ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 390

นักบวชอวิ๋นชิงถูกฮ่องเต้จับเข้าคุกไป ให้การยอมรับสารภาพ จึงสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ ไม่ได้ถูกฮ่องเต้โกรธจนสั่งลงโทษประหาร ตอนนี้ยังคงกินข้าวฟรีอยู่ในคุก

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่มีคุณธรรม แต่ครั้งก่อนเห็นนางสามารถจําหนอนกู่พิษที่ยายหลิงสะกดไว้ได้ ถือได้ว่าเขานั้นยังพอที่จะมีความรู้อยู่บ้าง บวกกับเขาและยายหลิงนั้นรู้จักกันมาอยู่ก่อนแล้ว ฝีมือของยายหลิงนั้นบางทีเขาก็อาจจะพอเข้าใจอยู่บ้างก็เป็นได้?

อย่างที่เรียกว่าป่วยจนวิกฤตก็เลยไปหาหมอมั่วๆ ความหวังริบหรี่ก็ต้องลองดู

วันรุ่งขึ้นเมื่อไปส่งมู่หรงฉี เธอก็ไปที่คุก

ที่นี่ เธอก็เป็นคนเก่าคนแก่ที่คุ้นเคยรู้จักที่นี่ดี เพียงแต่ครั้งที่แล้วเข้าไปอย่างเศร้าหมอง ครั้งนี้กลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง

ผู้คุมไม่กล้าเฉยเมย รีบพาเธอไปที่ห้องขังของนักบวชอวิ๋นชิง

เมื่อนักบวชอวิ๋นชิงเห็นเหลิ่งชิงฮวน ก็นึกว่าเธอจะมาสะสางบัญชีแค้น ก็ตกใจจนรีบคุกเข่าลงกับพื้น เอาหัวโขกพื้น อ้อนวอนให้ไว้ชีวิต

เหลิ่งชิงฮวนก็ไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ พูดเข้าประเด็นทันที “ที่ข้ามาวันนี้ ก็เพื่อที่จะถามเจ้าสองเรื่อง หากพูดความจริงออกมา ข้าจะให้ผู้คุมที่นี่ดูแลเจ้าเป็นอย่างดีแน่นอน”

เมื่อนักบวชอวิ๋นชิงได้ฟัง ไหนเลยจะไม่กล้าพูดล่ะ? ตัวเองไม่มีประโยชน์ ไร้ที่พึ่ง วิธีการทรมานของผู้คุมในนี้ก็รุมเร้าเข้ามาต่อเนื่อง พอเข้าไปในห้องขังก็ถูกล่ามโซ่ไว้ที่หน้าถังอุจจาระ เฝ้าถังอุจจาระที่ส่งกลิ่นเหม็นทุกวัน เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า

“พระชายาแม้ว่าท่านมีคำสั่งให้ถาม ข้าน้อยรู้ก็จะตอบ แต่ถ้าตอบก็จะรักษาชีิวิตไว้ไม่ได้ ครั้งก่อนข้ามีตาหามีแววไม่ ต่อให้ถูกตีจนตายก็ไม่กล้าแล้วขอรับ”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มอ่อน “ข้าถามเจ้าว่า เจ้าสามารถยืนยันต่อหน้าฮ่องเต้ได้อย่างไรว่าหนอนกู่พิษบนตัวของยายหลิงคือแม่นางที่ถูกสะกดที่อยู่กับข้าในวันนั้น?”

อวิ๋นชิงคิดไม่ออกว่าคำถามที่เหลิ่งชิงฮวนถามนั้้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ จึงครุ่นคิดใช้คำอย่างรอบคอบ “เป็ฯเพราะหนอนพิษกู่ของยายหลิงตั้งแต่สะกดจิตไปจนถึงการกัดกินจิตใจคน ไปจนถึงเติบโตทะลุออกมานอกร่างกาย ทั้งหมดก็จะใช้เวลาธูป 1 ดอก ดังนั้นข้าน้อยก็สามารถแน่ใจได้ ว่าหนอนพิษกู่นั้นเพิ่งถูกปล่อยเข้าไปในร่างกายมนุษย์

แต่ตอนที่ข้าน้อยเพิ่งเข้าวังไปพบยายหลิง ยายหลิงก็บอกกับข้าน้อยว่า ครั้งนี้คนที่นักบุญหญิงส่งมาฆ่านางนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเลย ไม่เพียงแต่เล่นไสยศาสตร์ กลับยังเล่นหนอนพิษอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่นักบุญหญิงไม่ถนัด ทำให้นางตกใจเล็กน้อย อีกทั้งวันนี้มีเพียงสาวน้อยกับยายหลิงช่วยกันผลักไส สัมผัสอย่างใกล้ชิด”

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจเบาๆ ที่แท้ตัวเองก็ไม่รู้จักมองคนให้ถ่องแท้ สะเพร่าอย่างมาก พาคนที่มีเจตนาร้ายแอบแฝงเข้าไปในวังหลวง หากวันนั้นในยามคับขันตัวเองคิดหาวิธีการออกมาได้อย่างฉับพลัน ใช้เสียงเด็กร้องไห้รบกวนจิตใจของยายหลิง หากนางทำได้สำเร็จ เกรงว่าฮ่องเต้คงไม่อาจไว้ชีวิตตัวเองได้ ขังคุกไม่กี่วันคงไม่ใช่เรื่องง่าย

“ข้ามีเรื่องจะถามเจ้าอีกข้อหนึ่ง เจ้าสามารถเข้าใจคาถาคุมจิตของยายหลิงไหม?”

“รู้เพียงเล็กน้อยขอรับ ทว่าพระชายาท่านเองก็รู้ดี ข้าน้อยเป็นชายต่ำต้อยที่เที่ยวเร่ร่อนหลอกลวงผู้อื่น เข้าใจเพียงแค่กลอุบายง่ายๆ พอใจเข้าแต่ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิธีการนี้ขอรับ”

“งั้นเจ้าก็คงจะรู้จักยายหลิงมาก่อน รู้หรือไม่ว่านางถ่ายทอดคาถาคุมจิตให้องค์หญิงจิ่นอวี๋?”

อวิ๋นชิงพยักหน้า “เรื่องนี้กลับคาดเดาสถานการณ์ภายในได้นิดหน่อย ข้าน้อยเห็นยายหลิงตาทั้งสองข้างผิดปกติ จึงถามหาสาเหตุ ยายหลิงถูกนักบุญหญิงไล่ฆ่ามาโดยตลอด ในวังหลวงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในการซ่อนตัว เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองจากองค์หญิงจิ่นอวี๋ จึงถ่ายทอดวิชาคาถาคุมให้กับนาง เพราะว่าก่อนที่จะฝึกซ้อมคาถาคุมจิตเสร็จจะได้รับการเผาไหม้อย่างรุนแรง ดังนั้นยายหลิงจึงใช้วิชาปิดตาผีกับองค์หญิงจิ่นอวี๋ จึงทำให้องค์หญิงจิ่นอวี๋สูญเสียการมองเห็นนั่นเอง”

ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้เอง! เหลิ่งชิงฮวนตกใจ รีบถามต่อทันที “ข้าใช้น้ำตาวัวและน้ำต้นหลิวทำลายผีบังตาของนาง ตอนนี้นางฟื้นตัวแล้ว คาถาคุมจิตได้รับการฝึกฝนจนสำเร็จแล้วใช่ไหม?”

“น้ำตาวัวและน้ำต้นหลิว?” นักบวชอวิ๋นชิงประหลาดใจเล็กน้อย “วิธีนี้ใครเป็นคนสอนพระชายาหรือขอรับ?”

“แม่นางคนที่เจ้าระบุตัวว่ายายหลิงสะกดพิษเอาไว้น่ะ” เหลิ่งชิงฮวนไม่ปิดบัง

“วิธีนี้สามารถทำลายผีบังตาได้จริงอยู่ แต่ก็มีรุนแรงมาก หากในช่วงแรกไม่สามารถมองเห็นแสงได้เลย สามารถทำลายดวงตาขององค์หญิงจิ่นอวี๋ได้ ถึงแม้ต่อมาในภายหลัง ก็สามารถทำให้นางได้รับบาดเจ็บได้”

เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงปฏิกิริยาที่รุนแรงของจิ่นอวี๋ในวันนั้น ที่แท้ไม่ได้เป็นการเสแสร้ง แต่ทำให้ดวงตาของนางได้รับบาดเจ็บจริงๆ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา