ก็แค่ความสามารถเล็กน้อยเท่านั้น เหลิ่งชิงฮวนจึงพาโตวโตวมาที่เรือนจื่อเถิง
ครั้งก่อนที่ทะเลาะกันขึ้นมาอย่างกะทันหันก็ผ่านไม่ได้เห็นหน้ามาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าวันนี้ต้องการอะไรถึงได้มาทำเป็นรักใคร่ห่วงใย
เธอหยุดฝีเท้าที่หน้าประตูเหลือบตามองจือชิวที่เดินอยู่ด้านหน้าก่อนจะกระแอม “ได้ยินว่าท่านอ๋องชอบสีเขียวมาก เป็นอย่างที่คิดลานหน้าประตูเรือนมิได้ปลูกดอกไม้พืชพันธุ์ที่ดึงดูดผึ้งและผีเสื้อ แต่ปลูกไม้เถาสีเขียวนี้เป็นพิเศษ กลับไปข้าจะตัดกระโปรงสีเขียวมาใส่เสียหน่อย”
โตวโตวรู้สึกประหลาดใจ คุณหนูของเธอเริ่มแย่งชิงความโปรดปรานตั้งแต่เมื่อไรกัน
จือชิวกลับเบือนหน้าไปมองชั้นวางดอกจื่อเถิง ดวงตาของนางเป็นประกายมีความรู้สึกบางอย่างที่แปลกจากปกติตีขึ้นมา
เมื่อเข้าไปในเรือนมู่หรงฉีก็เข้าประเด็นทันทีอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง “ได้ยินว่าวันนี้จวนท่านเคาท์ส่งยาเม็ดหนิงเซียงมาให้เจ้า”
เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า “เรื่องเล็กเช่นนี้ท่านอ๋องรู้ด้วยหรือเพคะ”
“ได้ยินชิงหลางพูดว่ามหาเสนาบดีเหลิ่งมักจะมีอาการปวดหัว ยาเม็ดหนิงเซียงนี้มีผลในการรักษาโรคได้”
“ท่านอ๋องหมายความว่าให้หม่อมฉันยอมหลีกทางหรือเพคะ”
มู่หรงฉีพยักหน้า “ในฐานะบุตรี แค่ยาเม็ดหนิงเซียงกล่องเดียวข้าคิดว่าเจ้าคงไม่ตระหนี่หรอกใช่ไหม”
“ท่านพ่อของหม่อมฉันชุบเลี้ยงนางสนมไว้ตั้งสามเรือน เขาแข็งแรงกว่าท่านอ๋องด้วยซ้ำจะต้องการยาเม็ดหนิงเซียงไปทำไม หากน้องสาวอยากกินก็พูดมาตามตรง ไม่เห็นต้องพูดจาวกไปวนมาเช่นนี้”
เหลิ่งชิงหลางถูกพูดแทงใจดำ “ท่านพี่เข้าใจผิดแล้ว ข้าเพียงแค่ได้ยินว่าท่านพี่ไม่ต้องการจึงมาขอร้องแทนท่านพ่อ หากท่านพี่ไม่ยินยอมก็ช่างเถอะ”
คำพูดนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังเปรียบเทียบระหว่างนางสองคนว่าเหลิ่งชิงฮวนอกตัญญู ของที่ไม่ต้องการกลับไม่ยอมยกให้พ่อของตน
เหลิ่งชิงฮวนระบายยิ้มบางๆ “ไม่ใช่ว่าข้าไม่ยอม แต่ยาเม็ดหนิงเซียงนี้มิใช่ของดีอะไร หนำซ้ำยังเป็นพิษอะไรที่ไม่ชอบก็จงอย่าทำใส่ผู้อื่น จะให้ข้ามอบให้ท่านพ่อได้อย่างไร”
เหลิ่งชิงหลางหัวเราะ “คนที่ใช้ยาเม็ดหนิงเซียงมีเยอะแยะไป อีกทั้งยังเป็นของขวัญที่จวนท่านเคาท์มอบให้ท่านอ๋อง หากท่านพี่ไม่อยากให้ก็เอ่ยมาตามตรง อย่างนี้จะได้ไม่เจตนาทำให้ผู้ฟังตกอกตกใจหรอกใช่ไหม”
“ข้าเป็นหมอก็ย่อมชำนาญในการแยกแยะยา อยากได้เท่าไรข้าก็สามารถหลอมออกมาได้จะเสียดายไปทำไมล่ะ? หากมิใช่ว่าเป็นน้ำใจจากจวนท่านเคาท์ข้าก็คงโยนทิ้งไปนานแล้ว เจ้าเชื่อไหม? “
เหลิ่งชิงหลางเหลือบมองมู่หรงฉี “ข้าว่าแล้วว่าท่านพี่ต้องทิ้งไม่ยอมยกให้ท่านพ่อ ท่านอ๋อง ช่างเถอะเพคะ”
เวรเอ๊ย มือยุยงอันดับหนึ่ง บัวขาวแห่งเมืองหลวง เหลิ่งชิงหลาง
มู่หรงฉีมองเหลิ่งชิงฮวนอย่างเย็นชา “ยาเม็ดหนิงเซียงนี้เป็นที่แพร่หลายในฉางอันเมื่อสองสามร้อยปีก่อนแต่ก็ไม่มีหมอคนไหนที่สามารถจำแนกส่วนประกอบของยาได้ แต่พระชายาของข้าเก่งจริงๆ ถึงได้มองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าคือยาพิษ”
คำพูดนั้นเต็มไปด้วยการเสียดสีและมีความนัย
“พอเท่านี้เถอะเพคะ หากท่านอยากตายหม่อมฉันก็จะไม่ห้าม”
มู่หรงฉียกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว “หนึ่งพันสองร้อย”
“เพคะ? “
“ข้าขอซื้อยาเม็ดหนิงเซียงหนึ่งพันสองร้อยตำลึง”
เหลิ่งชิงฮวนหรี่ตา “ท่านอ๋องยอมใช้เงินเป็นพันตำลึงเพื่อเอาใจน้องสาวของหม่อมฉันช่างน่าซาบซึ้งจริงๆ แต่ว่าข้าไม่สนใจเงินหนึ่งพันสองร้อยตำลึงของท่านหรอกเพคะ”
“สองพัน”
เหลิ่งชิงฮวนที่หันหลังเดินไปตาเป็นประกาย
“สามพัน”
“ห้าพัน ห้ามขาดแม้แต่ตำลึงเดียวเพคะ”
“อีกประเดี๋ยวข้าจะสั่งให้คนเอาเงินมาให้เจ้า”
เหลิ่งชิงหลางโมโหจนกระทืบเท้า “ท่านพี่พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ? “
มู่หรงฉีลุกขึ้นในใจรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ทั้งๆ ที่วันนี้เขาเป็นฝ่ายชนะแต่ทำไมเมื่อเห็นสตรีนางนั้นจากไปด้วยท่าทางพอใจกลับรู้สึกเหมือนตนเองเสียเงินห้าพันสองร้อยตำลึงเพื่อซื้ออุจจาระอย่างนั้นแหละ
เขาหันหน้าไปมองเหลิ่งชิงหลางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความรู้สึกลังเลในใจ “ได้ยินว่านักพรตในยุทธภพเป็นผู้หลอมยาเม็ดหนิงเซียงนี้ บางทีมันอาจจะเป็นอย่างที่นางพูด อีกทั้งยังเป็นยาใช้ดับกระหาย หากไม่ใช่เพื่อรักษาโรคเจ้าก็อย่าใช้มันโดยประมาทแล้วกัน”
เมื่อพูดจบขายาวก็ก้าวออกไปทันที
เหลิ่งชิงหลางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็ยังคงรู้สึกพอใจ มู่หรงฉียอมเสียเงินพันตำลึงเพื่อแลกกับรอยยิ้มของนาง นั่นหมายความว่าในใจของเขานั้นนางก็มีความสำคัญ
เมื่อคิดดังนั้นก็รู้สึกสบายใจ ไม่คิดจะฟังคำเตือนของเขา รอแม่หวังนำยาเม็ดหนิงเซียงมาให้ก็รีบใช้ทันที นางเพียงแค่รู้สึกว่าตนเองสวยขึ้นทุกวัน ขอเพียงแค่ในใจของมู่หรงฉีมีแต่นางต่อให้ถูกพิษก็คุ้มค่า
มู่หรงฉีไม่ผิดคำสัญญา เขารีบสั่งให้คนจวนนำเงินไปมอบให้นางทันที
นี่คือเงินก้อนแรกที่เธอหามาได้ในยุคนี้ ดังคำกล่าวที่ว่าเมื่อมีเงินมากๆ ก็จะมีความมั่นใจที่จะลงหลักปักฐานกับอนาคตของลูก
มู่หรงฉีอยู่ที่จวนไม่บ่อยนักเพราะเขามักจะไปที่ค่ายทหาร เวลาว่างตอนอื่นท่านอ๋องก็มักจะเล่นสุนัขเล่นนกประลองจิ้งหรีดหรือไม่ก็ดื่มเหล้าเล้าโลมสตรี มีเพียงเขาที่ยุ่งจนไม่มีเวลาร่วมหอหรืออาจเป็นเพราะเขาไม่อยากเห็นใบหน้างดงามจนมัจฉาจมวารีของเธอ
เป็นอีกสองวันที่สงบสุข
ประตูจวนถูกเปิดออก จือชิวที่สวมกระโปรงสีเขียวเดินถือตะกร้าเข้ามาอย่างเย่อหยิ่ง เมื่อเห็นโตวโตวที่กำลังนั่งปอกถั่วลิสงอยู่ก็เชิดหน้าชูคอ “คุณหนูของเจ้าล่ะ”โตวโตวทนไม่ได้ที่จะเห็นใบหน้าเช่นนั้นของจือชิวจึงเอ่ยกระแทกเสียง “พระชายาของพวกเรากำลังพักผ่อนอยู่”
จือชิวกระแอมเบาๆ “ลิ้นจี่ที่วังหลวงส่งมาให้ล้วนถูกขนส่งมาจากทางใต้ด้วยม้าเร็วจึงยังคงสดใหม่ ท่านอ๋องนำมันไปให้คุณหนูของข้าหมดแล้ว คุณหนูของข้าเห็นว่ามันมากไปกินไม่หมดจะทิ้งก็เสียดาย จึงให้ข้านำมาให้คุณหนูใหญ่ ถือเป็นการตอบแทนเรื่องยาเม็ดหนิงเซียง”
โตวโตวโยนถั่วลิสงในมือกลับลงไปในถ้วย “ขอบพระทัยน้ำใจของชายารอง วันนี้พระชายาของข้าได้รับสิ่งของมากมาย อย่าว่าแต่ผลไม้เลย โสมกับรังนกพันธุ์ดีก็ไม่มีขาด เจ้านำกลับไปเถอะ”
จือชิวคล้องตะกร้าไว้กับแขนก่อนจะหยิบลิ้นจี่ออกมาหนึ่งลูกยื่นไปตรงหน้าโตวโตว “นี่คือสนมยิ้ม มันถูกแช่ในน้ำแข็งและส่งเข้ามาเป็นเครื่องบรรณาการโดยเฉพาะ ต่อให้เป็นจวนมหาเสนาบดีก็หาได้ยากนับประสาอะไรกับคุณหนูของเจ้าที่เติบโตมาจากบ้านนอก เกรงว่านางคงจะไม่เคยเห็นมาก่อน”
โตวโตวโมโหหน้าบึ้งตึง นางพ่นลมหายใจ “เพราะว่าพวกเราไม่เคยเห็นดังนั้นจึงไม่สนใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...