ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 392

ทันทีที่จิ่นอวี๋ได้ยินคำชี้นำนี้ ก็รู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงมาทันที นี่ไม่เป็นการปล้นอย่างโจ่งแจ้งไปหน่อยหรือไง?

ตนเองผ่านความยากลำบากและเสี่ยงชีวิตมามากมาย ไม่ง่ายเลยที่จะดูแลอำพันชิ้นนี้ มีมันอยู่ เช่ือว่าการรักษาตาก็จะยิ่งเร็วขึ้น อย่างนั้นตนเองก็ยังมีความหวังทำให้คนสับสน อยู่ที่ฉางอันต่อไปได้

เหลิ่งชิงฮวนสังเกตเห็นได้ยังไงว่าตัวเองมีอําพันแบบนี้? อีกทั้งยังจงใจวางกับดักขโมยมันไป หรือว่านางรู้วิธีการใช้ประโยชน์จากอำพันนี้? นางรู้ได้ยังไงกันนะ? หรือว่าเป็นอย่างที่ยายหลิงพูดไว้ รอบตัวมีผู้เก่งกาจปกป้องไว้ไม่ได้?

นางต้องการบีบให้ตัวเองจนตรอก รังแกคนมากเกินไปแล้ว!

เธอคิดฟุ้งซ่าน เพราะร้อนตัว แน่นอนว่าไม่กล้าเผชิญหน้ากับเหลิ่งชิงฮวนและฮ่องเต้ ยิ่งไม่กล้าขัดขืนคําสั่ง ทำได้เพียงยกอําพันไว้ให้อย่างเชื่อฟังในใจย่อมเกลียดชังจนกัดฟันหักเล็บที่ยาวถึงฝ่ามือ เกลียดเหลิ่งชิงฮวนจนสามารถที่จะสับเป็นชิ้นๆได้ทันที

ขันทีผู้น้อยนำอำพันกลับไปรายงานถวาย ฮ่องเต้มอบมันใส่มือเหลิ่งชิงฮวนอย่างน่าเชื่อถือ ถามอย่างจริงจัง “ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเสร็จ?”

เหลิ่งชิงฮวนมองอําพันนั้นอย่างระมัดระวัง ธรรมดามาก คนธรรมดามองไม่เห็นหนทางอะไรเลย ลูกตากรอกไปมา “ช่วงนี้หม่อมฉันยุ่งอยู่กับการเตรียมสินเดิมให้องค์หญิงจิ่นอวี๋เพคะ ไม่ค่อยมีเวลาว่าง อย่างไรเสีย ก่อนที่องค์ชายอันต๋าจะเสด็จกลับมั่วเป่ย จะต้องทำเสร็จอย่างแน่นอนเพคะ”

ฮ่องเต้ร้อนใจ มีเพียงสองทางเลือก ทางเลือกแรกก็คือสินเดิมนั้นเหลิ่งชิงฮวนไม่ต้องจัดเตรียมแล้ว

อีกทางเลือกหนึ่ง คือให้องค์ชายอันต๋าเสด็จกลับมั่วเป่ยโดยเร็วที่สุด

เขาคิดๆดูแล้ว ยอมรับว่าเหลิ่งชิงฮวนใช้สิ่งนี้มาบีบเขา ยอมเสียเงินไม่ได้ ดังนั้นลยทําให้เธอสมหวังได้ ทำได้เพียงพูดเลี่ยงเร่งรัดองค์ชายอันต๋า กำหนดวันมงคลที่จะเดินทางกลับมั่วเป่ยโดยเร็ว

ออกจากห้องทรงพระอักษรมา เหลิ่งชิงฮวนมองท้องฟ้า เวลาจวนจะใกล้เที่ยงแล้ว

ข้าหลวงในวังบอกกับเธอว่า มู่หรงฉีมีธุระเลยต้องออกจากวังหลวงกลับไปที่ค่ายทหารก่อน ให้นางนั่งรถกลับจวนท่านอ๋องเอง

มู่หรงฉีไม่อยู่ที่จวน เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่ากลับไปก็ไม่มีอะไร จึงตัดสินใจไปที่หอหงปิน ไปหาโฉวซือเส่า ไปถามว่ามีข่าวคราวของน่าจาอี๋นั่วบ้างไหม

ตอนนี้เวลาเธอออกไปข้างนอก จะต้องมีทหารอารักขาไปส่ง โตวโตวประกบอยู่ข้างกาย ไม่สามารถทิ้งห่างได้ ดังนั้นการลดจำนวนคนที่จะตามไปหอหงปิน ยากที่วันนี้ข้างกายจะไม่มีหาง

ตอนนี้เป็นเวลารับประทานอาหารกลางวันพอดี

มาถึงหอหงปิน ก็มองหาห้องส่วนตัวนั่งพัก อาหารยังไม่ครบ โฉวซือเส่าก็ผลักประตู เดินเรื่อยเฉื่อยเข้ามา

“เป็นครั้งแรกที่เจ้าเป็นฝ่ายมาหา ทำให้ข้านั้นประหลาดใจเล็กน้อย”

เหลิ่งชิงฮวนเก็บอำพันก้อนนั้นที่กำลังเล่นอยู่ในมือ “พูดให้มันน้อยลงหน่อย วันนี้ข้าเลี้ยงเหล้าเจ้าเอง ตอบแทนที่เจ้าส่งดาบที่ข้าสั่งไปทำความสะอาดให้ เวลานี้มันช่วยข้าได้มากเลยทีเดียว”

“มาเลี้ยงข้าวข้าที่โรงเหล้้าของข้าเนี่ยนะ เจ้ามีความจริงใจบ้างไหมน่ะ? อย่างน้อยไปที่เรือนหลิงหลางหรือหอฝูเซิงก็ได้ หาสาวงามสองสามคนมาดื่มเป็นเพื่อน”

โฉวซือเส่านั่งอยู่ตรงหน้าเธอ “อีกอย่างนะ พวกเราสองคนก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนั้น ครอบครัวใครกันแน่ที่แตกแยกกันขนาดนี้นะ?”

เหลิ่งชิงฮวนเหลือบมองเขา ปล่อยให้เขาพูดมาก ไม่ได้โต้แย้งกลับอะไร รินเหล้าใส่แก้วที่อยู่ตรงหน้าเขา

“ตั้งใจที่จะอยู่เมืองหลวงกี่วัน?’

“ไม่ว่ายังไง ก็รอให้ลูกชายของข้าคลอดมาก่อนแล้วกัน เห็นเจ้าแล้วเหมือนลูกเป็นโง่เลยนะ คงใกล้คลอดแล้วล่ะสิ?”

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า “อีกประมาณเดือนกว่าน่ะ”

“นานขนาดนนั้นเลย? เร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไง? เวลาของพ่อเขาเป็นเงินเป็นทองนะ ช้าไปตั้งเดือนกว่าข้าทำเงินได้ตั้งเท่าไหร่แล้ว?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา