ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 40

ตั้งแต่วันที่สองเป็นต้นมา ที่หน้าประตูจวนอ๋องฉีก็ครึกครื้นกันเป็นอย่างมาก สมาชิกในครอบครัวของคุณชายเสเพลที่ได้รับการสอนบทเรียนเมื่อวานนี้มาขอพบเพื่อขอโทษมู่หรงฉี โดยหวังว่าเขาจะไว้ชีวิตบุตรชายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวของพวกเขา

เหลิ่งชิงฮวนนี่ก็เพิ่งได้ยินถึงความน่ากลัวของค่ายพยัคฆ์สิงห์จากปากแม่นมเตียว สามคำนี้ไม่ได้ใช้เพียงเพื่ออธิบายและกระตุ้นทหารในค่ายให้พวกเขารวดเร็วและดุร้ายดุจสัตว์ป่าแบบนั้น แต่ในค่ายพยัคฆ์สิงห์นั้นได้กักขังสัตว์ป่าที่ดุร้ายไว้จริงๆ

อยากหลบหนีออกมาจากในนั้น ก็จำเป็นจะต้องผ่านการฝึกฝนที่โหดร้าย ถึงจะสามารถหลบหนีจากกรงเล็บของสัตว์ร้ายได้สำเร็จ เป็นทั้งการฝึกฝนและลงโทษคนไปในตัว

เหล่าคุณชายเจ้าสำราญที่เข้าไปในค่ายพยัคฆ์สิงห์ ถึงแม้จะไม่ตายแต่ก็ถูกถลกหนัง

สมาชิกในครอบครัวของคุณชายเหล่านี้ไม่กล้าขอให้มู่หรงฉียกโทษให้กับความผิดที่พวกเขากระทำ เพียงแค่ขอร้องให้ไว้ชีวิตที่ บังอาจทำให้พระชาเอกของอ๋องฉีขุ่นเคืองใจ ไม่เรียกว่ารนหาที่ตายแล้วจะเรียกว่าอะไร

ไม่มีคนจากจวนของรองมหาเสนาบดีมา เหลิ่งชิงฮวนคาดการว่า ใต้เท้ารองเสนาบดีจะต้องแอบทำงานให้กับกลุ่มชาตินิยม ตามจินซื่อให้มาออกหน้า และให้เหลิ่งชิงหลางแทรกแทรงราชกิจของมู่หรงฉี

กล่าวคือหลังจากพักผ่อนได้สองวัน ก็มีบัตรเชิญที่เหมือนกับเกล็ดหิมะถูกส่งไปยังจวนอ๋องฉี ชื่นชมดอกไม้ จิบชา ลิ้มรสอาหารเลิศรสทุกชนิดที่เลื่องชื่อ ทั้งหมดล้วนเชิญให้เหลิ่งชิงฮวนไปเข้าร่วมงานเลี้ยงที่จวนต่างๆ

เหลิ่งชิงฮวนมองหาจุดที่สามารถทำให้จวนมหาเสนาบดีล้วนแสดงการประจบสอพลอในพบเจอกับเรื่องลำบากมากๆ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นจากสุราและเนื้อสัตว์ ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริง ดังนั้นตนเองจึงไม่ควรยึดติด

และสิ่งที่น่าสยดสยองมากที่สุดก็คืออาจจะได้รับอิทธิพลจากซุปทองคำเหลืองอร่ามในวันนั้น เธอเริ่มมีอาการแพ้ท้องแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้า เธอรู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียน ทานอะไรไม่ลง

เธอระมัดระวัง ไม่กล้าให้แม่หวังและแม่นมเตียวเห็นเบาะแส พวกคนเก่าคนแก่เหล่าหูตาว่องไว หากตนเองมีพิรุธ พวกนางอาจจะสงสัยได้

สถานการณ์แบบนี้ต้องไม่อนุญาตให้เธอออกไปร่วมงานเลี้ยงอย่างแน่นอน

เจ้าของร่างเดิมอ่อนแอแบบนี้ หากเป็นของที่ทานเข้าไปไม่ได้ ก็จบสิ้นแล้ว แล้วเมื่อไรถึงจะแข็งแกร่งขึ้นมาได้

เธอลังเลอยู่เป็นวัน ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ ค้นหายามิฟีพริสโตนกับยาทำแท้งชนิดอื่นที่คลังในแหวน ผลลัพธ์ที่เธอได้ก็คือ ไม่มี

ในช่วงแรกๆ ผู้บริหารระดับสูงได้จัดงบเพื่อวิจัยแหวนนี้ หลักๆ ก็คือเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลในสนามรบ สามารถใช้เป็นโรงพยาบาลเคลื่อนที่ขนาดเล็กได้ ดังนั้นภายในจึงมีสิ่งอำนวยสะดวกเพื่อตรวจเช็คและการจัดเก็บยาที่ล้ำหน้า รวมถึงการรักษาอาการปวดประจำเดือนและคลอดบุตรล้วนมีทั้งหมด แต่ว่า! ยาทำแท้งไม่มีในสนามรบน่ะสิ!

นี่คือการบังคับตัวเองให้ดื่มยาขมๆ? เหลิ่งชิงฮวนอยากจะร้องไห้แต่ไร้น้ำตา ลังเลอยู่พักหนึ่งแต่สุดท้ายก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรม

ระหว่างทางที่กลับมาจากการส่งยาให้กับเหล่าไท่จวิน เธอก็ย้อนกลับไปยังร้านยาสมุนไพร ไม่เพียงแต่เลือกส่วนผสมของยาที่ตนเองต้องการเท่านั้น แต่เพื่อตบตาคนอื่น เธอยังสุ่มหยิบยาอื่นๆ ที่ใช้กันโดยทั่วไปมาอีกด้วย และนำกลับมาสองสามห่อ

ยาเคี่ยวดีแล้ว ทั้งยังเย็นแล้วด้วย ยาสีดำในชามใหญ่ เมื่อกลิ่นโชยเข้าจมูกก็รู้สึกได้ถึงความขม เธอกลั้นหายใจแล้วดื่มไปสองอึก ผลก็คือเมื่อกลืนเข้าไปถึงในลำคอ ก็รู้สึกคันยุบยิบในคอ จนอาเจียนออกมาทั้งหมดอีกครั้ง

จึงปิดตาดื่มอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ดื่มเข้าไป ก็รู้สึกคลื่นไส้จนอาเจียนออกมา

เธอลูบหน้าท้องอันแบนราบของเธอ ชั่วขณะนั้น ใจก็อ่อน ที่นี่ ก็ได้ให้กำเนิดชีวิตน้อยๆ แล้ว เชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของตนเอง เป็นไปได้ว่า เขาสังเกตเห็นว่าคนเป็นแม่ต้องการทิ้งเขาไป ดังนั้นจึงพยายามดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

ความรักของคนเป็นแม่ซ่านอยู่ในใจเธอ เป็นระลอกคลื่นเล็กๆ

นอกจากพี่ชายแล้ว บนโลกใบนี้เขาก็คือคนที่สนิทกับเธอมากที่สุดแล้ว ในอนาคต หากว่าตนเองยังมีอนาคต เขาและเธอก็จะต้องพึ่งพากันและกัน และเขาก็เป็นทายาทของเธอ

คนที่เกลียดคือเหลิ่งชิงหลาง ยังมีชายที่ฉวยโอกาสล่วงเกินเธอในตอนนั้น เด็กคนนี้ไร้เดียงสา

เธอถึงกับทิ้งยาที่เหลืออยู่ทันที หลับตาและครุ่นคิดอยู่นาน ถ้าปล่อยเด็กคนนี้ให้มีชีวิตอยู่ ตนเองยังจะมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแค่ไหน

สามวันหลังจากนั้น ที่จวนท่านเคาทต์ เพื่อที่จะแสดงความขอบคุณต่อเธอ จึงสั่งให้คนส่งยาเม็ดหนิงเซียงมาให้กล่องนึง

คนเฝ้าประตูบอกคนที่มีหน้าที่ซื้อของ คนๆนี้ก็ไปบอกพ่อครัวต่อ พ่อครัวก็บอกกับเด็กสาวรับใช้ เด็กสาวคนนี้ก็ไปบอกสาวใช้วัยกลางคนต่อ ดังนั้นคนเกินครึ่งในจวนอ๋องจึงรู้เรื่องนี้

ยาเม็ดหนิงเซียง! เป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่มีเอกลักษณ์ในตำนาน ถึงมีเงินทองมากมายก็หาซื้อไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงตื่นตาตื่นใจขนาดนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่ก็เป็นไมตรีจิตจากจวนท่านเคานต์ด้วย คนในจวนก็มองดูตาปริบๆ หากตนเองจัดการอย่างสะเพร่า ก็จะถูกพวกปากยืดปากยาวแพร่ข่าวออกไปว่าตนเองไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี

เธอไม่ได้สนใจยาเม็ดหนิงเซียงนี่ แต่ว่ามีคนชอบ เหลิ่งชิงหลางได้ยินเรื่องนี้ ก็รู้สึกอึดอัดมาก อยากจะแย่งมาเป็นของตัวเองทันที แต่เปิดปากพูดไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่กล้าไปยั่วยุเหลิ่งชิงฮวนด้วย

มู่หรงฉีกลับจวนในตอนค่ำ เหลิ่งชิงหลางจึงให้จือชิวเชิญเขามาที่เรือนจื่อเถิง

"ได้ยินมาว่าท่านพี่ได้ยาเม็ดหนิงเซียงมากล่องนึง แต่กลับไม่ได้คิดมันพิเศษแต่อย่างใด และโยนมันเข้าไปในห้องเก็บของ"

มู่หรงฉีไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย เหลิ่งชิงฮวนเป็นหมอ ยาแบบนี้น่าจะไม่ได้สำคัญอะไร

เหลิ่งชิงหลางใช้คำพูดอย่างระมัดระวัง " ได้ยินว่ายาเม็ดหนิงเซียงเป็นยาที่ใช้เพื่อฝึกตนจนเป็นเซียน มีโรคก็ช่วยให้หายดี ไม่มีโรคก็ยิ่งจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และจิตวิญญาณจะใสบริสุทธิ์ดุจเทพเซียน เพราะท่านพ่อของหม่อมฉันทำงานหนักเพื่อชาติบ้านเมือง จนมักจะปวดหัวอยู่บ่อยๆ วิงเวียนศีรษะจนลุกขึ้นไม่ไหว หม่อมฉันกังวลใจมาโดยตลอด จึงได้รวบเงินจำนวนมากเพื่อหาซื้อยาชนิดนี้มานานแล้ว แต่ก็หาซื้อไม่ได้มาโดยตลอด จึงอยากจะขอร้องท่านพี่แต่ปากกลับพูดออกไปไม่ได้"

มู่หรงฉีเหม่อลอย "นี่ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร นางเป็นบุตรี การเคารพเชื่อฟังบิดาเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว"

"แต่ท่านพี่ไม่ชอบหม่อมฉันมาโดยตลอด หากรู้ว่าหม่อมฉันต้องการ บางทีอาจจะไม่อยากมอบให้หม่อมฉัน หม่อมฉันเองก็ใช่ว่าจะอยากให้ใครมาดูแคลนนะเพคะ?"

มู่หรงฉีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "เช่นนั้นก็ให้ข้าเจรจากับนาง ก็แค่ยากล่องเดียวเท่านั้น จะเทียบได้กับสุขภาพของเสนาบดีเหลิ่งได้อย่างไร"

เหลิ่งชิงหลางแอบภูมิใจอยู่ในใจ นางแอบขยิบตาให้กับจือชิวที่รออยู่ด้านข้าง

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ทำตัวอวดฉลาดเป็นอย่างมาก ขนาดคนรับใช้ในจวนอ๋องยังโอนอ่อนไปตามสถานการณ์ ให้ความเคารพต่อนาง พอดีเลยวันนี้จะได้ใช้ข้ออ้างนี้ให้นางเอายาเม็ดหนิงเซียวมาให้ จะได้เป็นการสั่งสอนให้พวกบ่าวรับใช้ในจวนรู้ว่า คนที่เป็นที่โปรดปรานมากที่สุดแท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่

จือชิวเข้าใจได้ในทันที "บ่าวจะไปเชิญพระชายาเอกมาเดี๋ยวนี้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา