ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 290

มู่หรงฉีรู้ดีว่า วิธีการรักษาของเหลิ่งชิงฮวนนั้นแปลกประหลาด ไม่เหมือนใคร เห็นเรื่องประหลาดจนชินแล้ว

ทว่าปากประกบปากนี่...

เมื่อเจอกับเหตุการณ์ผู้คนซุบซิบกัน เขาก็แกล้งทำเป็นนิ่งขรึม ขมวดคิ้ว “นางน่าจะกำลังผายปอดให้เด็กอยู่ รอประเดี๋ยวไม่ต้องรีบร้อน”

อธิบายอย่างนี้ทุกคนต่างก็เข้าใจแล้ว ทุกคน ฉีอ๋องเองต่างก็ไม่กังวลอะไร พวกเราจะรีบทำไมกัน?

รอบๆบรรยากาศเงียบสนิท

เหลิ่งชิงฮวนคุกเข่าผายปอดอยู่หลายสิบครั้ง เจ้าท้องโตนี้ก็เกะกะเล็กน้อย ได้ยินเสียงหัวใจเด็กเต้นอ่อนๆ ก็ปั๊มหัวใจอยู่อีกหลายครั้ง

ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เช่นนั้น เด็กก็ไอขึ้นมาเบาๆ ก็ค่อยๆเริ่มมีลมเข้า

ยังดี หากตัวเองอยู่ดีๆก็หยิบเครื่องกระตุ้นหัวใจออกมาจากแขนเสื้อ ช็อตเข้าที่หน้าอกของเด็ก นี่ถึงจะเรียกเสียงฮือฮาได้สินะ

มู่หรงฉีเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไฟฉายอันเดียวสามารถแยกชิ้นส่วนจนลืมกินลืมนอนได้ ถอดเครื่องกระตุ้นหัวใจนั้นไม่กลัวหรอก ที่กลัวคือเขาสงสัยเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเครื่องนี้ คงไม่ถลกกระโปรงตัวเองขึ้นเพื่อดูเลยหรือไง

ผู้ดูแลเฉินตื่นเต้นจนพูดสะเปะสะปะ ทุกคนที่อยู่ด้านข้างต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เหลิ่งชิงฮวนไม่ละความพยายามเลยแม้แต่นิดเดียว ท้ายที่สุดแล้วการขาดอากาศหายใจแบบนี้ ทำให้สมองเกิดความเสียหายได้ง่าย เด็กจะเป็นหรือไม่เป็นอะไร ก็ต้องดูปฎิกิริยาอีกทีหลังจากที่เขาฟื้น

เธอหยิบเข็มเงินออกมา เพื่อกระตุ้นจุดฝังเข็มของเด็ก เด็กค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น หันหน้าไปมองผู้ดูแลเฉิน ก็ร้องไห้โฮออกมาด้วยความตกใจ

ไม่เป็นอะไรแล้ว!

ขอบคุณฟ้าดิน พ้นขีดอันตรายแล้ว เด็กคนนี้ดวงชะตาแข็งเสียจริง

ผู้ดูแลเฉินดึงลูกมาก้มหัวขอบคุณเหลิ่งชิงฮวน เหลิ่งชิงเฮ่อก็ให้ทุกคนต่างแยกย้ายกันไป

เสนาบดีเหลิ่งเพิ่งกลับมาถึงจวน ได้ยินคนรับใช้ในจวนกลับมารายงานให้เขารู้ ก็รีบตามมาทันที เด็กนั้นปลอดภัยแล้ว

เหลิ่งชิงเจียวหลบอยู่ด้านข้างตลอดเวลา ดวงตาแดง กำหมัดแน่น หวาดกลัวเล็กน้อย แต่ก็ยังยืดอกอย่างดื้อรั้น

เสนาบดีเหลิ่งถาม “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

อาจารย์ของเหลิ่งชิงเจียวก้าวไปข้างหน้า “กราบเรียนท่านเสนาบดีฝ่ายขวา เป็นเพราะคนแก่อย่างข้าน้อยที่ดูแลไม่ดีเองขอรับ พอช่วงว่างตอนเลิกเรียน ข้าน้อยก็เลยรีบไปเตรียมชามาให้ พอกลับมาก็เห็นคุณชายน้อยใช้ผ้าปิดจมูกปิดปาดเด็กคนนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความแค้น

ข้าน้อยรีบเข้าไปห้าม ใช้ความพยายามอย่างมาก คุณชายน้อยถึงยอมปล่อยมือ ในเวลานั้นเด็กคนนี้ก็สลบไปแล้ว จึงรีบตะโกนขอความช่วยเหลือ แจ้งให้คุณชายใหญ่และพระชายาทรงทราบขอรับ”

เสนาบดีเหลิ่งฟังแล้ว เท่านี้ก็พอแล้ว อายุยังน้อย คาดไม่ถึงว่าจะใจร้ายขนาดนี้ ลงมือทำร้ายฆ่าเพื่อน เดินก้าวไปข้างหน้าด้วยใบหน้าเขียวปั๊ด เดินตรงไปหาเหลิ่งชิงเจียวด้วยความคับแค้น

“ไอ้ลูกเนรคุณ คิดที่จะก่อกบฎหรือไง?”

เหลิ่งชิงเจียวถูกเขาใช้เท้าเตะกระเด็นออกไป จนล้มลงนั่งกองอยู่ที่พื้น เอามือกุมหน้าอกกับปากแน่น เงยคอขึ้นอย่างดื้อรั้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เขาต่างหาก เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายด่าลูกก่อน! เขาด่าว่าท่านแม่เป็นงูพิษ!”

เสนาบดีเหลิ่งโกรธจนหายใจไม่ออก “เพียงเพราะคำโต้เถียง เจ้าถึงกับจะเอาชีวิตคนเลยหรือไง!”

“ก็แค่คนรับใช้ตัวเล็กๆคนนึงง ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนก็สมควรตาย! แบบนี้พวกเขาถึงจะเคารพเชื่อฟังข้า ไม่กล้าที่จะรังแกข้า!”

เสนาบดีเหลิ่งยากที่จะทำให้คนอื่นเชื่อ “พ่อให้เจ้าเรียนหนังสือกับนักปราชญ์ก็เพื่อพ่อ เจ้ากลับเรียนสิ่งนี้มาได้งั้นเหรอ? ใครเป็นคนสอนเจ้ากัน?”

อาจารย์สอนหนังสือกลัวจนรีบปฏิเสธ “ข้าน้อยพยายามทําตามเจตนารมณ์ของท่านเสนาบดีมาตลอด ไม่กล้าที่จะพูดคําที่ดุร้ายและรุนแรงเช่นนี้”

เหลิ่งชิงเจียวพูดอึกอัก ไม่กล้าที่จะพูดออกมา “ไม่มีใครบอกกับข้า”

เสนาบดีเหลิ่งชี้นิ้วมาที่เขา โกรธจนตัวสั่น “เลี้ยงดูให้ลูกกินดี แต่ไม่รักเรียน เป็นความผิดของคนเป็นพ่ออย่างฉันที่ละเลยการสั่งสอน กลับเลี้ยงดูเจ้าจนมีนิสัยโหดเหี้ยมรุนแรงเช่นนี้ หากวันนี้ข้าไม่ตีเจ้าให้ตาย ข้าจะคู่ควรกับความภักดีของผู้ดูแลเฉินที่มีต่อข้าได้อย่างไร? ใครก็ได้ เอาไม้มาสิ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา