ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 363

ฮ่องเต้พยักหน้า “เจ้าพูดถูก หากมิสามารถกำจัดสิ่งที่เรียกว่าเจ้าสำนักอินทรีทองได้ เป็นไปได้ว่าองครักษ์อินทรีจะหวนคืนกลับมาอีก มีเบาะแสอันใดเกี่ยวกับบุคคลนี้หรือไม่”

มู่หรงฉีชะงักไป ก่อนจะส่ายหน้า “ตอนนี้ยังมิมี”

ฮ่องเต้ถอนหายใจ “พูดมาเช่นนี้ แล้วจะเริ่มต้นเยี่ยงไร? เกรงว่ากรมกลาโหมและเจ้ากรมข้าราชการพลเรือนเป็นเพียงแค่ส่วนยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ในบรรดาเจ้าหน้าที่ของข้า จะมีคนถูกพวกมันบ่งการอย่างลับๆ หรือไม่ ก็มิมีผู้ใดบอกได้”

เหลิ่งเซียงเกิดความลังเล “กระหม่อมคิดว่า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มันจะมิดีกว่าหรือถ้าประกาศอาชญากรรมขององครักษ์อินทรีสู่สาธารณชน”

“หมายความว่าเยี่ยงไรรึ?”

“ในเมื่อเจ้าหน้าที่เหล่านี้ถูกองครักษ์อินทรีบีบบังคับ และทำให้ทุกข์ทรมาน ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ตนเองปราถนา พอมาคิดดูว่าพวกเขาเองก็อดรนทนมิไหวที่จะสลัดออกจากการควบคุมขององครักษ์อินทรี พวกเราก็ต้องทำให้องครักษ์อินทรีกลายเป็นหมาจนตรอก เผยแพร่อาชญากรรมการฆ่าปิดปากสู่สาธารณชน

คนเหล่านี้จะต้องตกอยู่ในอันตราย ประการแรกคือกลัวว่าจะถูกองครักษ์อินทรีปิดปาก ประการที่สองกลัวว่าองครักษ์อินทรีจะถูกสังหาร เพราะเรื่องที่พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกับองครักษ์อินทรีจะถูกเปิดโปง ในยามนี้ ฝ่าบาททำเพียงแค่แสดงให้เห็นว่าสามารถลงโทษเบา มิเอาเรื่องกับผู้ที่สารภาพผิด ต้องมีเจ้าหน้าที่เริ่มเข้ามอบตัวและยอมรับผิดเป็นแน่ เช่นนี้ พวกเราถึงจะมีเบาะแสเกี่ยวกับองครักษ์อินทรีเพิ่มมากขึ้น”

“แผนนี้เข้าท่า” ฮ่องเต้รีบออกท่าออกทางยืนยันคำแนะนำของเหลิ่งเซียงทันที

เหลิ่งชิงฮวนเพิ่งจะรู้ว่าบิดาผู้เลอะเลือนของนางมิได้ทำตัวเกียจคร้านมิยอมทำงานอยู่ในท้องพระโรง เป็นไปได้ว่าเขากำลังใช้สมองทั้งหมดไปกับภารกิจของชาติ

ฮ่องเต้ออกคำสั่งเสียงเข้ม “เรื่องนี้จะถูกส่งต่อให้อ๋องฉีกับหลินเฟิงทั้งสองตรวจสอบร่วมกัน เนื้อร้ายก้อนนี้จำเป็นจะต้องกำจัดออกให้เร็วที่สุด”

ทั้งสองน้อมรับคำสั่ง

ฮ่องเต้หันหน้าไปมองและปิดปาก มิให้เหลิ่งชิงฮวนเอ่ยปากใดๆ “เพื่อให้ฉีเอ๋อร์มีสมาธิในการจัดการกับองครักษ์อินทรี ชิงฮวนจะต้องอยู่ในวังต่อไป เพื่อความปลอดภัยด้วย”

นี่มันจับคนรักกันแยกกันชัดๆ เสียสติไปแล้วรึ!

เหลิ่งชิงฮวนมิพอใจเป็นอย่างมาก รู้ดีว่าชายชราผู้นี้แย่มากแค่ไหน จะยกโทษให้ตนง่ายๆ ได้เยี่ยงไร? เขาแสร้งทำเป็นวางตัวเป็นกษัติย์ วางมาดขรึมต่อหน้าผู้อื่น แต่ในความเป็นจริงแล้วมีน้ำเสียอยู่เต็มท้อง จิตใจมิดี มากแผนการ เอาตนมาอาศัยอยู่ในวัง ต่อไปหลังจากนี้ก็ยังมิรู้ว่าจะมุ่งร้ายอันใดตนอีก

มู่หรงฉีต้องรีบกลับไปที่เมืองหลวงให้เร็วที่สุด เขานึกถึงแต่เหลิ่งชิงฮวนเป็นเสือติดจั่น เมื่อได้ยินว่าผู้เป็นบิดาของตนปากอย่างใจอย่าง ในใจก็กลัดกลุ้มเช่นกัน

“เสด็จพ่อ แม้ว่าจวนอ๋องฉีของลูกจะมิได้ป้องกันหนาแน่นเทียบเท่าวังหลวง แต่ตามปกติแล้วพวกโจรย่องเบาจะเข้ามาปะปนกันมันก็มิใช่เรื่องง่ายเช่นกัน”

ฮ่องเต้จะประนีประนอมง่ายๆ ได้เยี่ยงไร “จวนของเจ้าน่ะปลอดภัย แต่พระชายาของเจ้าอาจจะมิปลอดภัย”

นี่คือความจริงที่เหลิ่งชิงฮวนจ้องเขม็งชายชราผู้เป็นฮ่องเต้ ทำปากขมุบขมิบ กลืนคำกลับลงไปอย่างมิพอใจ

มู่หรงฉีทำได้เพียงออกจากวังไปอย่างมิเต็มใจนัก

เหลิ่งชิงฮวนก็ยิ่งกังวล หากรู้ว่าเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก ให้เขาวิ่งไปเล่นกับพวกแม่มดแก่พวกนั้นยังจะดีเสียกว่า ต้องรู้เอาไว้ว่า ในจวนนั้นยังเลี้ยงจิ้งจอกไว้ถึงสองตัว พอตนมิอยู่ ก็จ้องจะกลืนกินมู่หรงฉีทั้งเป็น

ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่าความกลัดกลุ้มในใจ

เมื่อจวนจะถึงเวลาอาหารเย็น ลี่ว์อู๋ส่งนางกำนัลมาอยู่ใกล้ๆ เชิญนางไปที่วังของตน กล่าวว่าฝ่าบาทประทานรางวัลเป็นปูมันเยิ้ม แต่นางกำลังลดน้ำหนัก มิกล้ากินเยอะ ด้วยเหตุนี้จึงเชิญเหลิ่งชิงฮวนไป ในค่ำคืนนี้ก็ค้างแรมกับนางที่นั่น มิได้กลับไปที่ตำหนักเจียนเจีย

เหลิ่งชิงฮวนรีบปรี่ไปทันที มิใช่เพราะตะกละอยากจะกินปูเหล่านั้น เพราะสุดท้ายแล้ว ตอนนี้นางก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ กินมากไปก็มิดีเช่นกัน ประเดี๋ยวนางจะอ้วนเช่นลี่ว์อู๋

ได้ยินมานานแล้วว่า การนอนหลับแล้วได้กอดคนอ้วนท้วนนั้นสบายเป็นอย่างมาก เมื่อเหลิ่งชิงฮวนอยู่กับลี่ว์อู๋ มือปลาหมึกก็อดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่สะกิดเนื้อรอบเอวของนาง วันนี้สัมผัสติดมือได้เป็นอย่าง นึกถึงความอ่อนนุ่มและเกลี้ยงเกลามีน้ำมีนวล สัมผัสนุ่มหยุ่นและอุดมสมบูรณ์ นางยังคงถูมืออย่างมันเขี้ยว มีความตื่นเต้นและความปราถนาเล็กน้อย

มิรู้ว่าเตียงของนางจะรองรับได้หรือไม่

เขาชะงักไปกลางคัน เหตุใดใบหน้าของชิงฮวนถึงใหญ่ปานนี้กันเล่า? อย่างกับขนมต้าปิ่ง

มู่หรงฉีก็ตกใจสะดุ้งโหยงเช่นกัน เปลือกตาสั่นระริก มิใช่เหลิ่งชิงฮวนนี่! การได้มีความสัมพันธ์ลับๆ ในยามวิกาลนั้นเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นจริงๆ ช่างอดใจมิได้เลยเชียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา