลิ่งชิงเฮ่อเพื่อปรึกษาหารือ ให้เขาแนะนำวิธีให้กับตนเอง

เมื่อคิดทบทวนแล้ว ก็ไม่ได้กลับเข้าจวน แต่มุ่งตรงไปที่จวนเสนาบดีแทน

ในจวนเสนาบดี เถ้าแก่ของคณะละครงิ้วและคณะกายกรรมต่างก็อยู่ทั้งคู่ กำลังสังเกตสถานที่ รอคำตอบ

เหลิ่งชิงฮวนไม่ค่อยเข้าใจบทละครงิ้วสักเท่าไหร่ นอกจาก《ซีเซียงจี้》 《ศาลาโบตั๋น》《เถาฮวาซ่าน》ที่มีชื่อเสียงแล้ว อันอื่นๆก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน เมื่อมองไปที่ป้ายการแสดงการกรรมนั้น ต่างก็เป็นรายการการแสดงแบบเดิมๆ สำหรับเธอเห็นเทคนิคการแสดงกายกรรมที่สร้างสรรค์ตื่นเต้นมามากพอแล้วในยุคปัจจุบัน ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเช่นกัน

เซวียอี๋เหนียงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะเลือกอย่างไหนดี วาดเค้าโครงลงบนกระดาษ เมื่อถึงเวลาก็จะเชิญแขกญาติสนิทที่ไปมาหาสู่กันจากจวนอื่นๆมาร่วมงาน รวมไปถึงครอบครัวฝั่งแม่ของเธอ ถ้าเกิดมีตัวเลือกล่ะ?

เหลิ่งชิงฮวนไม่สามารถให้คำแนะนำได้ “ไม่อย่างนั้นให้ซื่ออี๋เหนียงช่วยเจ้าตัดสินใจก็แล้วกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา