ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 318

และแน่นอน มู่หรงฉีกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ครอบครัวมีลูกตั้งสามคน เช่นนั้นเจ้าก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพให้ดี ส่วนเรื่องในวันนี้...”

จู่ๆ ทหารอารักขาก็ตัวสั่นสะท้าน รีบแสดงความภักดีขึ้นมาทันใด “ข้าน้อยมิเห็นอันใดเลยขอรับ”

จากนั้นมู่หรงฉีก็ส่งเสียงฮึๆ ด้วยความพึงพอใจ ชายชาตรีนั้นยืดหยุ่นได้ การร้องขอความเมตตาจากฮูหยิน มันก็คงจะมิใช่เรื่องที่น่าขายหน้าเกินไปใช่หรือไม่?

เขาเดินหันหลังกลับไปอย่างกระฉับกระเฉง ทหารอารักขาที่เดินตามหลังเขาได้เล่าถึงประสบการณ์อันน่าสะเทือนขวัญเมื่อสักครู่นี้ พร้อมพูดถึงความน่าอัศจรรย์ของเหลิ่งชิงฮวน

“...พระชายานั้นเปรียบดั่งนางฟ้า ยังมิทันได้คาดเดากระไรก็รู้เสียแล้ว นางหยิบยาออกมาจากแขนเสื้อแล้วโปรยมันไปในเดี๋ยวนั้น ทั้งงูและแมลงเหล่านั้นก็ต่างถอยห่างไปเก้าสิบลี้ มิกล้าเข้าใกล้... จากนั้นก็หยิบขวดเหล้าออกมาจากแขนเสื้อ ทุบมันจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปทั่วบริเวณ ทันทีที่จุดตะบันไฟ เปลวไฟจึงลุกโชติช่วงขึ้นมา และเปลวไฟก็พุ่งสูงขึ้นจนทำให้ข้าน้อยตกอกตกใจ...”

มู่หรงฉีเดาะลิ้นอย่างครุ่นคิด ฮูหยินของเขาซ่อนความลับอันใดไว้ในตัวกันนะ? มิเพียงแต่จะมียาซ่อนอยู่ในตัวของนางเท่านั้น หากแต่ยังมีเหล้าอีกด้วย? เช่นนั้นจะมีสักวันหรือไม่ที่จะมีเงินทองแท่งไหลออกมาแทน?

ฮูหยินเยี่ยงนี้ ใครเล่าจะมิอยากเฝ้าอารักขานางราวกับไข่ในหินบ้าง?

เมื่อกลับมาในหมู่บ้านชนบท เหลิ่งชิงฮวนยังคงทำสีหน้าเย็นชา มิพูดมิจากับเขา

สะใภ้เฉินจึงพาชิงฮว่าออกไปอย่างรู้เห็นเป็นใจ ทิ้งไว้ให้เหลือเพียงแค่คนสองคนภายในบ้าน

“พรุ่งนี้ให้ข้ากลับจวนท่านอ๋องไปกับเจ้าหรือไม่?”

“มิต้อง”

มู่หรงฉียังคงคิดหาคำพูดไปเรื่อย “งั้นข้าจะให้คนขับรถม้าที่จวนมารับเจ้าพรุ่งนี้แต่เช้า”

เหลิ่งชิงฮวนรับคำว่า “อืม” มิได้ปฏิเสธ

มู่หรงฉีเม้มริมฝีปากบางของเขา “เจ้ากินข้าวรึยัง”

มาไม้นี้อีกแล้ว มิมีลูกเล่นใหม่ๆ บ้างหรือไร เวลานี้จะกินข้าวที่ไหนกัน?

“ยัง”

“เช่นนั้น ถ้าเช่นนั้นข้าก็มีธุระจะต้องกลับไปที่จวนท่านอ๋องฉี ประเดี๋ยวจะกลับมา”

เหลิ่งชิงฮวนไม่แม้แต่ส่งเสียงใดๆ

มู่หรงฉีกล่าวกับตนเองว่า “ดูเหมือนว่าที่หลังจะโดนหนามไผ่แทงอยู่มิใช่น้อย ฝังลึกเข้าไปในเนื้อด้วย คงต้องหาหมอมาเอาออกให้เสียหน่อยแล้ว”

เหลิ่งชิงฮวนยังคงมิได้เอื้อนเอ่ยอันใด และก็มิได้คิดที่จะอาสาตนด้วย

มู่หรงฉีหารือไปอย่างมิได้สนใจ ในใจแอบก่นด่าทหารอารักขาผู้นั้นที่แสร้งทำเป็นเข้าใจทั้งที่มิเข้าใจอันใดเลย แล้วตนก็ยังถือว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย “ได้ยาดีๆ แล้ว ข้าจะกลับมา”

เหลิ่งชิงฮวนรับคำว่า “อืม” โดยมิคาดคิด! อีกทั้งมิได้รั้งไว้เลย

ผู้หญิงคนนี้กลายเป็นคนใจจืดใจดำไปเสียแล้ว ใจร้ายจริงๆ เชียว มู่หรงฉีจวนจะร้องไห้อยู่รำไร บนหลังข้าแบกตัวอัปลักษณ์อยู่เยี่ยงนี้ จะเอาหน้าที่ไหนไปหาหมอจีนมารักษากันเล่า?

คำพูดออกจากปากเขาไปแล้ว และก็กลัวเสียหน้าเกินกว่าที่จะดั้นด้นให้ความเย็นชาของนางทำลายความรู้สึกดีๆ ต่อไป จึงกัดฟันพร้อมเดินหันหลังออกไปขึ้นหลังม้า และควบจากไป

เหลิ่งชิงฮวนมองดูเขาที่ออกจากบ้านพักบนภูเขาไปจริงๆ ผ่านหน้าต่าง พร้อมก่นด่าด้วยความโกรธอยู่ภายในใจ “แล้วท่านก็ไป มิละอายใจบ้างเลยสินะ วันนี้กลับเชื่อฟัง บอกให้ท่านไปก็ไปจริงๆ แล้วความไร้ยางอายก่อนหน้านั้นล่ะ?”

มู่หรงฉีกลับมาถึงจวนท่านอ๋อง พร้อมกับส่งม้าให้กับทหารอารักขาหน้าประตูนำไปผูกไว้กับเสาหินผูกม้า และเดินเข้าไปในจวนด้วยตนเอง

เขามิได้กลับมาที่จวนอยู่หลายวัน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้ดูแลก็เข้ามาต้อนรับด้วยความกระตือรือร้นราวกับพบญาติสนิทมิตรสหาย

แต่เขากลับเมินเฉย พร้อมตรงไปยังสวนอรุโณทัย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา