จือชิวโยนตะกร้าลงกับพื้นจากนั้นก็หันหลังกลับและจากไป “ถือว่าข้าเอาลิ้นจี่มาให้แล้ว จะรับหรือไม่ก็แล้วแต่คุณหนูใหญ่ เด็กรับใช้อย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจ”
โตวโตวรีบเดินตามไปหยิบตะกร้าแล้วยัดใส่แขนของนาง “ขอบคุณคุณหนูรองสำหรับความเมตตา ลิ้นจี่นี้...”
ยังไม่ทันได้พูดจบจือชิวก็ปล่อยมือ ตะกร้าตกลงกับพื้นจนลิ้นจี่กระจัดกระจายกลิ้งกระเด็นกระดอนไปอยู่ใต้เท้านาง
จือชิวผงะก่อนจะขยี้ตาอย่างเสียใจ “คุณหนูของข้ามีเจตนาดี ทำไมเจ้าถึงไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเช่นนี้เล่า? “
นางย่อตัวลงหยิบลิ้นจี่ที่หล่นใส่กลับเข้าไปในตะกร้าทีละลูก แล้วเดินร้องไห้ออกไป
โตวโตวด่าทออย่างโกรธเคือง “เจ้านายเป็นอย่างไรบ่าวก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน วันๆ เอาแต่ทำท่าอวดดี แล้วทีแบบนี้จะมาร้องไห้ให้ใครดูกัน”
เหลิ่งชิงฮวนยืนอยู่ข้างหลังนางถอนหายใจ
“แน่นอนว่าเพื่อให้ท่านอ๋องดู ไม่เช่นนั้นเหลิ่งชิงหลางจะสั่งให้นางเอาลิ้นจี่ที่เหลือกินมาให้หรือ? ท่านอ๋องต้องอยู่ที่เรือนจื่อเถิงของนาง นางถึงได้จงใจแสดงความรักใคร่ระหว่างพี่น้องสั่งให้คนนำมาส่งให้ แต่จือชิวตั้งใจพูดจารุนแรงและทำให้เจ้าโกรธเพื่อที่จะได้กลับไปฟ้องว่าพวกเราไม่แยกแยะถูกผิด”
โตวโตวผงะไปชั่วครู่ “บ่าวทำผิดหรือเจ้าคะ? บ่าวเพียงแค่โกรธ ของที่วังหลวงมอบให้ก็ควรจะให้ท่านที่เป็นพระชายา แต่ท่านอ๋องกลับนำไปมอบให้คุณหนูรอง นางจงใจทำให้คุณหนูอับอายนะเจ้าคะ”
เหลิ่งชิงฮวนยิ้ม “ไม่สำคัญหรอก สิ่งที่นางต้องการคือสิ่งที่ข้าไม่สนใจ ทำไมข้าต้องสนใจว่ามู่หรงฉีจะคิดอย่างไร ข้าแค่อยากจะเตือนเจ้าว่าจือชิวนางร้ายกาจมาก ลูกไม้นางมีมากกว่าเหลิ่งชิงฮวน คราวหลังเจ้าต้องระวัง เถียงกับนางไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร หากจะตีก็ต้องตีให้ตรงจุด”
“แล้วจุดของนางอยู่ตรงไหนเจ้าคะ”
เหลิ่งชิงฮวนยิ้มตาหยี “ความทะเยอทะยาน”
“ทะเยอทะยานอะไรเจ้าคะ? “ โตวโตวถามอย่างไม่เข้าใจ
เหลิ่งชิงฮวนยิ้ม “เจ้าไม่คิดว่ากระโปรงสีเขียวที่นางสวมใส่วันนี้ดูสวยงามหรอกหรือ? “
โตวโตวไม่เข้าใจอยู่พักหนึ่ง จู่ๆ ทำไมคุณหนูถึงได้เปลี่ยนเรื่องล่ะ?
นางเกาหัวและเริ่มงุนงงมากขึ้น “ไม่สวยเลยเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินมาว่ามีเพียงพวกนางรำในสำนักสังคีตศิลป์เท่านั้นที่จะสวมใส่กระโปรงสีเขียวเช่นนี้”
เหลิ่งชิงฮวนกะพริบตา “หรือว่าเจ้าลืมไปแล้ว ครั้งก่อนที่เรือนจื่อเถิงข้าเคยพูดว่ามู่หรงฉีชอบสีเขียว ตอนนั้นจือชิวเองก็อยู่ข้างๆ “
โตวโตวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเข้าใจความหมายของเหลิ่งชิงฮวน
“คุณหนูหมายความว่าจือชิวกำลังคิดเอาอกเอาใจเพราะต้องการดึงดูดความสนใจของท่านอ๋อง!”
“ฉลาดมาก”
“แต่ทำไมบ่าวถึงไม่รู้สึกว่าท่านอ๋องชอบสีเขียว? สีมันสว่างมาก ใส่แล้วดูเหมือนหัวหอมเลยนะเจ้าคะ”
เหลิ่งชิงฮวนถูจมูก ไม่ได้ตอบข้อสงสัยของโตวโตวเพียงแค่ยกยิ้ม เขาชอบที่ไหนกันล่ะ น่าจะเกลียดด้วยซ้ำ โดยเฉพาะหมวกสีนี้
ณ เรือนจื่อเถิง
เหลิ่งชิงหลางกำลังปอกลิ้นจี่ให้มู่หรงฉี ปลายนิ้วเรียวยกขึ้น เล็บที่ทาด้วยสีดอกเทียนบ้านกรีดเปิดเปลือกลิ้นจี่สีแดงสดออกเผยให้เห็นเนื้อใสๆ ข้างใน ดูแล้วช่างเพลินตา
มู่หรงฉีปัดป้องลิ้นจี่ที่นางยื่นมาให้ “หวานเกินไป เจ้าชอบก็กินเถอะ”
เหลิ่งชิงหลางเปิดริมฝีปากสีแดงของนาง ยื่นปลายลิ้นสีชมพูออกมาและสอดลิ้นจี่เข้าไปในปากเล็กๆ ของนาง ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยเสน่ห์ ทั้งเรือนร่างของนางดูราวกับทำขึ้นมาจากหยดน้ำ
มู่หรงฉีตกตะลึง การเลี้ยงดูสตรีนางหนึ่งจะต้องมาจากภายในสู่ภายนอก แต่สตรีบ้าๆ บอๆ ที่ “ได้แล้วทิ้ง” อย่างเหลิ่งชิงฮวนคงไม่มีท่าทางสง่างามเช่นนี้
กิริยาหยาบคายของนางตอนที่หยิบเก้าอี้ฟาดคนเหมือนกับทุบแตงกวาผุดขึ้นมาในหัวเขาซ้ำๆ
ลิ้นจี่ในวันนี้เป็นของที่ฮ่องเต้ประทานให้กับเหลิ่งชิงฮวน แม้ว่าจะไม่ได้พูดอย่างชัดเจนแต่เขาก็รู้ได้ เพราะว่าเหลิ่งชิงฮวนอยู่ในจวนท่านเคาท์ คำนึงถึงหน้าพวกขุนนางในราชสำนักแล้ว หากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปจะไม่เป็นที่หัวเราะเยาะของประชาชนหรือ อำนาจของขุนนางจะเหลือเพียงใด?
แต่เมื่อเขากลับมาที่จวนและเดินไปที่ประตูแขวนดอกไม้ของเรือนหลัง เหลิ่งชิงหลางก็เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเขาเหมือนต้นหลิวล้อลมจากนั้นก็เหลือบมองตะกร้าในมือ
นางแอบดึงไพ่ตายใบสุดท้ายของนางออกมาต่อหน้ามู่หรงฉี อยากที่จะใช้มันกระตุ้นเพื่อให้มู่หรงฉีตัดสินใจขับไล่เหลิ่งชิงฮวนออกจากจวนให้เร็วที่สุด
ไพ่ตายใบนี้ก็คือตระกูลของแม่นาง จวนรองเสนาบดีกรมข้าราชการพลเรือน
กรมข้าราชการพลเรือนเป็นผู้บัญชาการของทั้งหกกรมซึ่งควบคุมการประเมินผลการปฏิบัติงาน การแต่งตั้งและการถอดถอนข้าราชการ อาจกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ในราชสำนักมีความเกี่ยวพันกัน นี่เป็นความช่วยเหลือที่ดีในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์
แต่ท่าทางของมู่หรงฉีทำให้คาดเดาอะไรไม่ออก
จือชิวถือตะกร้าเข้ามาพร้อมกับดวงตาแดง นางวางตะกร้าลงข้างๆ ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จา
เหลิ่งชิงหลางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงถามด้วยความกังวล “เกิดอะไรขึ้น”
จือชิวเงยหน้าขึ้นมองมู่หรงฉีด้วยสายตาที่น่าสงสาร จากนั้นกัดริมฝีปากล่างแน่นก่อนจะร้องไห้ “บ่าวนำลิ้นจี่ไปส่งให้คุณหนูใหญ่ตามคำสั่งฮูหยิน แต่ใครเล่าจะรู้ พวกนางไม่เพียงไม่สำนึกบุญคุณกลับโยนตะกร้าลงพื้นแล้วไล่บ่าวออกมา”
เหลิ่งชิงหลางตกตะลึง ดวงตาของนางมีน้ำใสคลอ จากนั้นก็แสร้งทำเป็นตำหนิ “เหลวไหล พี่สาวของข้าจะทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”
“จริงนะเจ้าคะคุณหนู คุณหนูก็รู้ว่าคุณหญิงใหญ่เกลียดคุณหนูมาตลอด ตอนอยู่ที่จวนมหาเสนาบดีเป็นอย่างไรตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น นางเห็นท่านอ๋องรักคุณหนูก็ไม่รู้ว่านางเกลียดชังคุณหนูมากแค่ไหน เมื่อเห็นลิ้นจี่นี่มีหรือจะไว้หน้าบ่าว คราวหลังอย่าให้บ่าวเอาความหวังดีไปให้กับคนแบบนี้อีกเลยนะเจ้าคะ”
เหลิ่งชิงฮวนยกยิ้ม “ท่านพี่อาจจะอารมณ์ไม่ดี หยุดพูดได้แล้ว”
จือชิวก้มหน้าลงและมองไปที่ตะกร้าลิ้นจี่ด้วยความเสียใจ “แล้วลิ้นจี่พวกนี้ล่ะเจ้าคะ? น่าเสียดายที่ร่วงลงพื้นหมดเลย”
เหลิ่งชิงหลางโบกมือ “ข้ากินไม่หมดหรอก เจ้านำไปแจกจ่ายให้คนอื่นได้ลองกินเถอะ”
ได้ยินเช่นนั้นจือชิวก็ดีใจ “ฮูหยินช่างดีกับบ่าวอย่างพวกข้าจริงๆ”
นางถือตะกร้ากลับไปที่ห้องของตน มองดูลิ้นจี่สีแดงสดในตะกร้าไหนเลยจะยอมแบ่งให้คนอื่น นางปอกเปลือกกินทีละลูกอย่างมีความสุขโดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...