ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 41

ก็แค่ความสามารถเล็กน้อยเท่านั้น เหลิ่งชิงฮวนจึงพาโตวโตวมาที่เรือนจื่อเถิง

ครั้งก่อนที่ทะเลาะกันขึ้นมาอย่างกะทันหันก็ผ่านไม่ได้เห็นหน้ามาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าวันนี้ต้องการอะไรถึงได้มาทำเป็นรักใคร่ห่วงใย

เธอหยุดฝีเท้าที่หน้าประตูเหลือบตามองจือชิวที่เดินอยู่ด้านหน้าก่อนจะกระแอม “ได้ยินว่าท่านอ๋องชอบสีเขียวมาก เป็นอย่างที่คิดลานหน้าประตูเรือนมิได้ปลูกดอกไม้พืชพันธุ์ที่ดึงดูดผึ้งและผีเสื้อ แต่ปลูกไม้เถาสีเขียวนี้เป็นพิเศษ กลับไปข้าจะตัดกระโปรงสีเขียวมาใส่เสียหน่อย”

โตวโตวรู้สึกประหลาดใจ คุณหนูของเธอเริ่มแย่งชิงความโปรดปรานตั้งแต่เมื่อไรกัน

จือชิวกลับเบือนหน้าไปมองชั้นวางดอกจื่อเถิง ดวงตาของนางเป็นประกายมีความรู้สึกบางอย่างที่แปลกจากปกติตีขึ้นมา

เมื่อเข้าไปในเรือนมู่หรงฉีก็เข้าประเด็นทันทีอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง “ได้ยินว่าวันนี้จวนท่านเคาท์ส่งยาเม็ดหนิงเซียงมาให้เจ้า”

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า “เรื่องเล็กเช่นนี้ท่านอ๋องรู้ด้วยหรือเพคะ”

“ได้ยินชิงหลางพูดว่ามหาเสนาบดีเหลิ่งมักจะมีอาการปวดหัว ยาเม็ดหนิงเซียงนี้มีผลในการรักษาโรคได้”

“ท่านอ๋องหมายความว่าให้หม่อมฉันยอมหลีกทางหรือเพคะ”

มู่หรงฉีพยักหน้า “ในฐานะบุตรี แค่ยาเม็ดหนิงเซียงกล่องเดียวข้าคิดว่าเจ้าคงไม่ตระหนี่หรอกใช่ไหม”

“ท่านพ่อของหม่อมฉันชุบเลี้ยงนางสนมไว้ตั้งสามเรือน เขาแข็งแรงกว่าท่านอ๋องด้วยซ้ำจะต้องการยาเม็ดหนิงเซียงไปทำไม หากน้องสาวอยากกินก็พูดมาตามตรง ไม่เห็นต้องพูดจาวกไปวนมาเช่นนี้”

เหลิ่งชิงหลางถูกพูดแทงใจดำ “ท่านพี่เข้าใจผิดแล้ว ข้าเพียงแค่ได้ยินว่าท่านพี่ไม่ต้องการจึงมาขอร้องแทนท่านพ่อ หากท่านพี่ไม่ยินยอมก็ช่างเถอะ”

คำพูดนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังเปรียบเทียบระหว่างนางสองคนว่าเหลิ่งชิงฮวนอกตัญญู ของที่ไม่ต้องการกลับไม่ยอมยกให้พ่อของตน

เหลิ่งชิงฮวนระบายยิ้มบางๆ “ไม่ใช่ว่าข้าไม่ยอม แต่ยาเม็ดหนิงเซียงนี้มิใช่ของดีอะไร หนำซ้ำยังเป็นพิษอะไรที่ไม่ชอบก็จงอย่าทำใส่ผู้อื่น จะให้ข้ามอบให้ท่านพ่อได้อย่างไร”

เหลิ่งชิงหลางหัวเราะ “คนที่ใช้ยาเม็ดหนิงเซียงมีเยอะแยะไป อีกทั้งยังเป็นของขวัญที่จวนท่านเคาท์มอบให้ท่านอ๋อง หากท่านพี่ไม่อยากให้ก็เอ่ยมาตามตรง อย่างนี้จะได้ไม่เจตนาทำให้ผู้ฟังตกอกตกใจหรอกใช่ไหม”

“ข้าเป็นหมอก็ย่อมชำนาญในการแยกแยะยา อยากได้เท่าไรข้าก็สามารถหลอมออกมาได้จะเสียดายไปทำไมล่ะ? หากมิใช่ว่าเป็นน้ำใจจากจวนท่านเคาท์ข้าก็คงโยนทิ้งไปนานแล้ว เจ้าเชื่อไหม? “

เหลิ่งชิงหลางเหลือบมองมู่หรงฉี “ข้าว่าแล้วว่าท่านพี่ต้องทิ้งไม่ยอมยกให้ท่านพ่อ ท่านอ๋อง ช่างเถอะเพคะ”

เวรเอ๊ย มือยุยงอันดับหนึ่ง บัวขาวแห่งเมืองหลวง เหลิ่งชิงหลาง

มู่หรงฉีมองเหลิ่งชิงฮวนอย่างเย็นชา “ยาเม็ดหนิงเซียงนี้เป็นที่แพร่หลายในฉางอันเมื่อสองสามร้อยปีก่อนแต่ก็ไม่มีหมอคนไหนที่สามารถจำแนกส่วนประกอบของยาได้ แต่พระชายาของข้าเก่งจริงๆ ถึงได้มองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าคือยาพิษ”

คำพูดนั้นเต็มไปด้วยการเสียดสีและมีความนัย

“พอเท่านี้เถอะเพคะ หากท่านอยากตายหม่อมฉันก็จะไม่ห้าม”

มู่หรงฉียกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว “หนึ่งพันสองร้อย”

“เพคะ? “

“ข้าขอซื้อยาเม็ดหนิงเซียงหนึ่งพันสองร้อยตำลึง”

เหลิ่งชิงฮวนหรี่ตา “ท่านอ๋องยอมใช้เงินเป็นพันตำลึงเพื่อเอาใจน้องสาวของหม่อมฉันช่างน่าซาบซึ้งจริงๆ แต่ว่าข้าไม่สนใจเงินหนึ่งพันสองร้อยตำลึงของท่านหรอกเพคะ”

“สองพัน”

เหลิ่งชิงฮวนที่หันหลังเดินไปตาเป็นประกาย

“สามพัน”

“ห้าพัน ห้ามขาดแม้แต่ตำลึงเดียวเพคะ”

“อีกประเดี๋ยวข้าจะสั่งให้คนเอาเงินมาให้เจ้า”

การซื้อขายครั้งนี้เธอไม่เสียเปรียบเลยสักนิด มีเงินแล้วไม่ใช่น่ะมันคนโง่ ค่านมลูกของเธอในอนาคตก็พอจ่ายแล้ว

พวกเขาสองคนคิดจะทดสอบจริยธรรมทางการแพทย์และมโนธรรมของเธอ แต่ประทานโทษ เพื่อเงินแล้วเธอไม่สนความผิดชอบชั่วดีหรอก

ก็แค่ยาเม็ดหนิงเซียงกล่องเดียวที่เหมือนกับซูดานเรดหรือน้ำมันในท่อระบายน้ำในปัจจุบัน ความเป็นพิษของมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณ ที่พูดไปน่ะหลอกลวงทั้งนั้นกินไปก็ไม่ตายหรอก

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มร่า “ดีล”

โตวโตวที่อยู่ด้านหลังร้อนรนคิดว่าคุณหนูของนางเดี๋ยวโง่เดี๋ยวฉลาด เดิมทีเงินทองของท่านอ๋องก็เป็นของนางอยู่แล้ว นี่มันเหมือนกับโดนหลอกเอายาเม็ดหนิงเซียงไปชัดๆ ถือเป็นการขาดทุนครั้งใหญ่

มู่หรงฉีมองนางอย่างรังเกียจก่อนจะยิ้มเยาะ “หน้าเงิน”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มรับคำเย้ยหยันของเขา “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ชื่นชมเพคะ หากน้องสาวกินแล้วรู้สึกว่ารสชาติใช้ได้ก็สามารถมาหาข้าได้ ข้าจะลดให้เจ้ายี่สิบเปอร์เซ็นต์”

“เพื่ออะไรแบบนี้เจ้าถึงกับต้องสร้างเรื่องโกหกว่าเป็นยาพิษ ไม่เหนื่อยหรือ? หากเป็นยาพิษจริงๆ เจ้าคงจะรีบมอบให้ข้าโดยไม่คิดเงินเลยกระมัง”

คำพูดนั้นเป็นเรื่องจริง เหลิ่งชิงฮวนมีความคิดเช่นนี้มานานแล้ว เพียงแค่รู้สึกว่าการใช้ความรู้ทางการแพทย์มาฆ่าคนนั้นไม่ใช่อุดมการณ์แรกเริ่มเมื่อเธอเริ่มเรียนสายนี้ ถ้ารู้ว่าบุรุษผู้นี้จะปากคอเราะรายเช่นนี้เธอคงไม่แสร้งทำตัวเช่นนี้อยู่ครึ่งค่อนวันหรอก

แม้ในใจจะคิดเช่นนั้นแต่เหลิ่งชิงฮวนยังคงพูดด้วยท่าทางจริงจัง “คำพูดที่ซื่อตรงมักไม่น่าฟัง ล้อเล่นมาก็ล้อเล่นกลับ แต่ต้องขอเตือนน้องสาวไว้ก่อนว่ายาเม็ดหนิงเซียงนี้เป็นยาพิษจริงๆ เพียงแต่ปริมาณไม่มาก ทำให้พิษออกฤทธิ์ช้า กินไม่กี่เม็ดก็ไม่เป็นอะไรเพียงแต่อย่ากินเยอะ”

“ท่านพี่ ท่านอ๋องก็แค่เอ็นดูข้า แต่ข้าเสียดายเงินห้าพันตำลึง”

ไม่เป็นที่ชื่นชอบแล้วยังจะแส่เข้าไปยุ่งเรื่องชาวบ้านอีก

“เช่นนั้นข้าจะให้แม่หวังนำยามาส่งให้น้องสาว หวังว่าท่านอ๋องจะรักษาสัญญานะเพคะ”

มู่หรงฉีก้มหน้าไม่มองหน้านาง “ก็แค่เงินห้าพันสองร้อยตำลึง”

เหลิ่งชิงฮวนยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมา “ห้าพันสองร้อยตำลึงก็เพียงพอที่จะซื้อหอวสันต์เมามายได้ ใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างคนเมาหนึ่งเดือนแล้ว แต่น้องสาวคนเดียวก็สามารถคุมราคาป้ายแดงของหอวสันต์เมามายได้ ท่านอ๋องช่างสุรุ่ยสุร่ายเสียจริง”

เมื่อวางระเบิดเสร็จเธอก็รีบโกยหนีทันที มือยกชายกระโปรงขึ้นมาก่อนจะกระโดดโลดเต้นเหมือนกระต่าย

เหลิ่งชิงหลางโมโหจนกระทืบเท้า “ท่านพี่พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ? “

มู่หรงฉีลุกขึ้นในใจรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ทั้งๆ ที่วันนี้เขาเป็นฝ่ายชนะแต่ทำไมเมื่อเห็นสตรีนางนั้นจากไปด้วยท่าทางพอใจกลับรู้สึกเหมือนตนเองเสียเงินห้าพันสองร้อยตำลึงเพื่อซื้ออุจจาระอย่างนั้นแหละ

เขาหันหน้าไปมองเหลิ่งชิงหลางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความรู้สึกลังเลในใจ “ได้ยินว่านักพรตในยุทธภพเป็นผู้หลอมยาเม็ดหนิงเซียงนี้ บางทีมันอาจจะเป็นอย่างที่นางพูด อีกทั้งยังเป็นยาใช้ดับกระหาย หากไม่ใช่เพื่อรักษาโรคเจ้าก็อย่าใช้มันโดยประมาทแล้วกัน”

เมื่อพูดจบขายาวก็ก้าวออกไปทันที

เหลิ่งชิงหลางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็ยังคงรู้สึกพอใจ มู่หรงฉียอมเสียเงินพันตำลึงเพื่อแลกกับรอยยิ้มของนาง นั่นหมายความว่าในใจของเขานั้นนางก็มีความสำคัญ

เมื่อคิดดังนั้นก็รู้สึกสบายใจ ไม่คิดจะฟังคำเตือนของเขา รอแม่หวังนำยาเม็ดหนิงเซียงมาให้ก็รีบใช้ทันที นางเพียงแค่รู้สึกว่าตนเองสวยขึ้นทุกวัน ขอเพียงแค่ในใจของมู่หรงฉีมีแต่นางต่อให้ถูกพิษก็คุ้มค่า

มู่หรงฉีไม่ผิดคำสัญญา เขารีบสั่งให้คนจวนนำเงินไปมอบให้นางทันที

นี่คือเงินก้อนแรกที่เธอหามาได้ในยุคนี้ ดังคำกล่าวที่ว่าเมื่อมีเงินมากๆ ก็จะมีความมั่นใจที่จะลงหลักปักฐานกับอนาคตของลูก

มู่หรงฉีอยู่ที่จวนไม่บ่อยนักเพราะเขามักจะไปที่ค่ายทหาร เวลาว่างตอนอื่นท่านอ๋องก็มักจะเล่นสุนัขเล่นนกประลองจิ้งหรีดหรือไม่ก็ดื่มเหล้าเล้าโลมสตรี มีเพียงเขาที่ยุ่งจนไม่มีเวลาร่วมหอหรืออาจเป็นเพราะเขาไม่อยากเห็นใบหน้างดงามจนมัจฉาจมวารีของเธอ

เป็นอีกสองวันที่สงบสุข

ประตูจวนถูกเปิดออก จือชิวที่สวมกระโปรงสีเขียวเดินถือตะกร้าเข้ามาอย่างเย่อหยิ่ง เมื่อเห็นโตวโตวที่กำลังนั่งปอกถั่วลิสงอยู่ก็เชิดหน้าชูคอ “คุณหนูของเจ้าล่ะ”โตวโตวทนไม่ได้ที่จะเห็นใบหน้าเช่นนั้นของจือชิวจึงเอ่ยกระแทกเสียง “พระชายาของพวกเรากำลังพักผ่อนอยู่”

จือชิวกระแอมเบาๆ “ลิ้นจี่ที่วังหลวงส่งมาให้ล้วนถูกขนส่งมาจากทางใต้ด้วยม้าเร็วจึงยังคงสดใหม่ ท่านอ๋องนำมันไปให้คุณหนูของข้าหมดแล้ว คุณหนูของข้าเห็นว่ามันมากไปกินไม่หมดจะทิ้งก็เสียดาย จึงให้ข้านำมาให้คุณหนูใหญ่ ถือเป็นการตอบแทนเรื่องยาเม็ดหนิงเซียง”

โตวโตวโยนถั่วลิสงในมือกลับลงไปในถ้วย “ขอบพระทัยน้ำใจของชายารอง วันนี้พระชายาของข้าได้รับสิ่งของมากมาย อย่าว่าแต่ผลไม้เลย โสมกับรังนกพันธุ์ดีก็ไม่มีขาด เจ้านำกลับไปเถอะ”

จือชิวคล้องตะกร้าไว้กับแขนก่อนจะหยิบลิ้นจี่ออกมาหนึ่งลูกยื่นไปตรงหน้าโตวโตว “นี่คือสนมยิ้ม มันถูกแช่ในน้ำแข็งและส่งเข้ามาเป็นเครื่องบรรณาการโดยเฉพาะ ต่อให้เป็นจวนมหาเสนาบดีก็หาได้ยากนับประสาอะไรกับคุณหนูของเจ้าที่เติบโตมาจากบ้านนอก เกรงว่านางคงจะไม่เคยเห็นมาก่อน”

โตวโตวโมโหหน้าบึ้งตึง นางพ่นลมหายใจ “เพราะว่าพวกเราไม่เคยเห็นดังนั้นจึงไม่สนใจ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา